Jump to content

Minato Tomoka

Members
  • Content Count

    33
  • Joined

  • Last visited

Posts posted by Minato Tomoka


  1. ย้ำอีกทีครับ ว่านี่ไม่ใช่ของทางการ แต่เป็นจินตนาการของผมเองครับ

    cf29f1432f.jpg

    ทางหลวงไทยรูปแบบใหม่เป็นเช่นไร? จะคิดว่าดีหรือไม่ก็แล้วแต่จะคิดเถอะครับ

    หลักๆ สิ่งที่ผมอยากนำเสนอให้ทุกท่านทราบโดยทั่วการ ก็คือปรับปรุงไหล่ทางใหม่ ให้ต่างไปจากเดิมครับ

    ประการแรกคือ จะมีการแยก ช่องทางจักรยาน ออกจากไหล่ทางครับ โดยจะมีฟุตบาทคั่น ฟุตบาทเป็นสันคอนกรีตกว้าง 1 เมตร สูงประมาณ 10 เซนติเมตร พื้นอิฐหรือหญ้า ก็ตามแต่ภูมิประเทศครับ ส่วนทางจักรยานจะอยู่หลังฟุตบาท ผิวยางมะตอย กว้างประมาณ 2-3 เมตร เป็นช่องทางสำหรับจักรยานเท่านั้นครับ

    และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากนำเสนอก็คือ สะพานลอยแบบใหม่ ทุกหมู่บ้านครับ สะพานลอยนี้จะเปลี่ยนบันใดเป็นทางลาด มีค่าความชันที่ความยาว 1 เมตรต่อความสูง 10 เซนติเมตร

    นั่นก็หมายความว่า ถ้าสะพานลอยยาว 5.5 เมตร ทางลาดก็จะมีความยาว 55 เมตร และมีความ กว้าง 2 เมตร เข็นจักรยานขึ้นได้ สบายๆ ครับ ไม่เสี่ยงอันตราย

    โครงการในจินตนาการของผมเริ่มจากจุดนี้ครับ (4 เลนตลอดทางด้วย)

    ROUTE A (ชายแดน ไทย-ลาว หนองคาย-มุกดาหาร)

    1.ทางหลวงหมายเลข 2 สะพานมิตรภาพไทย-ลาว-หนองคาย-อุดรธานี(แยกรังษิณา)

    2.ทางหลวงหมายเลข 216 แยกรังษิณา-แยกสันตพล

    3.ทางหลวงหมายเลข 22 อุดร(แยกสันตพล)-หนองหาน-สว่างแดนดิน-พังโคน-พรรณาณิคม-สกลนคร(แยกบ้านธาตุ)

    4.ทางหลวงหมายเลข 213 แยกบ้านธาตุ-แยกธาตุนาเวง

    5.ทางหลวงหมายเลข 223 สกลนคร(แยกธาตุนาเวง)-นาแก-ธาตุพนม(แยกบ้านต้อง)

    6.ทางหลวงหมายเลข 212 ธาตุพนม(แยกบ้านต้อง)-มุกดาหาร(สะพานมิตรภาพไทย-ลาว)

    ROUTE B (ชายแดน ไทย-ลาว หนองคาย-อุบลราชธานี)

    1.ทางหลวงหมายเลข 2 สะพานมิตรภาพไทย-ลาว-หนองคาย-อุดรธานี(แยกรังษิณา)

    2.ทางหลวงหมายเลข 216 แยกรังษิณา-แยกบ้านจั่น

    3.ทางหลวงหมายเลข 2 อุดรธานี(แยกบ้านจั่น) - กุมภวาปี(แยกน้ำฆ้อง)

    4.ทางหลวงหมายเลข 2023 กุมภวาปี(แยกน้ำฆ้อง) - ศรีธาตุ(แยกโนนสวรรค์)

    5.ทางหลวงหมายเลข 2231 ศรีธาตุ(แยกโนนสวรรค์) - ท่าคันโท(แยกกุงเก่า)

