Jump to content
Sign in to follow this  
วีโดราและมิเนอร์วา

Black remember ภารกิจพิเศษของ Minerva President (ฟิคฉลองวันเกิด)

Recommended Posts

Black remember

Special Mission บุบผางามที่เบ่งบานในโลกที่อับเฉา

22 ธันวาคม 2052 กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เวลา 8.00 pm

กรุงปารีส คือ เมืองหลวงของสาธารณะรัฐฝรั่งเศสเป็นมหานครที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซนทางตอนเหนือของประเทศบนใจกลางแคว้นอีลเดอร์ฟรองซ์ ในยุคปัจจุบันนี้กรุงปารีสเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยอิทธิพลของระบบการเมืองการปกครอง การศึกษา บันเทิง การสื่อสารและเทคโนโลยี แฟชั่นและการออกแบบ วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในมหานครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั่วทั้งเมืองแห่งนี้ถูกรายล้อมไปด้วยอาคารสูงเสียดฟ้าที่มีรูปทรงอันทันสมัยของบริษัทเอกชนต่าง ๆ โรงแรมหรู ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ มากมาย

ใจกลางย่านธุรกิจแห่งหนึ่งของกรุงปารีสในยามราตรี ยังคงสว่างไสวไปด้วยแสงไฟที่ส่องแสงสาดส่องลงมาจากตัวอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ บนถนนคนเดินนั้นก็ยังคงเต็มไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยว และบนท้องถนนนั้นก็เต็มไปด้วยยานพาหนะส่วนบุคลหรือรถยนต์ที่สัญจรผ่านไปมา ด้วยแสงสีเสียงที่แสนงดงามตระการตาเช่นนี้นี่เอง ที่ทำให้กรุงปารีสแห่งนี้เป็นเมืองมีชื่อเล่นหรือฉายาต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เมืองที่ไม่เคยหลับใหล นครแห่งแสงสี สวรรค์ของคู่รัก ศูนย์กลางแห่งแฟชั่นและการออกแบบของโลกยุคนี้ มหานครแห่งความทันสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทั้งหมดนี้คือกระจกที่สะท้อนความเป็นตัวตนของฝรั่งเศสออกมาให้โลกภายนอกได้รับรู้

ทว่าความงดงามที่เผยออกมาให้โลกภายนอกได้เห็นนั้น ยังมีความลึกล้ำดำมืดอยู่ภายใน ลึกลงไปยังใต้พื้นดินที่อยู่เบื้องล่างของใจกลางมหานครกรุงปารีสประมาณสามร้อยเมตร ยังมีสังคมอีกสังคมหนึ่งที่คนธรรมดาทั่วไปที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเบื้องหน้าไม่เคยได้รับรู้หรือสัมผัสกับมันมาก่อน ที่สังคมแห่งนี้ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมันได้รับการขนานนามจากกลุ่มบุคลที่อาศัยอยู่ในสังคมแห่งนี้ว่า โคลอสเซียม ดิ อันเดอร์กราวด์

โคลอสเซียม ดิ อันเดอร์กราวด์ คือ เวทีการต่อสู้ใต้ดินขนาดใหญ่ มันเป็นอาคารรูปทรงสว่านที่มีความลึกลงไปยังใต้พื้นดินอีกเจ็ดชั้น แต่ละชั้นจะมีขนาดและความกว้างที่ต่างกันไป ในชั้นที่หนึ่งซึ่งเป็นชั้นของเหล่าผู้ชมจะเป็นชั้นที่มีความกว้างมากที่สุด ส่วนชั้นสุดท้ายซึ่งเป็นชั้นของเหล่าผู้แข่งขันเป็นชั้นที่มีขนาด 30 คูณ 30 เท่านั้น

บนชั้นที่หนึ่งในส่วนของห้องโถงซึ่งเป็นบริเวณของแขกผู้เข้าชม ภายในนั้นเต็มไปด้วยแขกผู้ทรงเกียรติมากมายหลายร้อยคนที่มาจากประเทศต่าง ๆ มากมายหลายสิบประเทศ ซึ่งแขกเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่าง ๆ ในสังคมเบื้องหน้า บางคนเป็นดาราภาพยนตร์ นายแบบ หรือ นางแบบ นักธุรกิจพันล้าน นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ไปจนถึงนักการเมืองในบางประเทศ ทว่าในที่แห่งนี้พวกเขาทั้งหลายมารวมตัวกันเพื่อดื่มด่ำและเฉลิมฉลองไปกับ การแสดงศิลปะการต่อสู้ และความตายที่เกิดขึ้นที่ปรากฏอยู่บนจอมอนิเตอร์สามมิติที่หน้าเวที การพนันของพวกเขาเหล่านั้นเป็นวงเงินที่มีจำนวนสูงมาก บางคนพนันไปสิบล้านยูโรหรือบางคนก็พนันกันสูงถึงร้อยล้านยูโร ซึ่งการพนันเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการพนันที่ผิดต่อหลักกฎหมายสากล

ท่ามกลางแขกผู้ทรงเกียรติที่กำลังตื่นตาตื่นใจไปกับการต่อสู้ที่ฉายอยู่บนจอมอนิเตอร์กันอยู่นั้น สตรีนางหนึ่งซึ่งไม่เป็นที่รู้จักทว่าโดดเด่น นามของเธอคือ มิเนอร์วา เพรสซิเดนท์ (18 ปี) สาวอังกฤษผิวพรรณขาวนวล รูปร่างสูงเพรียวระหง หุ่นดีมาก ผมสีน้ำเงินยาวเงางาม ใบหน้าเรียวสวยได้รูปดูงดงามเป็นธรรมชาติ ดวงตาคมตาสองชั้นที่เปล่งประกายงดงามดั่งอัญมณีคู่นั้นมีสีที่ต่างกัน เธอมีนัยน์ตาข้างซ้ายสีอความาลีนและมีนัยน์ตาข้างขวาสีเขียวมรกต อยู่ในชุดสาวเสิร์ฟสีขาวที่ดูเรียบร้อยสะอาดตาและสวมกระโปรงสั้นสีดำ กำลังทำหน้าที่บริการบรรดาแขกผู้ทรงเกียรติทั้งหลายในงานอยู่

