Jump to content

Search the Community

Showing results for tags 'ที่สุดในโล�'.



More search options

  • Search By Tags

    Type tags separated by commas.
  • Search By Author

Content Type


Forums

  • Important Center
    • Rules and Announcement
    • Help Center and Support
    • Donation
    • Activities
  • Community Center
    • General Talks
    • Event , Cosplay and Photos
    • Anime and Manga Discussions
    • Games Discussions
    • Fanart
    • Fiction and Role Playing
    • Promote Website

Find results in...

Find results that contain...


Date Created

  • Start

    End


Last Updated

  • Start

    End


Filter by number of...

Joined

  • Start

    End


Group


AIM


Website


ICQ


Yahoo


Jabber


Skype


MSN


Location


Interests


Facebook


Twitter

Found 2 results

  1. นิตยสาร “ทราเวล แอนด์ ลีเชอร์ ” ฉบับเดือนมิถุนายน 2012 แนะนำ 13 ชายหาด “แปลกที่สุดในโลก” เอาใจนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่และอยากเห็นท้องทะเลในมุมมองที่แตกต่าง โดยชายหาดทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานสร้างสรรค์ของธรรมชาติทั้งสิ้น (ต่อ) หาดจันดีปุระ รัฐโอริสสา ประเทศอินเดีย ชายหาดแห่งนี้ตั้งอยู่ในอ่าวเบงกอล หากไปเยือนในช่วงเวลาปกติอาจไม่เห็นความผิดแปลกอะไร แต่ถ้าไปในช่วงเวลาน้ำลด (วันละ 2 ครั้ง) อาจเกิดการเข้าใจผิดคิดว่ากำลังจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิได้ เพราะอยู่ๆ น้ำทะเลก็หายไปจากชายฝั่งเป็นระยะทาง 1-5 ก.ม. ซึ่งในช่วงเวลานี้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเดินเล่น เก็บหอย หรือชมปูแดงตัวน้อยๆ ก่อนที่น้ำทะเลจะขึ้นอีกครั้ง ไฟเฟอร์ บีช บิ๊กเซอร์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย บิ๊กเซอร์ ได้ชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่มีทัศนียภาพที่งดงามมากที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพราะเป็นที่ตั้งของหน้าผาสูงใหญ่ ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ทุ่งหญ้าเขียวขจี และ “หาดไฟเฟอร์ ” ซึ่งเป็นชายหาดสีม่วงที่มีความยาวเกือบ 1 ก.ม. เหตุที่ชายหาดแห่งนี้มีสีม่วงเพราะมีผงหรือเศษแร่แมงกานีสการ์เนตจากหินที่อยู่บนหน้าผาและริมชายฝั่งเจือปนอยู่นั่นเอง (ผงแร่จะอยู่ด้านบน ส่วนทรายอยู่ด้านล่าง) อย่างไรก็ตาม การไปเยือนชายหาดแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยไป เพราะพิกัดที่ตั้งค่อนข้างหายาก แต่ถ้าไปถึงแล้วก็จะได้เห็นภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยตะลึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามพระอาทิตย์ตก แต่ห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาด เพราะกระแสคลื่นค่อนข้างแรงและเป็นคลื่นทะเลดูด หาดกุลปียูริ ใกล้เมืองลีอาเนส ในแคว้นปกครองตนเองอัสตูเรียส ประเทศสเปน