    6.ทางหลวงหมายเลข 2152 ท่าคันโท(แยกกุงเก่า) - กระนวน

    7.ทางหลวงหมายเลข 2110 กระนวน - ยางตลาด(แยกฮ่องฮี)

    8.ทางหลวงหมายเลข 12 แยกฮ่องฮี - ยางตลาด

    9.ทางหลวงหมายเลข 2116 ยางตลาด - กมลาไสย(แยกบ้านบ่อ)

    10.ทางหลวงหมายเลข 214 แยกบ้านบ่อ-ร้อยเอ็ด(แยกจังหาร)

    11.ทางหลวงหมายเลข 232 แยกจังหาร - แยกธวัชบุรี

    12.ทางหลวงหมายเลข 23 ร้อยเอ็ด(แยกธวัชบุรี) - อุบลราชธานี(แยกบายพาส)

    13.ทางหลวงหมายเลข 231 เลี่ยงเมืองอุบลราชธานี

    14.ทางหลวงหมายเลข 217 อุบลราชธานี - ช่องเม๊ก

    โดยโครงการเป็นทาง 4 เลนทั้งหมด มีทางจักรยานและสะพานลอยแบบใหม่ตลอดทางทุกหน้าโรงเรียนและเขตชุมชน บอกได้แค่นี้และ

    มีอีกมากมายครับ อยากวาดภาพให้ดู แต่ 3D ไม่เก่งฮะ

    ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านจินตนาการของผมครับ


  2. frutiger-alphabet.gif

    Frutiger เป็นฟอนต์ที่ออกแบบในปี พศ.2518 โดย Adrian Frutiger นักออกแบบชาวสวิส เป็นฟอนต์ประเภท Sans-Serif

    การใช้งานสำคัญต่างๆ

    Frutiger ถูกใช้ในป้ายบอกทางของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และป้ายในศูนย์ราชการต่างๆ ประหนึ่งว่าเป็น TH Sarabun ของสวิสเซอร์แลนด์เลยทีเดียว

    และนอกจากในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ Frutiger ยังถูกใช้เป็นฟอนต์ป้ายบอกทางในอาคารสนามบินต่างๆ มาแล้วหลายประเทศในยุโรป

    และในประเทศไทยที่เห็นได้บ่อยที่สุดก็คือ ตัวอังกฤษและตัวเลขในโฆษณาของ AIS(สมัยยังเป็นสีน้ำเงิน ปัจจุบันได้เลิกใช้แล้ว) ทรู และ เทสโก้ โลตัส (ปัจจุบันยังใช้อยู่)

    เหตุผลที่ผมชอบฟอนต์นี้

    ฟอนต์ตัวนี้มีลายเส้นแบบ Humanist ซึ่งเป็นฟอนต์ที่เห็นแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งแตกต่างจาก Highway Gothic ที่ไทยใช้อยู่

    ซึ่งเป็นฟอนต์ที่มีลักษณะแข็งกระด้าง ลายเส้นบางตัวดูไม่สวยเท่าไหร่นัก ส่วน TH Sarabun ความหนาของตัวอักษรก็ยังถือว่าบางเกินไปเมื่อจะใช้กับป้ายบอกทางต่างๆ และเลข 4 ดูไม่ค่อยเหมาะสมที่จะใช้เท่าไหร่นัก

    ควรใช้ฟอนต์ตัวนี้ที่ไหนบ้าง

    ตัวอังกฤษและตัวเลขบนป้ายถนน ป้ายภายในอาคารสนามบิน(Terminal) โรงพยาบาล หรือห้างสรรพสินค้าต่างๆโดยใช้ควบคู่กับ TH Sarabun(เฉพาะตัวอักษรไทย) ซึ่งเป็นตัวอักษรไทยที่เข้ากันดีกับฟอนต์นี้


  3. http://shows.voicetv.co.th/kid-len-hen-tang/76636.html

    style="margin: 10px 0px; padding: 0px; border: 0px; outline: 0px; font-size: 16px; vertical-align: baseline; background-color: transparent;"> อะไรคือ 'โอตาคุ'

