Jump to content

Jkwon

Legend
  • Content Count

    1,553
  • Joined

  • Last visited

Everything posted by Jkwon

  1. Saki & Saki Episode of Side A ----------------------------------------------------------------------อันดับ 1 นางเอกสุดจืด... ก็ชื่อเรื่องนี่นะ :emo (68):
  2. กาแฟ ไม่ว่าจะแบบร้อน เย็น ปั่น คงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของใครหลายคน หากแต่น้ำตาล ครีม หรือนมที่ใส่เสริมเข้าไปนั้น อาจเป็นปัจจัยทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ จึงกลายปัญหาคับข้องใจของบรรดาคอกาแฟ ที่อยากดื่มด่ำกลิ่น รส และความรู้สึกตื่นตัว แต่ก็กลัวอ้วน กรณีที่ตัดใจจากกาแฟไม่ได้ ต้องรู้จักเลือกกาแฟที่ดื่มแล้วไม่อ้วน ที่ง่ายที่สุด อาจหันไปดื่มกาแฟดำ แต่คงไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เพราะความเข้มข้นนั้นอาจบีบหัวใจได้ ขณะที่การใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ครีมเทียมสูตรไขมันต่ำ เติมเพิ่มรสชาติให้กาแฟก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่ไม่นิยมชงเอง แต่เน้นแบบปรุงสำเร็จ คุณศรีประภา จิงประเสริฐสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังก์ชันนอล บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญกาแฟดื่มแล้วไม่อ้วน แนะเทคนิคเลือกกาแฟสำเร็จรูป โดยเริ่มจากดูฉลากข้างผลิตภัณฑ์ เพื่อดูปริมาณน้ำตาล ไขมัน และแคลอรี่ จะต้องไม่สูง นอกจากนี้ส่วนประกอบสำคัญของกาแฟปรุงสำเร็จที่ดื่มแล้วไม่อ้วน ควรมี ใยอาหาร ประมาณร้อยละ 30 เพื่อกระตุ้นการขับถ่าย สารสกัดจากถั่วขาว ในปริมาณ 500 มิลลิกรัม จะให้ประสิทธิภาพดักเอนไซม์ย่อยแป้งได้สูงถึงร้อยละ 65 ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายแป้งเหล่านั้นออกมาตามปกติ ดังนั้นจึงเหลือเข้าสู่ร่างกายเพียงร้อยละ 35 ถือเป็นการลดปริมาณไขมันสะสมไปโดยอัตโนมัติ และเป็น เมล็ดกาแฟสด เมล็ดกาแฟที่ไม่ผ่านการคั่ว เพราะจะอุดมด้วยสารคลอโรเจนิก แอซิด หรือสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดโอกาสเกิดมะเร็งเนื้อร้าย ส่วนสุดท้ายที่ต้องคำนึงถึงด้วย คือ มีปริมาณไขมันต่ำ และไม่มีโคเลสเตอรอล ยังมีข้อควรรู้ที่อาจทำคอกาแฟอึ้ง! โดยคุณศรีประภา เผยว่า กาแฟเย็น 1 แก้ว ที่ยังไม่ได้เติมน้ำตาลหรือนมเพิ่ม ก็สามารถให้พลังงาน (แคลอรี่) พอๆ กับข้าวกระเพราไก่ 1 จาน ดังนั้น หากดื่มแล้ว แนะนำให้ควบคุมอาหารในมื้ออื่นๆ ของวัน ในผู้หญิงถ้าได้พลังงานไม่เกิน 1,200 กิโลแคลอรี่/วัน ผู้ชายไม่เกิน 1,600-1,700 กิโลแคลอรี่/วัน น้ำหนักตัวก็จะไม่เพิ่มขึ้น ------------------------------------------------------------------------ ตัดใจไม่ได้จริง ๆ ชอบมากเลย :emo (68): ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