ในความเป็นจริงนั้น มิเนอร์วา คือสายลับสาวผู้มากด้วยความสามารถ และมีชื่อเสียงโด่งดังพอสมควร สมญานามของเธอคือ “เทพธิดาแห่งสมรภูมิ” และที่เด็กสาวต้องเข้ามาทำงานในที่แบบนี้ไม่ได้เป็นเพราะ ชอบ หรือ มีงานอดิเรกแบบแปลก ๆ แต่อย่างใด แต่ที่เด็กสาวมาทำงานในสถานที่แบบนี้ เป็นเพราะเธอได้รับมอบหมายงานชิ้นหนึ่งมาจาก ฮันนิบาล เลสเตอร์ ผู้เป็นเจ้านายของเธอ ว่าให้เธอแฝงตัวเข้ามาทำงานในฐานะสาวเสิร์ฟภายในงานนี้ เพื่อเข้ามาทำการจารกรรมข้อมูลทุกอย่างของนาย ฟรานเชสโก้ ฟรังโก้ นักธุรกิจพันล้านผู้เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมหรูและบ่อนคาสิโนหลายสิบแห่งในประเทศฝรั่งเศส แต่มีเบื้องหลังเป็นทั้งนักค้าอาวุธอิสระและยังเป็นเจ้าของเวทีต่อสู้ใต้ดินแห่งนี้

ภายในงานแห่งนี้นอกจาก มิเนอร์วา ที่แฝงตัวเข้ามาทำงานในฐานะสาวเสิร์ฟแล้ว ยังมีบุรุษอีกนายหนึ่งนามของเขาคือ เลนิน ฮาซาร์ด (25 ปี) หนุ่มรัสเซียรูปร่างสูงสง่าอยู่ในชุดสูทสีดำผูกเนกไทสีแดง ผมสั้นประบ่าสีแดงเพลิง รูปหน้าคมคาย ดวงตาคม ตาสองชั้นที่มีสีทองเหมือนกับทองคำบริสุทธิ์คู่นั้นดูลึกล้ำและเย็นชา

ชายหนุ่มกำลังเดินอยู่ที่มุมหนึ่งภายในงานเฉลิมฉลองพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ งานเพื่อมองหาเป้าหมายของเขาอย่างใจเย็น

จากข้อมูลที่มีอยู่ภายในองค์กร SPHERE เลนิน ฮาซาร์ด คือเจ้าหน้าที่พิเศษที่อันตรายที่สุดคนหนึ่งของกองกำลังพิเศษ SPHERE เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ทุกชนิดและการสู้รบทุกรูปแบบ ที่แฝงตัวเข้ามาภายในงานฉลองครั้งนี้ ในฐานะนักค้าอาวุธอิสระที่ชื่อว่า รัสปูติน เพื่อตามล่าชายที่ชื่อ นิโคลาย รูวินสกี้ ผู้ก่อการร้ายอิสระอดีตสายลับรัสเซียที่ถูกทางรัฐบาลรัสเซียตามล่าในโทษฐาน วางระเบิดทำเนียบรัฐบาลและสถานทูตรัสเซียในหลาย ๆ ประเทศ ก่อนจะหายตัวไป

สิ่งที่ปรากฏอยู่ในแววตาของสายลับหนุ่มสุดอันตรายผู้นี้คือ ภาพของชายคนหนึ่งที่อยู่ในขุดสูทสีขาวกำลังนั่งจิบเหล้าวอดก้าอยู่ที่มุมหนึ่งภายในงาน นิโคลาย รูวินสกี้ (28 ปี) หนุ่มอิตาลีร่างสูงโปร่ง ผมสั้นสีเทาจัดทรงมาอย่างดี ใบหน้าแหลมเรียว ดวงตาสีน้ำตาล

จากสายตาของสายลับหนุ่มสุดอันตราย นิโคลาย ชายผู้ตกเป็นเป้าหมายของเขากำลังดื่มเหล้ายี่ห้อวอดก้าอยู่ ท่ามกลางแขกที่กำลังสนอกสนใจงานแข่งขัน

เลนิน ฮาซาร์ด ก็หยิบไวน์จากสาวบริการคนหนึ่งที่ยกมาเสิร์ฟขึ้นมาดื่มช้า ๆ จนหมดแก้วซะก่อนจะเดินไปหาเป้าหมายอย่างเนิบ ๆ

บนทางเดินลับสีขาวที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของตัวอาคารสตรีนางหนึ่งนาม มิเนอร์วา ที่อยู่ในชุดสาวเสิร์ฟสีขาว กำลังเดินเข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่เบื้องหน้าของเธอ มันเส้นทางที่เข้าไปสู่ห้องเก็บข้อมูลลับ

หญิง สาวก้าวเท้าผ่านเข้ามายังสถานที่ลับซึ่งมีน้อยคนนักที่จะรู้จัก ซึ่งมันก็คือทางเข้า-ออกของห้องเก็บข้อมูลลับสุดยอดของ ฟรานเชสโก้ ฟรังโก้ มหาเศรษฐีพันล้านผู้เป็นเจ้าของลานประลองต่อสู้ใต้ดินแห่งนี้ พื้นที่โดยรอบนั้นมันถูกรายล้อมไปด้วยรูปปั้นที่เป็นรูปสิงโตจำนวนเจ็ดตัว มีสามตัวอยู่ทางด้านซ้าย อีกสามอยู่ทางด้านขวามือ และมีตัวหนึ่งอยู่ที่ทางด้านหน้าของทางเข้าไปยังห้องเก็บข้อมูลภายใน และที่สำคัญ รูปปั้นรูปสิงโตพวกนี้มันไม่ใช่รูปปั้นแบบธรรมดาทั่วไป แต่มันเป็นรูปปั้นที่มีแสงเลเซอร์กันขโมยหลากสีสันที่ถูกยิงออกมาจากปาก หรือ ลูกตาของพวกมัน

“มีเลเซอร์กันขโมยติดอยู่งั้นเหรอ คงต้องผ่านมันไปให้ได้สินะ”

มิเนอร์วาใช้ดวงตาคู่สวยของเธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง พร้อมกับใช้สมาธิในการวิเคราะห์และคำนวณการเคลื่อนที่ของแสงเลเซอร์กันขโมยทั้งหมดอย่างใจเย็น