    โอตาคุ หรือ OTAKU คือพวกที่คลั่งไคล้อะไรสักอย่างแบบสุดๆ หรือกลุ่มที่ลุ่มหลงวัฒนธรรม มีความเป็นปัจเจกสูง พฤติกรรมของพวก OTAKU น่าจะมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับโรคที่ไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่

    แม้ว่าจะอยู่ในวัยทำงานจนถึงวัยกลางคนก็ตาม โอตาคุ จึงเป็นผลิตผลของยุคข้อมูลข่าวสารในญี่ปุ่น เด็กถูกอบรมให้จดจำข้อมูลต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้ามหาวิทยาลัย วิธีการผ่อนคลายคือการอ่านการ์ตูนที่มีเนื้อหาล่อแหลม เล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่มีความรุนแรง เพื่อหลบจากการบีบบังคับของสังคม บางแสดงออกด้วยการแต่งตัว เช่นแต่งเป็นเซลามูน หมอฟัน บางคนสะสมคิตตี้

    คุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นโอตาคุหรือไม่ มาร่วมคิดเล่นเห็นต่างกับคำผกา ในเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2556 เวลา 20.00 - 20.30 น. ทาง VoiceTV


  4. 1010525_540932705947876_103438970_n.jpg

    อะไรทำให้ผมคิดแบบนี้?

    ผมเคยผ่านไปเดินแถวย่านสยาม แล้วผมไปเห็นถนนพระราม 1 แล้วผมก็เกิดความรู้สึกว่า อึดอัด

    เสียงรถดังๆ ควันไอเสียเหม็นๆ แล้วตรงนั้นข้างบนก็เป็นรางรถไฟฟ้า ทำให้รู้สึกอึดอัดมากกว่าเดิม

    เพราะเหมือนเสียงและไอเสีย แทนที่จะขึ้นไปบนฟ้า แต่กลับโดนสะท้อนลงมา ทำให้ผมคิดอยากจะขอให้วันอาทิตย์ เป็นวันที่ปลอดมลภาวะสำหรับที่นั่น Detox ล้างพิษล้างมลภาวะออกไป แล้วเปิดเป็นถนนคนดินขึ้นมาแทน ดีมั้ยครับ

    Cr : เซนโด เอริกะ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=540932705947876&set=a.237934469581036.56584.100000934546009&type=1&relevant_count=1


  5. 59257_516874821686998_1069495514_n.jpg

    ย้ายวันปิดเทอมใหม่ เป็นกรกฎาคม-สิงหาคม เถอะครับ

    ส่วนปิดเทอมเล็ก ให้ปิด สัปดาห์แรก และสัปดาห์สุดท้ายของปี(ช่วงปีใหม่เถอะครับ)

    ผมขอร้องล่ะ ผมมีเหตุผลนะครับ


  6. ก่อนวันสงกรานต์ ผมขอตั้งกระทู้ภาวนาหน่อยเถอะนะ

    เนื้อหาในกระทู้นี้มันอาจจะไม่มีความหมายสำหรับคนทั่วไปที่ผ่านเข้ามาอ่าน อาจจะดูไร้สาระเมื่อใครผ่านมาอ่าน

    ไม่สบายใจปานกลาง แต่ผมต้องการมากๆ เลย ถึงแม้ว่าในสายตาของคนอื่นจะมองว่าผมงมงายใน 2D มากจนเกินไปหน่อยก็ตาม

    ความต้องการเริ่มขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมง วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ห้างแมคโคร สาขาอุดรธานี ผมเจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

    เหมือนกับกระทู้ที่แล้ว ผมไม่ได้ติดใจในส่วนใดๆ นอกจากลายเสื้อของน้องเค้านั่นเอง

    http://upic.me/i/nj/2013-02-0313.11.png

    ผมพูดจริงๆ เลยนะครับ ว่าผมเกิดอาการตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ค่อยถูก ในช่วงเวลานั้นอีกแล้ว ผมอธิบายความรู้สึกไม่ค่อยถูกหรอกครับ