  3. Nokia วางแผนจะใช้นาโนเทคโนโลยีช่วยให้สมาร์ทโฟน Lumia และ PureView สามารถกันน้ำได้ในอนาคต ซึ่ง Conor Pierce ประธาน Nokia ในยุโรปตะวันตก ได้กล่าวไว้ว่า "ด้วยนาโนเทคโนโลยี และเทคโนโลยี Superhydrophobic จะช่วยให้หยดน้ำที่หล่นบนอุปกรณ์นั้นเด้งออกมา" โดยเหล่านักวิจัยได้ขนานนามสารเคลือบผิวนี้ว่า "hydrophobic nanocoating" ดูได้จากคลิปวิดีโอที่ถูกเผยขึ้นปีที่แล้ว Nokia ได้นำสารนี้ไปใช้บนมือถือตัวอย่าง คุณจะเห็นหยดน้ำกระเด็นออกมาจากสารเคลือบผิว มันจะช่วยให้น้ำไม่เข้าเครื่องมือถือ ขณะนี้ Nokia กำลังพัฒนาสารเคลือบผิวตัวนี้อย่างจริงจัง คาดว่าเราจะได้เห็นรายละเอียดเพิ่มมากขึ้นในงาน Nokia World ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายน ---------------------------------------------------------------------- จัดมาซี่!! :emo (71): ที่มา : siamphone
  4. เอาใจสาวกฮีโร่หน้ากากค้างคาวกับ Nokia Lumia 900 Batman edition ต้อนรับ The Dark Knight Rises ภาคต่อของมนุษย์ค้างคาว Batman ที่หลายคนตั้งตารอ และก่อนที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ โนเกียได้ผลิต Lumia 900 รุ่นพิเศษ ที่มาพร้อมกับฝาหลังสลักโลโก้ Batman และจะมีวางจำหน่ายทาง Phones4U ในอเมริกาเร็วๆนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้โนเกียเคยผลิต Nokia Lumia 800 Dark Knight Rises ออกมา แต่ไม่ได้มีการวางจำหน่ายแต่อย่างใด ------------------------------------------------------------------------ ดำไว้ก่อนสินะ :emo (11): ที่มา : siamphone
  5. แอลจี ประเทศไทย พร้อมวางจำหน่าย LG Optimus L7 สมาร์ทโฟนดีไซน์โดดเด่น เรียบหรู พร้อมความบางเพียง 8.8 มิลลิเมตร ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 หน้าจอ IPS กว้าง 4.3 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล หน่วยความจำภายใน 4GB รองรับหน่วยความจำภายนอก microSD สูงสุด 32GB สนับสนุนการเชื่อมต่อ 3G, HSDPA 7.2 Mbps, Wi-Fi และ Bluetooth 3.0 ---------------------------------------------------------------------- นับว่าบางไม่ใช่น้อย :emo (76): ที่มา : siamphone
  6. พูดถึง Facebook ตอนนี้แล้ว เรียกว่าเป็นมหาอำนาจโลกยุค Internet ก็ไม่ผิดนัก มีคนเล่น Facebook ผ่านโทรศัพท์มากพอ มากพอที่ตอนนี้ Facebook อยากทำโทรศัพท์มือถือเอง เพราะหลายคน ซื้อ Smartphone เพื่อแค่เล่น Facebook จริงๆ ซึ่งครั้งหนึ่ง Facbook เคยจับมือกับ HTC สร้าง Facebook Phone อย่าง ChaCha กับ Salsa ที่กระแสถือว่าสอบไม่ค่อยผ่านนัก มาวันนี้ Facebook อาจพร้อมแล้วกับการสร้างโทรศัพท์ของตัวเองจริงๆ เพราะมีข่าวลือหลุดมาว่า Facebook แอบไปจีบเอาวิศวกรที่อยู่ในทีมการสร้าง iPhone / iPad ให้มาทำงาน Facebook เพื่อสร้างอุปกรณ์ที่เป็นโทรศัพท์ที่ปะตรา Facebook จริงๆซะที โดยรายละเอียดในแง่มุมต่างๆ ยังไม่ชัดเจนนัก เชื่อว่าถ้า Facebook สามารถสร้างทีมทำเครื่องได้จริง การเขย่าโลกครั้งใหม่คงเกิดขึ้นแน่นอน ---------------------------------------------------------------------- เราอยากได้ดีเทลมากกว่านี้อ๊า! ที่มา : mxphone