หลัง จากที่หญิงสาวใช้สมาธิไปกับการวิเคราะห์และคำนวณการเคลื่อนที่ของแสงเลเซอร์ เสร็จแล้ว หญิงสาวก็ย่อตัวลงพร้อมกับเดินหลบแสงเลเซอร์เส้นที่หนึ่งไปได้อย่างสบาย ๆ แล้วกะจังหวะให้ดี ๆ ซะก่อนที่จะกลิ้งหลบแสงเลเซอร์สีเขียวไปได้อย่างทันท่วงที ตามด้วยการย่อตัวลงแล้วเดินหลบหลีกแสงเลเซอร์สีเหลืองและเลเซอร์สีส้มอีก เส้นหนึ่งที่กำลังประชิดตัวเข้ามาได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนจะก้มตัวลงเพื่อหลบแสงเลเซอร์สีน้ำเงินที่เคลื่อนที่ไปมาอยู่บนศีรษะ แล้วกลิ้งหลบเลเซอร์สีฟ้าไปได้ด้วยลีลาที่อ่อนช้อยและงดงาม แล้วหลังจากนั้นสายลับสาวก็หันไปมองทางด้านซ้ายและขวามือของเธอสลับกันไปมา สักที ก่อนจะหมอบตัวลงกับพื้นแล้วกลิ้งหลบแสงเลเซอร์สีแดงไปได้อย่างเฉียดฉิว ตามด้วยการกลิ้งตัวหลบแสงเลเซอร์สีน้ำเงินซึ่งเป็นเส้นสุดท้ายไปได้อย่าง สง่างาม

หลังจากที่ลีลาการร่ายรำที่งดงามในการหลบหลีกเลเซอร์กันขโมยของ มิเนอร์วา จบลง หญิงสาวก็เดินเข้าไปยังประตูทางเข้าของห้องเก็บข้อมูลลับ ที่หน้าประตูมีกลอนประตูแบบใช้รหัสผ่านติดไว้อยู่ และมันก็ทำให้เธอต้องหยุดพิจารณาสักครู่หนึ่ง

“รหัสผ่านรึ ถ้าจำไม่ผิดมันก็....”

มิเนอร์วา วิเคราะห์เสร็จแล้ว เธอก็ใช้นิ้วมือเรียวเล็กกดพิมพ์รหัสผ่านชุดหนึ่งเข้าไป ตัวเลขที่ปรากฏขึ้นมาบนจอนั้นก็คือ

“1140694826535”

พริบตานั้นประตูเลื่อนอัตโนมัติก็เปิดออก แล้ว มิเนอร์วา ก็ก้าวเท้าผ่านเข้าไปในห้อง

มิเนอร์วาลอบเข้ามาในห้องเก็บข้อมูลลับได้สำเร็จ หญิงสาวก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ภายในนั้นเต็มไปด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการลับมากมาย ก่อนที่เธอจะหันไปมองคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่อยู่กลางห้อง แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นทันที

มิเนอร์วาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทันที ภาพที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอก็คือ คำถามหนึ่งคำถามที่ออกมาพร้อมกับตัวเลขชุดหนึ่งที่ถูกเขียนเอาไว้อย่างมั่ว ๆ

จงพิมพ์รหัสผ่านจากตัวเลขที่มีอยู่ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

27071953010719542211198020071988110920011912194611112012011119551505197525061950

“รหัสผ่านที่ถูกต้องอย่างนั้นเหรอ”

สายลับสาวผู้อยู่เยือกเย็นอยู่เป็นนิจครุ่นคิด ถึงสิ่งที่ตัวเลขจำนวนหนึ่งปรากฏออกมาให้เห็นผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์

“คงต้องตรวจสอบตัวเลขพวกนี้ก่อนสินะ ถึงจะรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่”

สายลับสาวละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วเอื้อมมือไปหยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่งเพื่อจดตัวเลขทั้งหมดที่ปรากฏอยู่บนจอลงมาบนแผ่นกระดาษ

บนชั้นที่หนึ่งภายในห้องโถงบริเวณที่จัดงานท่ามกลางเหล่าคนดังที่กำลังเฉลิมฉลองและเล่นการพนันกันอยู่ บุรุษสุดอันตรายผู้มีนามว่า เลนิน ฮาซาร์ด กำลังจับจ้องมองไปยัง นิโคลาย รูวินสกี้ ที่กำลังเดินอยู่ที่มุมหนึ่งภายในงาน

“คงถึงเวลาลงมือแล้ว”

สายลับหนุ่มสุดอันตรายจึงหยิบเหล้าวอดก้าขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว แล้วลุกขึ้นหันไปมองรอบ ๆ งานเพื่อดูให้แน่ใจก่อนว่าแขกกำลังสนอกสนใจการแข่งขันกันอยู่หรือเปล่า เมื่อเห็นว่าแขกทั้งหลายกำลังใจจดใจจออยู่ที่การแข่งขันมากกว่า เขาจึงเดินไปหาเป้าหมายของเขาอย่างใจเย็น

สายลับหนุ่มสุดอันตราย เลนิน ฮาซาร์ด กำลังเดินไปหาชายผู้ตกเป็นเป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเนิบโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ขณะเดียวกัน นิโคลาย ผู้ก่อการร้ายอิสระเองก็กำลังเดินมาทางเขาโดยที่ไม่รู้ตัว

ใน วินาทีที่บุรุษทั้งสองกำลังเดินสวนกันอยู่นั้น สายลับหนุ่มสุดอันตรายก็ล้วงมือเจ้าไปในกระเป๋าเสื้อหยิบของบางสิ่งออกมา แล้วเก็บมันเข้าไปในกระเป๋าอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีผู้ใดทันสังเกตเห็นวัตถุ รูปทรงประหลาดชิ้นนั้น

“เรียบร้อย”

สายลับหนุ่มสุดอันตรายหันไปชำเลืองมองชายผู้ตกเป็นเป้าหมายในภารกิจครั้งนี้ของเขาสักพัก ก่อนจะเดินผ่านบรรดาแขกผู้มีเกียรติออกไปจากงานได้อย่างไร้ร่องรอย

นิโคลายที่ยังไม่รู้สึกตัวว่าโดนกระทำบางอย่างจากของบางสิ่ง ได้เดินมานั่งลงบนเก้าอี้ของเขา เอื้อมมือไปหยิบเหล้ามาเทใส่แก้วแล้วดื่มมันลงไปในคอ ทว่าฉับพลันนั้น นิโคลาย ก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างราวกับว่ามันกำลังจะฉีกกระชากร่างกายเขาให้แยกออกจากัน ก่อนจะเอามือไปคลำบริเวณหน้าอกและสิ่งที่เขาพบก็คือ