    แต่ผมอยากได้เสื้อลายเดียวกับที่น้องเค้าใส่มากๆ

    แต่ความจริง ใช่ว่าผมจะไม่เคยเจอเสื้อลายนี้วางขายหรอกนะ แต่ผมไม่ซื้อเองตะหาก (อยากเอาหัวโขกพื้นโป๊กๆ จริงๆ)

    ที่ประตูน้ำขอนแก่น ผมเจอตัวเดียวนี้ 2 ครั้ง ครั้งแรกเจอเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2555 ครั้ง 2 1 ตุลาคม 2555(ผมจำวันที่ได้จากภาพถ่ายในโทรศัพท์ครับ มันจะมี Date Taken อยู่)ร้านเดียว และมีอยู่ตัวเดียว ว่าจะซื้อแต่ก็ไม่ เพราะเหตุผลบางประการ

    และผมไปอีกครั้งในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปรากฏว่า ไม่มีแล้ว

    และที่ผมมาโพสในทีนี้ ไม่ได้อยากจะให้ใครอ่านหรอกนะ แต่ผมต้องการที่ จะบอกความต้องการ เป็นลายลักษณ์อักษร กับสิ่งศักดิ์สิทธิ ว่าผมต้องการสิ่งนี้

    มันอาจจะไม่มีความหมายสำหรับคนทั่วไปที่ผ่านเข้ามาอ่าน

    ผมขอวอนอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิต่างๆ ทั่วฟ้าเมืองไทย ด้วยความเคารพนับ ได้โปรดเถิด

    ช่วยนำทางให้ผม ไปพบกับเสื้อลายนั้นที่อาจจะวางขายอยู่ที่ไหนซักแห่งหนึ่ง ได้โปรดช่วยนำทางผมไปทีเถิด ผมยังหวังที่จะได้พบ

    ขอร้องด้วยความเคารพล่ะนะ ขอบคุณครับ


  7. 1.เปลี่ยน "มอเตอร์เวย์"(Motorway) เป็น "ทางด่วน" (Expressway)

    2.เปลี่ยนศัพท์เรียกชื่อหวัดภาษาอังกฤษ จาก "Province" เป็น "Prefecture" เช่น จังหวัดอุดรธานี เดิมคือ "Udonthani Province"

    เป็น "Udonthani Prefecture"

    3.ด่านเก็บค่าผ่านทาง เดิมคือ "Pay toll" หรือ "Toll Plaza" เป็น "Toll Gate"

    เหตุผลของผมก็คือ ทำตามหลักของประเทศญี่ปุ่นครับ


  8. เจอที่ Big C อุดร เมื่อช่วงเที่ยง

    http://i.imgur.com/zzJTIkr.jpg

    ผมไม่อยากรู้หรอกว่าน้องเค้า ชื่ออะไร อยู่อำเภอไหน อายุเท่าไหร่

    แต่ผมอยากรู้ว่าเสื้อตัวนั้น ขายที่ไหน ขาตั้งแต่เมื่อไหร่

    แต่ผมอยากให้น้องเค้ารู้จัก ชื่อตัวละคร แล้วก็ ที่มา ของรูปนั้นจังอะ


  9. http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_power_stations_in_Japan

    ตอนนี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วญี่ปุ่น กำลังปิดปรับปรุง เพื่อซ่อมบำรุงตรวจสอบอะไรซักอย่างอยู่ครับ

    ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ไปได้อีกนานเท่าไหร่

    แต่ในช่วงเวลานี้ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่อยากได้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เท่าไหร่นัก (เพราะปกติผมจะอยากได้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนบิลค่าไฟมาถึงบ้าน)

    สมัยก่อนจ่ายเดือนละ 600-700 ตอนนี้ 900-1000 ถ้ามีนิวเคลียร์ ก็คงจะลดได้ สินะ


  10. ผมมีเรื่องจริงจะเล่าให้ฟังนะครับ

    อย่าแต่พลุเลย

    แม้แต่กิจกรรมเหยียบลูกโป่ง ผมนอกจากจะไม่เคยเข้าร่วมแล้ว ผมยังออกไปจากห้องแล้วอยู่ไกลๆ เวลาที่ห้องเรียนของผมทำกิจกรรมนี้อีกด้วย