  7. เอาใจสาวก Nikon กันหน่อยกับเลนส์ย่อมเยาราคาประหยัด แต่คุณภาพไม่ประหยัดเลยกับ Nikkor AF-S 50mm F1.8G เลนส์ Prime ที่น่าซื้อติดกระเป๋าไว้ น่าซื้อใช้อย่างไรมาลองติดตามดูกันดีกว่า เริ่มจากดีไซน์และการจับถือ ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าเลนส์ตัวนี้มีน้ำหนักเบาและขนาดเล็กกะทัดรัด ขนาดหน้าเลนส์เพียง 58 มิลลิเมตร น้ำหนัก 185 กรัม พกพาง่ายครับ เลนส์ตัวนี้ได้รับการออกแบบชุดเลนส์ใหม่ทั้งหมดต่างจากตัวเดิมคือ Nikkor AF 50mm F1.8D ซึ่งนอกจากจะปรับปรุงเรื่องคุณภาพออพติคแล้ว ยังมีการปรับปรุงเรื่องระบบโฟกัสและวัสดุภายนอกอีกด้วย และเนื่องจากมันเป็นเลนส์รหัส G จึงไม่มีวงแหวนปรับรูรับแสงอีกต่อไป เลนส์ตัวนี้มีฮูดมาให้ด้วยในกล่องเลยครับ เพิ่มความหล่อและไม่ต้องไปหาซื้ออีกทีให้เสียเวลา แถมมีมอเตอร์ AF-S ในตัวสามารถใช้งานออโต้โฟกัสร่วมกับกล้องที่ไม่มีมอเตอร์อย่างพวก Nikon D5100 , D3200 ได้แบบไม่หงุดหงิดใจ แถมสามารถ Shift Focus ได้เลยไม่ต้องมานั่งปรับโหมดโฟกัส เพิ่มความสะดวกสบายในการถ่ายภาพแน่นอน ยังไม่หมดแค่นี้ เลนส์ตัวนี้มีชิ้นเลนส์ Aspherical จำนวน 1 ชิ้นมาให้ด้วยครับ ซึ่งตรงนี้แหละครับที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของเลนส์ทางด้านออพติคให้ดีขึ้น มีสวืทซ์ปรับโหมดออโต้โฟกัสที่เลนส์ M/A (ออโต้โฟกัสและปรับโฟกัสแมนนวลได้ทันที) และ M (โฟกัสแบบแมนนวล) และด้วยรูรับแสง 1.8 ทำให้ละลายฉากหลังได้ดีเหมาะแก่การใช้ถ่ายภาพบุคคลมากๆครับ (หรือจะถ่ายอย่างอื่นก็ได้ครับ เป็นเลนส์อเนกประสงค์ตัวหนึ่งเลยทีเดียว) พูดถึงเรื่องความเร็วในการโฟกัสกันบ้าง จากการทดสอบใช้งานพบว่าเรื่องความเร็วในการโฟกัสทำได้รวดเร็วในระดับหนึ่ง ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการถ่ายภาพโดยทั่วไป ส่วนเรื่องความแม่นยำนั้นต้องยกนิ้วให้เลยว่าเข้าเป้าแม่นยำแม้ในที่แสงน้อยก็ไม่ค่อยวืดวาดเท่าไรครับ มาดูเรื่องโบเก้ที่ได้จากเลนส์ตัวนี้กันล้าง ดูแล้วไม่ขี้เหร่ครับ ถึงแม้จะมีไดอะแฟรมแค่ 7 กลีบ ก็ได้โบเก้สวยๆเหมือนกันแม้ว่าจะไม่กลมดิ๊กเหมือนพวกเลนส์โปรๆก็เถอะ แต่จากราคาค่าตัวไม่ถึงหมื่นแบบนี้ ยกนิ้วให้ดีกว่า ส่วนเรื่องละลายฉากหลังหายห่วง เปิด 1.8 เมื่อไร เบลอกระจาย ตาชัดหูเบลอกันเลยทีเดียว ประเด็นเรื่องความคมชัด อันนี้เรื่องใหญ่เพราะเป็นเรื่องที่ช่างภาพซีเรียสกันมากที่สุด เพราะไหนๆเสียตังค์แล้วก็อยากจะได้เลนส์คมๆมาใช้ เจ้า Nikkor AF-S 50mm F1.8G นั้นให้ความคมที่เรียกได้ว่าใช้ได้ตั้งแต่ F1.8 ครับ ไม่ฟุ้งเหมือนตัวเก่า และให้คอนทราสต์ที่ดี ลองดูภาพตัวอย่างครับว่าครอปออกมาให้เห็นที่ F1.8 คุณภาพขนาดนี้เทียบกับค่าตัวแล้ว รับกันได้หรือเปล่า ภาพล่างเป็นการครอป 100% จากภาพด้านบนครับ มาดูกันอีกใบครับกับการเปิดสุดที่ F1.8 