“เลือด” ใช่สิ่งที่ นิโคลาย ผู้ก่อการร้ายอิสระเห็นมันก็คือ “เลือด”

โลหิตสีแดงฉานที่กำลังทะลักออกมาจากทางปากแผลที่ถูกแทงด้วยวัตถุประหลาดบางอย่างนั้น มันกำลังกระตุ้นให้ นิโคลาย ผู้ก่อการร้ายที่ได้กลายมาเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย พยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่

สิ่งที่อยู่ในความทรงจำของผู้ก่อการร้ายอิสระก่อนตายคือภาพของเหตุการณ์ช่วงหนึ่งที่พึ่งเกิดขึ้นไปเมื่อสักครู่ นั่นคือ ตอนที่เขากำลังเดินสวนกับ บุรุษลึกลับผู้หนึ่งที่มีผมสีแดงเพลิง ดวงตาคมนัยน์ตาสีเหลืองทอง แล้วชายคนนั้นคว้าของบางสิ่งซึ่งแท้ที่จริงแล้วมันก็คือ “มีด” ออกมาจากกระเป๋าแล้วเสียบมันเข้าที่หัวใจของเขาอย่างรวดเร็วจนไม่ทันสังเกตเห็น

ทว่ามันกลับสายไปเสียแล้ว เพราะ ตอนนี้สติของ นิโคลาย กำลังเรือนรางแล้วหมดสติก่อนที่จะหลับตาลงเข้าสู่ห้วงมรณะไปอย่างเดียวดายในโลกที่เหมือนกับกองขยะโดยไม่มีใครรู้ หรือ สังเกตเห็นใด ๆ

ภายในห้องเก็บข้อมูลลับสุดยอดของเวทีต่อสู้ใต้ดินขนาดสตรีในชุดสาวเสิร์ฟนางหนึ่งนามของเธอก็คือ มิเนอร์วา กำลังนั่งจดตัวเลขที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงบนแผ่นกระดาษ ก่อนที่จะนำมันมานั่งวิเคราะห์ว่า ตัวเลขเหล่านั้นมันมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่

หญิงสาวกำลังนั่งวิเคราะห์อย่างใจเย็น สิ่งที่อยู่ในความคิดของเธอในตอนนี้คือ ตัวเลขชุดซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์

“ฉันรู้แล้ว ว่าตัวเลขพวกนี้มันมีอะไรซ่อนอยู่”

หญิงสาวเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ก่อนที่จะพิมพ์ตัวเลขทั้งหมดลงบนกระดาษอีกใบ แต่สิ่งต่างกันออกไปก็คือ ตัวเลขที่เธอเขียนขึ้นใหม่นั้นมันถูกแบ่งออกเป็นชุด ๆ จำนวนชุดละเจ็ดหลัก

27071953010719542211198020071988110920011912194611112012011119551505197525061950

11092001111120120111195515051975250619502707195319121946010719542211198020071988

11092001 11112012 01111955 15051975 25061950 27071953 19121946 01071954 22111980 20071988

“ที่แท้ตัวเลขทั้งหมดนี้มันคือ เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์โลกนี่เอง”

สิบห้านาทีผ่านไปหลังจากที่ มิเนอร์วา นั่งเรียบเรียงตัวเลขทั้งหมดที่อยู่ในความคิดของเธอออกแล้ว จึงพิมพ์ข้อความที่เป็นตัวเลขชุดหนึ่งลงไป

11092001

11112012

01111955

15051975

25061950

27071953

19121946

01071954

22111980

20071988

หลังจากที่หญิงสาวพิมพ์ข้อความเสร็จแล้ว สิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตอนนี้คือช่วงเวลาที่ต้องลุ้นระทึก เพราะมันคือ การนับถอยหลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

เหลือเวลาอีก 30 % จะเข้าสู้แฟ้มข้อมูลลับ

เหลือเวลาอีก 20 % จะเข้าสู้แฟ้มข้อมูลลับ

เหลือเวลาอีก 10 % จะเข้าสู้แฟ้มข้อมูลลับ

เข้าสู่ข้อมูลลับแล้ว

ภาพที่หญิงสาวเห็นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็คือ ภาพของแฟ้มข้อมูลลับที่อยู่ในส่วนต่าง ๆ ของ เวทีการต่อสู้ใต้ดินแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลส่วนตัวของนายฟรานเชสโก้ ฟรังโก้ รายชื่อของสมาชิกทั้งหมดที่เข้าร่วม ตัวเลขการพนันของบุคลเหล่านั้น และ พิมพ์เขียวของตัวอาคาร

มิเนอร์วา หยิบแผ่นดีวีดีขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วใส่มันเข้าไปในช่องเก็บซีดีของเครื่องคอมพิวเตอร์ ก่อนจะเริ่มทำการดาวโหลดข้อมูลทั้งหมดลงแผ่น

เหลือเวลาอีก 30 วินาที การดาวโหลดจะเสร็จสมบูรณ์

เหลือเวลาอีก 20 วินาที การดาวโหลดจะเสร็จสมบูรณ์

เหลือเวลาอีก 10 วินาที การดาวโหลดจะเสร็จสมบูรณ์

การดาวโหลดเสร็จสมบูรณ์

“บิงโก สำเร็จแล้ว”

หลังจากที่ดาวโหลดข้อมูลทุกอย่างเสร็จสิ้น หญิงสาวก็จัดการเก็บแผ่นดีวีดีใส่กระเป๋า ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อย ก่อนเดินออกจากห้องนี้มุ่งตรงไปยังทางเข้า-ออก ที่เคยผ่านเข้ามา

มิเนอร์วา หยุดเดิน เบื้องหน้าของเธอคือ รูปปั้นที่เป็นรูปสิงโตที่มีอยู่ทั้งหมดเจ็ดตัวแต่ละตัวนั่นมันก็มีแสงเลเซอร์หลากสีที่ถูกยิงออกมาจากทางปาก หรือ ลูกตาของรูปปั้นพวกนั้น

“คงต้องออกกำลังกายกันอีกหน”