    คุณรู้ไหมว่าสำหรับผมแล้ว มันอันตรายต่อประสาทหูของผมมากๆ

    ทุกงาน ถ้างานไหนมีการจุดพลุ ผมจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ไป หรืออย่างน้อยที่สุด ผมต้องปิดหูตัวเองในขณะที่มีการจุด

    คุณรู้ไหมว่า ผมทรมานหู ของผมมากขนาดไหน ผมพูดเรื่องจริงนะ

    ผมไม่ชอบเข้าโรงหนัง ไม่ชอบเข้างานคอนเสิร์ต เพราะเสียงอึกทึกมันทำให้ผมตกใจ

    รู้ไหมว่า เวลาที่มีการจุดพลุดังๆ ใกล้ๆ ถึงผมจะปิดหู แต่ผมก็ ตัวสั่นทั้งตัว จนทำอะไรไม่ถูก ผมกลัวมากคุณรู้ไหม แม้แต่ประทัดเล็กๆ

    ผมก็กลัว ผมไม่อยากให้มันมีเลย

    แต่นี้มันไม่มีทางเลือกใดๆ เลย แถมยังจุดทุกที่ รอบๆ บ้านผม ในเขตชุมชน บ้านไหนฉลองปีใหม่ มีจุดเกือบหมด ยกเว้นบ้านผม

    เพราะผมไม่ชอบเลย กลัวมากด้วย

    เป็นไปได้ผมอยากให้ กฎหมาย ห้ามจุดพลุ+ประทัด หมดทุกที่ไปเลย

    อนุญาติเฉพาะในงานเทศกาล แสง สี เสียง เท่านั้น

    รู้ไหม ว่าผมไม่ต้้องการ ผมพูดเรื่องจริงให้ฟัง ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ


  11. ออกพรรษาปีนี้ งดจุดประทัดกันเถอะครับ

    ไม่มีรัฐบาลคนไหนเคยพูดถึง เพราะที่กรุงเทพไม่มี ก็คงคิดว่าไม่มาก

    เรื่องนี้ไม่ใช่คนอีสาน ไม่รู้หรอกครับ ว่ามันขนาดไหน

    ผมรู้ดีครับ ว่าปีนี้ ควรจะสร้าง Talk of the Town กันหน่อยแล้วล่ะ

    เพราะทนมาตั้งแต่เกิด ไม่มีใครแก้ไขเลย

    ผมไม่ถนัดเขียนอะไรยาวๆ หรือเป็นสำนวนทางการ พออ่านได้ซักเท่าไหร่หรอกนะ แต่ก็เขียนเท่าที่จะเขียนได้แหละ

    ก่อนออกพรรษา 30 วัน จนถึงวันออกพรรษา ถ้าปี 8 2 หน ก็จะแถมหลังออกพรรษาอีกวันนึง

    จะมีการจุดประทัดครับ ช่วงห่างๆ วันออกพรรษาก็จะไม่เท่าไหร่ แต่พอยิ่งใกล้ มันก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

    แล้ววันออกพรรษานิ จะมีทุกชนิดเลยล่ะ ทั้งพลุ ทั้งประทัดสารพัดสารเพ

    ยิ่งเป็นที่อุดร ยิ่งเยอะสุดๆ จุดกันทั้งวันทั้งคืน นอนไม่ได้ จุดถี่ๆกัน

    ตัวนี้ จุดถี่ๆ ทั้งคืน

    ตัวนี้ และ ทุกตัวที่ดังกว่านี้ ผมอยากให้ห้ามขายอย่างจริงจังไปเลย

    "เสียงในคลิปไม่แสบหูเหมือนของจริง ของจริงน่ารำคาญ จนไม่อยากให้จุด

    แล้วในอุดร จุดถีๆทั้งคืน ในวันออกพรรษา ไม่ใช่แค่ออกพรรษาหรอก แต่เริ่มตั้งแต่ 30 วัน ก่อนออกพรรษา แล้วช่วงหลังๆ นี่ก็เริ่มจุดตอนปีใหม่ด้วย"