ดูว่ามันเบลอฉากหลังได้มากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญเลนส์ไวแสงขนาดนี้ยังไงก็ได้ภาพครับไม่ต้องกลัวฟุ้งใช้งานได้จริงคอนเฟิร์ม รูปนี้ถ่ายในโรงแรมที่ไฟค่อนข้างสลัวครับ ดัน ISO ไป 2500 สปีดชัตเตอร์ 1/80 ยังเอาอยู่! ถามว่าซื้อเลนส์ตัวนี้มาใช้ถ่ายออะไรดี ต้องบอกว่า ถ่ายอะไรก็ได้ครับ ด้วยองศาและมุมรับภาพที่ดูใกล้เคียงกับการมองเห็นของคนเรานั้น ทำให้เลนส์ตัวนี้ถ่ายอะไรไปเรื่อยเปื่อยได้สนุกดี แต่ถ้าจะเน้นเฉพาะทางก็เหมาะกับพวกการถ่ายภาพบุคคลหรือ Portrait นั่นแหละครับ เนื่องจากละลายหลังได้ดี ระยะกำลังเหมาะไม่ต้องถอยเยอะ ส่วนจะใช้ถ่ายอย่างอื่นก็ได้ภาพสวยๆเหมือนกัน สรุปการใช้งานโดยทั่วไปแล้วถือว่าคุ้มค่ามาครับสำหรับเลนส์ตัวนี้ Nikkor AF-S 50mm F1.8G ควรจะมีติดกระเป๋ากล้องไว้สักตัว ไม่ว่าคุณจะชอบถ่ายภาพแนวไหนเพราะใช้สนุกจริงๆ แถมตัวเล็กน้ำหนักเบา พกง่ายอีกด้วย จุดเด่น น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด คม ใช้งานได้จริงตั้งแต่ F1.8 วัสดุและการประกอบสวยงามน่าใช้ มีฮูดแถมมาให้ด้วย ระบบโฟกัสแม่นยำ สามารถ Shift Focus ได้ ราคาถูก เมื่อเทียบกับคุณภาพ ข้อสังเกต ระยะโฟกัสใกล้สุดแค่ 0.45 เมตร อาจจะขัดใจเวลาอยากเอาจ่ออะไรใกล้ๆ ความเร็วในการโฟกัสที่ยังไม่เร็วพอสำหรับการถ่ายภาพบางประเภท ---------------------------------------------------------------------- ธรรมดาซะที่ไหนล่ะเนี่ย!! ที่มา : techxcite
  8. มันเกิดขึ้นแล้ว!! :emo (44):
  9. ชีวิตคนเรามีความรักเป็นส่วนประกอบได้... แต่ต้องไม่ใช่ทั้งหมด!

  10. นี่แคสเกมส์หรือ ทอลค์โชว์เนี่ย!! :emo (68):
  11. ทีมข่าวของเราได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมชมบริษัท Oppo Electronics Industry Co.,Ltd. ที่อยู่ในเขตตงกวน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน จึงเก็บภาพบรรยากาศมาให้คุณผู้อ่านได้ชมกัน (ทีมงานแอบบ่นว่ากว่าจะผ่าน ต.ม. จีนได้ก็เหนื่อยทีเดียว ตรวจเข้มมาก) ในที่สุดก็มาถึงบริเวณพื้นที่ของ Oppo ซึ่งมีขนาดใหญ่ ภายในดูร่มรื่น มีการตกแต่งอย่างเป็นระเบียบ ภายในห้องประชุม มีการแนะนำภาพรวมของบริษัท และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงเทคโนโลยี เยอะแยะมากมาย มาถึงคราวที่เราจะได้พบกับพระเอกของงานกันแล้ว เมื่อผู้จัดงานพาเราไปชมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของ Oppo ภายใต้ชื่อรุ่น Oppo Finder ที่โดดเด่นด้วยความบางเมื่อวัดจากด้านข้างแล้วมีขนาดเพียง 6.65 มิลลิเมตรเท่านั้น สเปคของ Oppo Finder มาพร้อม CPU Qualcomm dual-core 1.5 GHz, RAM 1 GB, พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง 16GB, หน้าจอ Super AMOLED Plus ขนาด 4.3 นิ้ว, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด HD 720p และถ้าไปซื้อที่จีนจะมีแถมหูฟัง Sennheiser ให้ฟรี คุณสมบัติสำคัญอีกตัวของ Oppo Finder คือ มี บริการ Oppo Cloud สามารถค้นหามือถือ สามารถสั่งลบข้อมูลส่วนตัว รูปภาพ คลิป จาก pc ได้ เวลาเครื่องหาย อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยราคาและกำหนดการวางจำหน่ายในไทยออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งเราจะอัพเดทให้คุณผู้อ่านหากมีข้อมูลเพิ่มเติม ---------------------------------------------------------------------- บางเวอร์ไปแร๊ว!! :emo (76): ที่มา : siamphone