หญิงสาวจึงใช้มือรวบผมให้เป็นทรงหางม้า แล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะใช้สมาธิทั้งหมด เพื่อทำการวิเคราะห์และคำนวณการเคลื่อนที่ของแสงเลเซอร์ที่ติดไว้อยู่ทั่วห้อง

ห้านาทีผ่านไป หลังจากที่สายลับสาววิเคราะห์เสร็จแล้ว เธอก็หมอบตัวลงกับพื้นแล้วกลิ้งหลบแสงเลเซอร์สีแดงที่อยู่บนศีรษะ มองไปยังแสงเลเซอร์สีน้ำเงินสองเส้นที่ขนาบข้างมาแล้วกลิ้งหลบแสงเลเซอร์สอง เส้นนั้นไปได้อย่างฉิวเฉียด ตามด้วยการมองความเคลื่อนที่ของแสงเลเซอร์สีเหลืองที่อยู่ข้างหน้าแล้วย่อ ตัวลงเดินหลบมันไปได้อย่างสบาย ๆ สายตาของสายลับสาวหยุดอยู่ที่แสงเลเซอร์สีเขียวกับสีฟ้าที่กำลังเคลื่อนที่ เข้ามาหาแล้วย่อตัวลงกับพื้นค่อย ๆ กลิ้งหลบแสงเลเซอร์สองเส้นไปได้ด้วยลีลาที่เหนือชั้น กวาดสายตามองไปยังแสงเลเซอร์สามเส้นสุดท้ายที่กำลังเคลื่อนที่อยู่นั่นคือ แสงเลเซอร์สีส้มกับแสงเลเซอร์สีแดงอีกสองเส้น ก่อนจะย่อตัวลงกับพื้นเพื่อเดินหลบแสงเลเซอร์สีส้มที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามา หาไปได้ด้วยลีลาที่อ่อนช้อยงดงาม จากนั้นก็ตามด้วยหมอบลงกับพื้นเพื่อหลบแสงเลเซอร์สีแดงที่อยู่เหนือศีรษะ ก่อนกลิ้งแสงเลเซอร์อีกเส้นไปได้อย่างสง่างาม

หลังจากที่ลีลาการหลบหลีกแสง เลเซอร์ที่แสนงดงามของสายลับสาวจบลง เธอก็เดินออกไปจากสถานที่ลับแห่งนี้เพื่อมุ่งขึ้นไปยังด้านเหนือของตัวอาคาร ซึ่งเป็นทาง-เข้าออกเพียงทางเดียวของเวทีลานต่อสู้ใต้ดินแห่งนี้

ทาง ด้านเหนือของตัวอาคาร มีลิฟต์อยู่ตัวหนึ่งซึ่งมันคือทางเข้า-ออก ที่จะขึ้นไปยังเหนือพื้นดิน เพียงแห่งเดียวของเวทีลานต่อสู้ใต้ดินแห่งนี้ พื้นที่โดยรอบบริเวณหน้าลิฟต์ตัวนั้นมันมีพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จำนวนหนึ่งกำลังทำงานกันอยู่ พวกเขาเหล่านั้นจะคอยทำหน้าที่ตรวจบัตรสมาชิกของผู้เข้ามาร่วมชมงานและบัตร ประจำตัวของเหล่าพนักงาน หากผู้ใดไม่มีก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง

บนทางเดินเส้นทางหนึ่งที่อยู่ บริเวณห้องโถงซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน เลนิน ฮาซาร์ด กำลังเดินออกมาเดินออกมาห้องโถงจากหลังจากที่เขาทำภารกิจเสร็จแล้ว ขณะนี้เขากำลังเดินผ่านพวกเจ้าหน้าที่พนักงานและสมาชิกผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ ไปยังอุโมงค์ทางเดินซึ่งเป็นทางเดินที่เชื่อมต่อกันระหว่างตัวอาคารที่อยู่ ทางด้านเหนือกับห้องโถงซึ่งเป็นที่จัดงาน

เมื่อสายลับหนุ่มเดินเข้ามาถึงอุโมงค์ทางเดินใต้ดิน เขาจึงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ท่ามกลางกลุ่มคนที่กำลังเดินผ่านมาและผ่านไป แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่ามีสาวเสิร์ฟคนหนึ่งกำลังเดินผ่านเข้ามายังอุโมงค์ทางเดินแห่งนี้

จากสายตาของชายหนุ่มที่มองไปยังสาวเสิร์ฟคนนั้น สิ่งแรกที่เขามองเห็นคือ ท่าทางการเดินที่ดูดีมีบุคลิกและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ซึ่งแตกต่างไปจากสาวเสิร์ฟคนอื่น ๆ ที่เขาเคยเห็นภายในงาน

สิ่งที่สองที่ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกตเห็นคือ การแต่งตัวที่ดูเรียบร้อยสะอาดสะอ้านต่างไปจากพนักงานคนอื่น ๆ

ตามด้วยสิ่งที่สามซึ่งเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกตเห็นนั่นคือ รูปร่างหน้าตาของหญิงสาว จากสายตาของสายลับหนุ่มสาวเสิร์ฟคนนั้นมีผิวพรรณที่ขาวนวลเป็นธรรมชาติ และรูปร่างงดงามไม่ต่างไปจากนางแบบหรือดาราบนนิตยสารวัยรุ่น

สิ่งสุดท้ายที่ชายหนุ่มสังเกต เห็นและเริ่มทำการค้นคว้าอย่างละเอียดคือ สีหน้าและแววตาของสาวเสิร์ฟคนนั้น เขาสังเกตว่าสาวเสิร์ฟคนนั้น มีใบหน้าสงบนิ่งดูสง่างาม ผมสีน้ำเงินยาวสยายไปถึงกลางหลังที่ดูเงางาม และสิ่งที่เป็นที่น่าสังเกตที่สุดคือ ดวงตาคู่สวยชวนหลงใหลของสาวเสิร์ฟคนนั้นที่มีตาสองสีที่ต่างกัน เพียงเท่านั้นเขาก็ได้ข้อสรุปทันทีว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน

“ยัยนั่นมัน ดอกไม้งามในกองขยะชัด ๆ”

สิ่งที่อยู่ในความคิดของ เลนิน ฮาซาร์ด หลังจากที่เขาพิจารณาส่วนต่าง ๆ ของสาวเสิร์ฟคนนั้นเสร็จแล้ว

“ยัยนั่นมันเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงมาทำงานในที่แบบนี้ หรือว่า...”