    ตัวนี้ก็มี ไม่ต้องบรรยายเรื่องเสียง

    หลายตัวในนี้ ก็มี ตัวดังๆ ก็มี

    http://www.youtube.com/user/0rsel1

    แล้วตอนนี้น่ะ ปีใหม่ก็เริ่มมีกันแล้ว ขายให้คนทั่วไป จุดกันสนั่นหวั่นไหว มากเกินไป แสบแก้วหูมาก

    แล้วญี่ปุ่นน่ะ เขาไม่มีแบบนี้กันหรอก

    ปล.มีข้อสำคัญอยู่ข้อหนึ่งที่ผมอยากบอก แต่ไม่กล้าพูด+คิดสำนวนไม่ออกด้วย


  12. 783px-Helvetica_Neue_typeface_weights.svg.png

    http://en.wikipedia.org/wiki/Helvetica

    เจอได้แทบทุกที่ ที่เรารู้สึกว่ามันธรรมดา เพราะว่าเราเห็นมาตั้งแต่เด็ก แทบทุกแห่งในชีวิตประจำวันนั่นเอง แล้วยังมีฟอนต์ไทยอีกหลายตัวที่ได้แรงบันดาลใจจากฟอนต์ตัวนี้

    หาภาพที่อธิบายไม่ถูก

    helvetica_logos.jpg

    ไม่ว่าจะโลโก้ Microsoft, Samsung หรือ LG ใช่หมด


  13. หลากหลายเมนูจานเด็ดที่โด่งดังไปทั่วโลก ครั้งหนึ่งในอดีตเคยถูกจัดเป็น 'อาหารชั้นต่ำ'

    คุณรู้หรือไม่ว่า อาหารหลากหลายเมนูที่หลายคนยอมรับว่าเป็น 'เมนูจานเด็ด' และยังเป็นเมนูที่โด่งดังไปทั่วโลก ในอดีตกลับเป็นอาหารที่ถูกดูถูกเหยียดหยามจากชนชั้นสูง อีกทั้งยังจัดว่าเป็นอาหารชั้นต่ำและไม่มีคุณค่าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น กุ้งลอบสเตอร์ หอยนางรม ฟัวกราส์ โปเลนต้าและซูชิ

    'กุ้งลอบสเตอร์' (Lobster) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า 'กุ้งมังกร' เป็นอาหารทะเลราคาแพง ที่ครั้งหนึ่งเคยมีจำนวนมากในทวีปอเมริกาเหนือชนิดที่เรียกว่า หว่านแหเมื่อไหร่ก็เจอกุ้งชนิดนี้ได้ทันที จนทำให้ผู้คนสมัยก่อนเห็นกุ้งลอบสเตอร์เป็นส่วนเกินที่ไม่มีค่า อีกทั้งยังเรียกมันว่า 'แมลงทะเล' เพราะเชื่อว่าจัดอยู่ในสัตว์จำพวกแมงมุมยักษ์ คนจึงเกลียดชังและมักนำไปทำปุ๋ย จะมีก็แต่คนจนและผู้ใช้แรงงานเท่านั้นที่จะนำกุ้งลอบสเตอร์มาทำเป็นอาหาร

    'หอยนางรม' (Oysters) แม้ปัจจุบันหอยนางรมจะมีราคาสูงเมื่อเทียบกับหอยชนิดอื่น เป็นอาหารทะเลที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายและจัดว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่หอยนางรมเคยจัดเป็นอาหารชั้นต่ำ เนื่องจากหลายคนคิดว่า การกินหอยนางรมเปรียบเสมือนกินหินที่ข้างในเป็นทารก อีกทั้งยังเป็นชื่อของเครื่องทรมานชนิดหนึ่งของยุโรป ทำให้ในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 19 หอยนางรมนิยมกินกันมากในหมู่คนจนและผู้ใช้แรงงานเท่านั้น