ชายหาดแห่งนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ริมชายฝั่งเหมือนหาดโดยทั่วไป แต่กลับแทรกตัวอยู่ในหลุมยุบบนแผ่นดินที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เมตร แถมยังถูกโอบล้อมด้วยเนินเขา ทุ่งหญ้า และหน้าผาหินปูน ถึงแม้ชายหาดที่นี่จะมีความยาวเพียง 49 เมตร แต่น้ำทะเลเบื้องหน้ากลับใสแจ๋ว แถมยังมีคลื่นซัดสาด พร้อมปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลงอีกต่างหาก โดยช่วงเวลาที่น้ำขึ้นสูงสุดเราแทบจะมองไม่เห็นหาดทราย แต่พอถึงช่วงเวลาน้ำลด น้ำแทบทั้งหมดก็จะหายไป ที่เป็นเช่นนี้เพราะในอดีตน้ำทะเลได้กัดเซาะหินปูนบริเวณหน้าผาริมชายฝั่งทะเลกันตาเบรียจนกลายเป็นโพรงถ้ำ ต่อมาพื้นถ้ำได้พังถล่มลงทำให้เกิดหลุมยุบในบริเวณดังกล่าวและมีน้ำทะเลไหลผ่านเข้ามา กระทั่งกลายเป็นชายหาดขนาดย่อมๆ กลางแผ่นดินในที่สุด หาดปูนอาลู บิ๊กไอส์แลนด์ รัฐฮาวาย ชายหาดสีดำแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ “เกาะฮาวาย” หรือ “บิ๊กไอส์ แลนด์” ซึ่งเป็นเกาะภูเขาไฟขนาดใหญ่ เนื้อที่มากกว่า 1 หมื่นตารางกิโลเมตร (ใหญ่กว่าเกาะทุกเกาะในฮาวายรวมกัน และเป็นเกาะใหญ่สุดในอเมริกา) สาเหตุที่ชายหาดแห่งนี้มีสีดำเนื่องจากเต็มไปด้วยเม็ดหินบะซอล์ต ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากลาวาร้อนๆ ไหลลงทะเลแล้วเกิดการระเบิดเป็นไอร้อนหรือเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว นอกจากชายหาดสีดำแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวมักพบเห็นบ่อยครั้งบนชายหาดแห่งนี้ก็คือ เต่าตะนุที่ใกล้สูญพันธุ์ ดังนั้นจึงห้ามแตะต้องลูบคลำตัวเต่าโดยเด็ดขาด เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย หาดซลาตนี่ ราต (โกลเด้น ฮอร์น) บราค ไอส์แลนด์ ประเทศโครเอเชีย ชายหาดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางด้านทิศใต้ของ “บราค ไอส์แลนด์ ” ซึ่งมีป่าสนอยู่เต็มพื้นที่ และเนื่องจากตอนปลายสุดของแหลมมีหาดทรายรูปทรงสามเหลี่ยมยื่นออกไปในทะเลเป็นระยะทางยาว 634 เมตร ชายหาดแห่งนี้จึงถูกตั้งชื่อว่า “ซลาตนี่ ราต” ซึ่งแปลว่า ”โกลเด้น ฮอร์น” ในภาษาอังกฤษ หรือ “แหลมทอง” ในภาษาไทย ด้วยความที่เป็นชายหาดยื่นยาวออกไปในทะเล หาดทรายบริเวณดังกล่าวจึงมีขนาดและรูปร่างเปลี่ยนแปลงไปตามปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลง ตลอดจนกระแสลมและกระแสน้ำ เซียสตาบีช รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เซียสตาบีช เป็นชายหาดที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในอเมริกา ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่มีทรายขาวที่สุดและละเอียดที่สุดในโลก เนื่องจากทรายที่นี่ประกอบด้วยควอทซ์บริสุทธิ์ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังเป็นรูปทรงกลมและมีขนาดเล็กมาก เวลาถอดรองเท้าเดินจึงรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และแม้จะถอดรองเท้าเดินเล่นริมชายหาดในวันที่อากาศร้อนและแดดแรงสุดๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าเท้าจะพอง