สายลับหนุ่มสุดอันตรายตั้งข้อสันนิฐานต่าง ๆ เอาไว้มากมาย เกี่ยวกับตัวจริงสาวเสิร์ฟนี้ว่าเธอเป็นใครกันแน่

สายลับหนุ่มจึงตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับสาวเสิร์ฟคนนั้นทันที

มิเนอร์วา ที่อยู่ในชุดสาวเสิร์ฟ กำลังเดินอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้คนในอุโมงค์ทางเดิน เธอกำลังมุ่งหน้าไปยังอาคารที่อยู่ทางด้านเหนือซึ่งเป็นทางเข้า-ออกเพียงแห่งเดียวของเวทีต่อสู้ใต้ดินแห่งนี้

“สวัสดี” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นทำให้ มิเนอร์วา ต้องหยุดชะงักแล้วหันไปมอง บุรุษผู้หนึ่งที่เดินเข้ามาทักทาย

สตรีในชุดสาวเสิร์ฟหันไปสบตากับบุรุษลึกลับผู้มีรูปร่างสูงสง่า ผมสีแดงเพลิงสั้นประบ่า ดวงตาสีทองดั่งทองคำบริสุทธิ์ สักพักด้วยท่าทีที่นิ่งเฉยแล้วหันกลับมาก่อนก้าวเท้าเดินต่อไป

“ผมรู้ว่าคุณเป็นสายลับ”เพียง คำพูดเบา ๆ ราวกับเสียงกระซิบ ทำให้ มิเนอร์วา หยุดชะงักแล้วหันไปมองด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง ทว่าในใจของเธอกับรู้สึกกังวลกับคำพูดเมื่อครู่ของชายผู้นี้

“ไม่ต้องกังวลไป ผมเองก็ทำงานแบบเดียวกับคุณ”

บุรุษลึกลับผู้อ้างตนว่าเป็นสายลับยื่นหน้าเข้าใกล้หญิงสาวแล้วกระซิบข้างหู

“ตามผมมา ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ”

บุรุษลึกลับผู้นั้นกระซิบครั้งสุดท้ายแล้วส่งเศษกระดาษชิ้นเล็ก ๆ แผ่นหนึ่งให้หญิงสาวอย่างลับ ๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น แล้วเดินนำหน้าไป

“หมอนั่น มันเป็นใครกัน”

หลังจากที่บุรุษลึกลับผู้อ้างตนเป็นสายลับเดินนำหน้าไปได้สักพัก แต่คำพูดเบา ๆ ราวกับเสียงกระซิบของเขานั้นยังคงดังกึกก้องอยู่ในหูของ มิเนอร์วา สิ่งที่อยู่ในความคิดของเธอในขณะนี้คือ

“นักฆ่าที่เจ้านั่นมันส่งมารึ”

“ไม่สิ ยังไม่ใช่”

“ถ้าเป็นนักฆ่าที่เจ้านั่นมันส่งมา ทำไมถึงต้องทำอะไรที่มันยุ่งยากขนาดนั้นด้วยล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าหมอนั่นมันเป็นใครกันแน่ หรือว่าเขาจะเป็น”

“ตามไปเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ”

มิเนอร์วาตั้งข้อสันนิฐานของตนเสร็จสิ้นแล้วจึงหยุดวิเคราะห์ไปในทันที แล้วเดินตรงไปยังหน้าลิฟต์ ยื่นบัตรประจำตัวพนักงานที่ใช้นามว่า “แองเจิ้ล ริส” ไปให้พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจแล้วยืนรอสักพักเพื่อให้พวกเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรพนักงาน

หลังจากที่พวกพนักงานรักษาความปลอดภัยตรวจบัตรเสร็จแล้วจึงส่งมันคืนให้กับหญิงสาว ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าอีกคนเอาผ้าสีดำมาปิตาของสายลับสาว แล้วนำเธอเข้าไปในลิฟต์เพื่อที่จะนำเธอไปส่งยังจุดหมาย

ที่หน้าสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงปารีส เวลา 8.30 PM

บนท้องถนนในยามราตรีมีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าประตูของสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง

“ลงไปซะ” เสียงของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเวทีการต่อสู้ที่ดังขึ้น ทำให้สตรีนางหนึ่งถอดผ้าปิดตาออกแล้วก้าวเดินลงมาจากรถ เธอคือสายลับสาวที่อยู่ในชุดสาวเสิร์ฟนาม มิเนอร์วา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ขับรถออกไปอย่างไม่สนใจ

หลังจากที่ มิเนอร์วา เห็นว่ารถคันนั้นแล่นออกไปได้สักพักแล้ว หญิงสาวจึงเดินผ่านผู้คนที่กำลังสัญจรผ่านไปมาออกไปจากบริเวณสวนสาธารณะ ก่อนหยุดเดินแล้วหยิบเศษกระดาษชิ้นเล็ก ๆ แผ่นหนึ่ง ที่บุรุษลึกลับผู้มีผมสีแดงเพลิงออกมาอ่าน

“ผมอยากให้คุณมาที่ภัตตาคารตอนสามทุ่ม มีเรื่องสำคัญจะคุย”

หลังจากที่ มิเนอร์วา อ่านข้อความบนเศษกระดาษจบแล้ว เธอก็เข้าใจได้ในทันทีว่า บุรุษลึกลับผู้มีผมสีแดงเพลิงคนนั้นเป็นสายลับอย่างที่เขาบอกกับเธอไว้จริง ๆ แต่ตอนนี้เธอกำลังสงสัยอยู่ว่า ชายคนนั้นมีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับเธอที่ภัตตาคาร

ในภัตตาคารอาหารริมระเบียงของโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปจากย่านธุรกิจของกรุงปารีสไปประมาณสิบกิโลเมตร เวลาประมาณ 3 ทุ่ม