    'ฟัวกราส์' (Foie gras) เมนูที่ถือว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับทรัฟเฟิล มีลักษณะนุ่มมันและมีรสชาติที่แตกต่างจากตับของเป็ดหรือห่านธรรมดาและเป็นหนึ่งในอาหารฝรั่งเศสที่ทั่วโลกรู้จักมากที่สุดนอกเหนือจากไข่ปลาคาเวียร์(caviar) แต่มีน้อยคนที่รู้ว่า ต้นกำเนิดของฟัวกราส์แท้ๆไม่ได้มาจากฝรั่งเศส แต่เป็นอียิปต์โบราณ โดยกษัตริย์เมืองสปาตาสนใจการขุนอาหารแบบนี้ ทำให้เริ่มเผยแพร่เข้าไปในยุโรป แต่ช่วงแรกๆฟัวกราส์ก็ยังไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากชาวไร่ชาวนายุคกลางในฝรั่งเศสส่วนใหญ่เลี้ยงหมูมากกว่าสัตว์ปีก ทำให้สูตรอาหารชนิดนี้ตกอยู่ในมือของชาวยิว ซึ่งสมัยก่อนชาวยุโรปมักดูถูกและต่อต้านวัฒนธรรมของชาวยิว ทำให้มองอาหารชาวยิวต่ำไปด้วย

    'โปเลนต้า' (Polenta) ข้าวโพดบดที่นำมาทำได้หลายเมนูอไม่ว่าจะเป็นซุปหรือขนมต่างๆ มักได้รับความนิยมจากคนวัยทำงานและคนที่เล่นกีฬา ในอดีตเคยได้รับสมญานามว่าเป็นอาหารที่เลวร้ายที่สุดของโลก ถึงขั้นดูถูกว่ากินแล้วจะเป็นโรคกระดูกอ่อนหรือโรคจิตเสื่อมได้ โดยภาคเหนือของอิตาลีบอกว่ามันเป็นอาหารที่น่าเบื่อ ไม่มีรสชาติและรูปร่างน่าเกลียดขรุขระ

    'ซูชิ' (sushi) อาหารญี่ปุ่นที่ทั่วโลกรู้จักดี แต่เดิมนั้นไม่ใช่อาหารของญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นรับเอาวัฒนธรรมการรับประทานอาหารประเภทปลาหมักกับข้าวมาจากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยและลาว ซึ่งการหมักปลามักทำกันแพร่หลายโดยเกษตรกรที่อาศัยอยู่ริมฝั่งโขง ต่อมาแพร่หลายในจีนและญี่ปุ่น และในปี 1336 - 1573 ญี่ปุ่นได้คิดค้นวิธีผลิตน้ำส้มสายชูจากการหมักข้าว จึงนำน้ำส้มสายชูมาผสมลงในข้าวที่หุงเสร็จแล้วเพื่อทำให้ข้าวอยู่ได้นานขึ้นและยังเป็นการเพิ่มรสชาติข้าว พอลองนำมารับประทานกับปลาดิบและวาซาบิก็พบว่าอร่อยขึ้น จึงเป็นที่มาของซูซิตั้งแต่นั้นมา ทั้งนี้ ซูชิไม่ได้ถูกดูถูกจากญี่ปุ่นแต่เป็นอเมริกา เนื่องจากตอนที่ซูชิเริ่มเข้ามาในอเมริกามาใหม่ๆ ชาวตะวันตกไม่ยอมรับว่าข้าวดองนี้คืออาหารและเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พวกเขายอมรับอาหารดิบ นอกจากนี้ชาวตะวันตกยังคิดว่าข้าว คือ ธัญพืช ไม่จัดเป็นอาหารหลัก ทำให้กว่าจะเปิดตลาดซูชิในอเมริกาได้ ก็ต้องรอถึงปี 1980 ขณะที่ปัจจุบันซูชิกลายเป็นเมนูที่ได้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดของญี่ปุ่น ซึ่งให้คุณค่าทางอาหารมากกว่าฟาสต์ฟู้ดของอเมริกา จนเกิดเมนูที่เรียกว่า 'แคลิฟอร์เนียโรล'

    http://variety.thaiz...0%B8%B3/187576/

×
×
  • Create New...