เพราะทรายที่นี่ไม่ดูดซับความร้อน จึงให้ความรู้สึกเย็นและนุ่มเท้าตลอดเวลา ฮอทวอเตอร์บีช แหลมโคโรแมนเดล เกาะเหนือ ประเทศนิวซีแลนด์ “ฮอทวอเตอร์บีช” ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านทิศตะวันออกของแหลมโคโรแมนเดล สาเหตุที่ชายหาดแห่งนี้ถูกเรียกว่า “หาดน้ำร้อน” เป็นเพราะบริเวณชายหาดมีแหล่งน้ำพุร้อนใต้ดิน เมื่อถึงช่วงเวลาน้ำลง (เช้า-เย็น) นักท่องเที่ยวจะมีเวลา 2 ชั่วโมงหลังน้ำลดในการขุดหลุมทรายเพื่อให้น้ำพุร้อนผุดขึ้นมา (มีถังและพลั่วให้เช่า) โดยน้ำที่ซึมเข้ามาในหลุมหรือบ่อสปาธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวขุดขึ้นนี้ จะมีอุณหภูมิประมาณ 64 อาศาเซลเซียส แต่ข้อควรระวังก็คือ ชายหาดแห่งนี้ไม่เหมาะที่จะลงเล่นน้ำ เพราะมักเกิดคลื่นทะเลดูด ซึ่งคร่าชีวิตนักท่องเที่ยวที่ไม่ระวังหรือไม่เชื่อฟังคำเตือนมาแล้วหลายราย ---------------------------------------------------------------------- เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง http://www.idoli-z.net/forum/index.php?/topic/5037- credit : paow007
  2. นิตยสาร “ทราเวล แอนด์ ลีเชอร์ ” ฉบับเดือนมิถุนายน 2012 แนะนำ 13 ชายหาด “แปลกที่สุดในโลก” เอาใจนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่และอยากเห็นท้องทะเลในมุมมองที่แตกต่าง โดยชายหาดทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานสร้างสรรค์ของธรรมชาติทั้งสิ้น พิงค์แซนด์ส บีช เกาะฮาร์เบอร์ ประเทศบาฮามาส แม้ฮาร์เบอร์จะเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 3.5 ไมล์ (5.6 ก.ม.) และกว้างเพียง 1.5 ไมล์ (2.4 ก.ม.) แต่เกาะแห่งนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะเป็นที่ตั้งของ “ชายหาดสีชมพู” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในชายหาดสวยที่สุดในทะเลแคริบเบียน ชายหาดสีชมพูที่ว่านี้ ทอดตัวเป็นแนวยาวบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะ สาเหตุที่ทำให้ชายหาดมีสีชมพูเป็นเพราะมีเปลือกสีแดงของสัตว์น้ำเซลล์เดียวประเภทแพลงตอน (foraminifera) ทับถมปะปนอยู่กับทรายสีขาวนั่นเอง ปาปาโกเลีย บีช ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ชายหาดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม “หาดทรายสีเขียว” เพราะบริเวณชายหาดเต็มไปด้วยผลึกแร่โอลิวีนสีเขียวมะกอกที่ไหลลงมา (พร้อมลาวา) จากกรวยกรวดภูเขาไฟ “ปูมาฮาน่า” เหนือชายหาด ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวชมต้องใช้ความอดทนและความพยายามเป็นอย่างมาก เพราะต้องเดิน (หรือนั่งรถโฟร์วีล) ลัดเลาะไปตามหน้าผาที่ค่อนข้างร้อนเป็นระยะทางกว่า 4 ก.