สุภาพ สตรีผู้มีรูปร่างงดงามเฉิดฉายนามของเธอก็คือ มิเนอร์วา เพรสซิเดนท์ ผู้ที่กำลังเดินทอดกายเข้ามาในภัตตาคารอาหารริมระเบียงของโรงแรมแห่งหนึ่ง ในชุดราตรีสีน้ำเงินดำเปลือยหลังกระโปรงยาวผ่าด้านข้างสูงเผยให้เห็นถึงผิว พรรณขาวนวลเนียนและเรียวขางาม ผิวของเธอยามที่สะท้อนแสงจันทร์ในยามราตรีนั้น ทำให้เหล่าสุภาพบุรุษทั้งหลายภายในภัตตาคารพากันหันมาจ้องมองตัวเธอกันอย่าง ไม่ละสายตาราวกับตกอยู่ในภวังค์ใต้มนต์สะกดของเธอ

มิเนอร์วา เดินหลบฉากออกไปจากภายในภัตตาคารเพื่อไปสัมผัสกับบรรยากาศยามราตรีที่ริมระเบียง ก่อนหันตัวไปพิงระเบียงเพื่อดูดวงจันทร์ที่ทอประกายแสงอยู่บนท้องฟ้า ดวงตาคมโต ตาสองชั้นที่มีสีต่างกันคู่นั้นเป็นประกายงดงามดั่งอัญมณีเมื่อสะท้อนกับแสงจันทร์บนท้องนภา สีของดวงตาและดวงจันทร์นั้นดูงดงามและกลมกลืนกันอย่างน่าอัศจรรย์ใจ แต่เมื่อหญิงสาวละสายตาจากจันทราและดวงดาราบนฟากฟ้า แล้วมองผ่านเข้าไปในภัตตาคารทำให้เธอได้รู้ว่า สุภาพบุรุษทั้งหลายได้ตั้งเธอเป็นหัวข้อสนทนาเนื่องจากพวกเขาไม่อาจละสายตาไปจากตัวเธอได้เลย ทันใดนั้นหญิงสาวก็สังเกตเห็นสุภาพบุรุษผู้หนึ่งกำลังเดินผ่านเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายเข้ามาหาเธอ หญิงสาวจึงหันหลังกลับไปยืนพิงระเบียงสัมผัสกับบรรยากาศเย็นสบายในยามราตรีอีกคราหนึ่ง

“สวัสดี คุณผู้หญิง รอนานหรือเปล่า”

คำทักทายด้วยเสียงเย็นชาของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้นทำให้ มิเนอร์วา หันกลับไปมอง สุภาพบุรุษผู้นี้มีรูปร่างสูงสง่า นามของเขาคือ เลนิน ฮาซาร์ด หนุ่มรัสเซียที่ปรากฏตัวในชุดสูทสีดำผูกเนกไทสีขาว ผมสั้นประบ่าสีแดงเพลิงที่ถูกจัดทรงมาอย่างดีนั้นดูโดดเด่น จนทำให้บรรดาสุภาพสตรีที่กำลังทานอาหารอยู่ในภัตตาคารต่างก็พากันนึกว่าเขาเป็น นายแบบที่มีชื่อเสียง หรือ นักธุรกิจผู้โด่งดังจากที่ไหนซักแห่ง

“ไม่หรอก”

มิเนอร์วา ตอบ เลนิน กลับไปด้วยเสียงอันเย็นสงบลึกล้ำไม่ต่างไปจากบรรยากาศอันเงียบสงบในยามราตรีเช่นนี้เลย

“ชุดสวยดีนี่” เลนิน กล่าวชมด้วยเสียงเย็นชา ทว่านัยน์ตากลับชำเลืองมองสตรีข้างหน้าอย่างสนใจ

“ขอบใจ” มิเนอร์วาเปรยตา ส่งเสียงห้วน ๆ ตอบกลับไป

“จริงสิ เรายังไม่ได้รู้จักกันเลย”

“ผมชื่อ เลนิน”

“เลนิน ฮาซาร์ด”ชายหนุ่มกล่าวคำแนะนำตนเองแล้วยื่นมือไปทักทาย

“ฉันชื่อ มิเนอร์วา ยินดีที่ได้รู้จัก”หญิงสาวแนะนำตนเองอย่างเป็นกันเอง

“คุณหิวหรือเปล่า จะรับอะไรหน่อยมั้ย”

“ตามใจ”

“มื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเอง”

หลังจากที่ มิเนอร์วา และ เลนิน ร่วมโต๊ะทานอาหารกันเสร็จแล้ว ทั้งสองได้เดินออกมาจากภัตตาคาร เพื่อมายืนพิงระเบียงชื่นชมบรรยากาศยามราตรี

“นายรู้เรื่องของฉันได้ยังไง” มิเนอร์วา หันไปถามชายหนุ่มในสิ่งที่เธอสงสัยมาโดยตลอด

“ข้อสันนิษฐานยังไงล่ะ” เลนิน ตอบคำถามของเธอทันที

“ทั้งหมดนั่น เป็นสิ่งที่เราต้องมี”

“อืม”

“เรื่องสำคัญที่นายจะคุยกับฉันล่ะ”

มิเนอร์วา หันไปถามประเด็นสำคัญที่ชายหนุ่มชวนเธอมาคุยที่ภัตตาคารแห่งนี้ทันที

“เรื่องนั้น -”

เลนิน หันไปตอบพร้อมกับจ้องมองใบหน้าขาวนวลของหญิงสาวราวกับต้องมนต์สะกดไปสักพัก ก่อนเอ่ยคำพูดหนึ่งออกมา

“คืนนี้หนาวจัง ให้ผมสำรวจตัวคุณได้ไหม”

ด้วยคำสารภาพรักสุดร้อนแรงดุจดั่งเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงของ เลนิน ฮาซาร์ด ทำให้ มิเนอร์วา ซึ่งเป็นผู้ได้ยินนั้นสามารถตัดสินใจได้ในทันทีเลยว่าควรรับมือกับสถานการณ์ช็อกโลกนี้ยังไง

มิเนอร์วา หันไปมอง เลนิน โดยมีดวงจันทร์ที่ทอประกายแสงบนท้องฟ้าในยามราตรีเป็นฉากหลัง

ดวงตาสองสีคู่สวยชวนหลงใหลของหญิงสาวมองผ่านเข้าไปในดวงตาสีทองของชายหนุ่มสักพัก

“ไม่”

คำปฏิเสธสั้นๆ เพียงคำเดียวของหญิงสาวนั้นเป็นดั่งกระสุนน้ำแข็งที่บรรจุอยู่ในรังเพลิง ก่อนจะถูกซัดออกมาให้พุ่งทะลุทะลวงเข้าไปตัดขั้วหัวใจของชายหนุ่มอย่างไม่ใยดี