ม. จากนั้นก็ไต่ลงไปทางด้านล่าง จึงจะได้ชื่นชมความงามของชายหาด หาดเจนิปาบู เมืองนาตาล รัฐรีโอกรันดีโดนอร์เต ประเทศบราซิล ชายหาดแห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยเนินทรายขนาดใหญ่ยักษ์แทนที่จะเป็นหาดทรายราบเรียบเหมือนชายหาดทั่วไป นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนชายหาดแห่งนี้จึงได้เที่ยวแบบทูอินวัน เพราะถ้าหันหลังให้ทะเลก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางทะเลทรายในแถบตะวันออกกลาง แต่พอหันกลับมาอีกด้านก็จะพบกับความงามของมหาสมุทรแอตแลนติก แถมที่นี่ยังมีกิจกรรมสุดท้าทายให้ทำหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถบั๊กกี้ตะลุยเนินทราย การขี่อูฐ หรือเล่นแซนด์บอร์ด เป็นต้น หาดธันเดอร์ โคฟ รัฐปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ไอส์แลนด์ ประเทศแคนาดา ปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ไอส์แลนด์ เป็นเกาะที่มีแนวชายหาดยาวรวมกันมากกว่า 500 ไมล์ (805 ก.ม.) และชายหาดครึ่งหนึ่งของที่นี่ล้วนมีทรายเป็นสีแดงเนื่องจากมีเหล็กออกไซด์เป็นส่วนประกอบในปริมาณสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ ซึ่งจะมีชายหาดลักษณะดังกล่าวหลายแห่ง จนถูกเรียกขานว่าเป็นฝั่ง “เรดแซนด์ส ชอร์” แต่ถ้าอยากไปเยี่ยมชมชายหาดสีแดงชื่อดัง “ธันเดอร์ โคฟ” ก็ต้องมุ่งหน้าไปทางตอนเหนือของฝั่ง “กรีนเกเบิลส์ ชอร์” ซึ่งมีชายหาดและหินทรายสีแดงเข้ม 75 ไมล์บีช เกาะเฟรเซอร์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย บริเวณชายฝั่งด้านทิศตะวันออกของเกาะเฟรเซอร์ มีชายหาดทอดตัวเป็นแนวยาว 75 ไมล์ (กว่า 120 ก.ม.) ซึ่งถ้ามองลงมาจากเครื่องบืนจะแลดูคล้ายถนนเรียบชายฝั่ง แต่ถึงไม่ใช่ก็เหมือนใช่ เพราะชายหาดที่ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” แห่งนี้ถูกใช้เป็นถนนสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อและรันเวย์ (ทางขึ้น-ลงเครื่องบิน) ในขณะเดียวกัน ถึงกระนั้นก็ยังมีพื้นที่ปลอดภัยไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำ อาบแดด และจุดที่นักท่องเที่ยวโปรดปรานสุดๆ ก็คือ “แชมเปญ พูลส์” ซึ่งมีลักษณะเป็นสระน้ำธรรมชาติที่ถูกรายล้อมด้วยโขดหิน นักท่องเที่ยวจึงลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยแม้ว่าคลื่นในบริเวณดังกล่าวจะซัดค่อนข้างแรงก็ตาม โบลเดอร์ส บีช เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ชายหาดแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเทเบิ้ล เมาน์เท่น มีความโดดเด่นสะดุดตาตรงที่มีก้อนหินแกรนิตขนาดใหญ่ยักษ์ อายุราวๆ 540 ล้านปี ตั้งเรียงรายอยู่รอบบริเวณ นอกจากการลงเล่นน้ำและนอนอาบแดดริมชายหาดแล้ว ชายหาดแห่งนี้ยังเหมาะสำหรับคนรักสัตว์ เพราะที่นี่เป็นถิ่นอาศัยของนกเพนกวินแอฟริกันจำนวนกว่า 3 พันตัว นักท่องเที่ยวจึงสามารถเฝ้าดูพวกมันว่ายน้ำและอาบแดดบนชายหาดส่วนตัว (ของนกเพนกวิน) ได้ในระยะใกล้ เห็นรูปร่างหน้าตาน่ารักอย่างนี้ ขอบอกว่าพวกมันมีจะงอยปากที่แหลมคมมาก ทั้งยังดุอีกด้วย ** โปรดติดตามตอนต่อไป ** ---------------------------------------------------------- สิ่งที่เราไม่เคยรู้ อยู่บนโลกเดียวกันแท้ ๆ :emo (68): credit : paow007
×
×
  • Create New...