เพียงคำพูดเดียวเท่านั้นก็ทำให้บรรยากาศเย็นสบายยามราตรี ต้องแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นยะเยือกราวกับอุณหภูมิของโลกลดลงในชั่วพริบตา

คำพูดนั้นทำให้บุรุษผู้มีผมสีแดงเพลิงอย่าง เลนิน ฮาซาร์ด ยังต้องอึ้งตะลึงงันไปชั่วขณะหนึ่ง

“ฉันขอตัวก่อนล่ะ”มิเนอร์วา พูดขึ้นแล้วหันหลังกลับพร้อมกับจะก้าวเท้าเดินออกจากภัตตาคารไป

“เดี๋ยวก่อน!” จังหวะนั้นเองคำพูดเบา ๆ ราวกับเสียงกระซิบของชายหนุ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง

“มีอะไร” มิเนอร์วา หยุดเดินสักพักก่อนหันไปมองชายหนุ่มอีกครั้ง

“คุณคือเหยื่อ ยังไงซะผมคงไม่ปล่อยให้คุณหลุดมือไปง่าย ๆ หรอก”

“สักวัน ผมนี่แหละจะเป็นคนขย้ำคุณเอง”

เลนิน ฮาซาร์ด ผู้ยังไม่ยอมตัดใจง่ายๆ แม้จะโดนปฏิเสธไปแล้วก็ตาม คำพูดของเขานั้นแสดงออกถึงความปรารถนาอันเร่าร้อนรุนแรงที่เป็นดั่งเพลิงไฟที่ลุกโชติช่วงอย่างไม่มีวันดับ

“แค่นั้นเหรอ”

มิเนอร์วา ยังคงแสดงท่าทีที่นิ่งเฉยไม่ไหวติง คำตอบของเธอนั้นเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งที่ไม่มีวันหลอมละลายแม้ต้องเผชิญกับเพลิงไฟร้อนแรงที่ลุกโชติช่วงก็ตาม

“มีอะไรจะพูดกับฉันอีกรึเปล่า”

คราวนี้หญิงสาวเป็นฝ่ายตั้งคำถามขึ้นมาบ้างสายตาของเธอยังคงมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้า

“ไม่มี”

“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อนล่ะ”

“เชิญตามสบายเลย”

“แล้วเจอกัน พ่อหนุ่มไวไฟ”

“ได้เลยแต่ถ้าเกิดได้เจอกันอีกครั้งล่ะก็ ผมจะขย้ำคุณให้จมเขี้ยวแน่นอน”

ห้านาทีผ่านไปหลังจากที่ มิเนอร์วา เดินออกไปจากภัตตาคารแล้ว เลนิน ฮาซาร์ด ก็หยิบไวน์แก้วสุดท้ายขึ้นมาจิบจนหมด แล้วเดินไปพิงระเบียงเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศยามราตรีอีกครั้ง ก่อนหันหลังกับ แล้วเดินออกไปจากภัตตาคารริมระเบียงอย่างเนิบ ๆ

“มิเนอร์วา งั้นรึ”

“เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจดีนี่นา”

“ดูท่าเจอกันครั้งหน้า เราคงต้องเตรียมตัวมาให้ดีกว่านี้ซะแล้ว”

ในที่จอดรถของโรงแรมสตรีผู้งดงามนาม มิเนอร์วา กำลังเดินมาขึ้นรถสปอร์ตสีน้ำเงินของเธอ

“สี่ทุ่มแล้วเหรอ” สายตาของหญิงสาวมองไปยังนาฬิกาข้อมือดิจิตอลที่ปรากฏตัวเลข 10.00 PM

“คงต้องรีบกลับแล้วล่ะ วิเนอรี คงเป็นห่วงแล้วด้วย”

มิเนอร์วา ขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่องก่อนขับมันออกไปจากโรงแรม ตรงไปยังบนท้องถนนในยามราตรีท่ามกลางรถมากมายที่กำลังสัญจรผ่านไปมา เพื่อมุ่งตรงไปยังสถานที่พักอันแสนอบอุ่นของเธอ

จบตอน

Edited by วีโดราและมิเนอร์วา

Share this post


Link to post
Share on other sites

HBD นะวีจัง อ่านได้ 1ใน3 เดี๋ยวกลับมาอ่านให้จบนะ

กลับบ้านแหละน๊า

Share this post


Link to post
Share on other sites

งือ o w o) HBD อีกรอบแล้วกันนะครับ

เนื้อเรื่องยังไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่น่อ แถมบทพูดยังรวนๆอยู่นิดนึง

แต่บรรยายสถานที่และส่วนอื่นๆถือว่าดีแล้วขอรับ > w <

มิเนอว่าก็ยังน่ารักเหมือนเดิม XD

ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับอายุที่เพิ่มขึ้นนะคร้าบ 55

Share this post


Link to post
Share on other sites

HBD ขอรับ คือว่ารูปที่ส่งให้ไปก่อนหน้านี้ ผมพิมพิ์ วันเดือนปีผิด... ยังไงก็ รับใหม่อีกทีนะงับ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง บอร์ดที่ผมแปะประจำดันเสีย เลยอดแปะเลย แต่ยังไงก็นะนิยายสนุกดีงับ ผมไม่รู้จะติอะไรนะ

samaelvedoracopy.jpg

ซามาเอล วีโดรางับ พระเอกของนิยายเรื่องนี้ ^ ^

Edited by npcpepper

Share this post


Link to post
Share on other sites

:emo (41): มีตอนพิเศษแล้วอ่า

เก่งจังครับถึงจะช้าไปสักหน่อยแต่ก็มายินดีด้วยน่ะครับ

Share this post


Link to post
Share on other sites
:emoother_03: :emoother_03:

Share this post


Link to post
Share on other sites

กว่าจะอ่านจบเล่นซะตาลายเลยพี่น้อง :emo (58):

Share this post


Link to post
Share on other sites

ิอ่านไปอ่านมาตายลาย :emo (58):

Share this post


Link to post
Share on other sites

หนุกดีนะ

ยังอ่านไม่หมดเดี๋ยวมาอ่านต่อ

Share this post


Link to post
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
Sign in to follow this  

×
×
  • Create New...