  12. ติดตามข่าว ViewSonic Touch and Connect ที่น่าสนใจกันครับ กับโคตรแท็บเล็ต ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดมหึมา ซึ่งก่อนหน้านี้มีทาง Toshiba ที่เปิดตัวแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 13 นิ้วตอนนั้นก็ว่าใหญ่แล้ว คราวนี้เป็นทีของทางค่ายผู้ผลิตอุปกรณ์ audio video ชื่อดัง กับ ViewSonic ได้ผลิตแท็บเล็ต Android ขนาดหน้าจอ 22 นิ้ว ออกมาแบบไม่เกรงใจ New iPad กันเลยทีเดียว ไม่ได้พิมพ์ผิดหรอกครับ ViewSonic เตรียมส่งแท็บเล็ต Android หน้าจอ 22 นิ้วออกมาจริงๆ โดยใช้ชื่อว่า ViewSonic Touch and Connect ซึ่งตอนนี้เจ้านี่ยังเป็นเครื่องต้นแบบอยู่นะครับ โดยจากภาพที่เห็น แท็บเล็ตยักษ์เครื่องนี้จะมาพร้อมกับ Android 4.0 ICS อีกด้วย นอกจากนั้น ทาง ViewSonic บอกว่าให้รอชมรายละเอียดแบบเต็มๆ ทั้งราคา และวันวางจำหน่ายอีกทีที่งาน Computex ในวันที่ 5 มิถุนายน นี้ ใครที่อยากได้แท็บเล็ตเครื่องนี้ แนะนำให้เอาทีวี หรือจอคอมขนาด 22 นิ้วมาลองถือเดินไปเดินมาก่อนครับ คิดซะว่าซ้อมถือไปก่อน ----------------------------------------------------------------------- ใหญ่ไปมั๊ย? ที่มา : techxcite
  13. วันนี้เราจะมารีวิว Ultrabook กัน ซึ่งก็คือ HP Folio 13 เครื่องนี้นี่เอง ก่อนที่เราจะเริ่มรีวิว เรามาดูนิยามของ Ultrabook กันก่อนดีกว่าค่ะ ปัจจุบันเริ่มมี "Ultrabook" ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ออกมาจะต้องมีคุณสมบัติต่างๆ ตามที่ Intel เป็นผู้กำหนด ซึ่งมีเฉพาะ Notebook ที่ใช้ชิพประมวลของ Intel เท่านั้นที่จะถูกเรียก ว่า Ultrabook ได้ เพราะ เป็นชื่อเฉพาะ ที่ทาง Intel ได้ตั้งขึ้นมา (ทาง AMD ยังไม่มีโน้ตบุ๊คแบบ Ultrabook ออกมา แต่มีข่าวออกมาว่าจะใช้ชื่อ "Ultrathin") โดยต้องมีสเปคคร่าวๆดังนี้ 1.ต้องมีขนาดตัวเครื่องไม่สูงเกิน 18 mm. สำหรับจอ 13.3” และ ไม่สูงเกิน 21 mm. สำหรับจอ 14” 2.ระยะเวลาของแบตเตอรี่ต้องทำงานได้ไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง 3.มีน้ำหนักที่เบาอยู่ที่ประมาณ 1 kg. 4.มีระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ 5.มีน้ำหนักเบา 6.ราคาอยู่ที่ประมาณ $1,000 USD หรือ ประมาณ 30,000 บาทไทย 7.ใช้ Processor แบบ Sandy Bridge และ HD Graphic 3000 สำหรับของปี 2011 (ส่วนของปี 2012 ใช้ Processor แบบ Ivy Bridge และ HD Graphic 4000) นี่เป็นคุณสมบัติคร่าวๆที่ทาง Intel ได้ให้นิยามของ Ultrabook ไว้ สำหรับวันนี้เรามารีวิวดูความสามารถของ Folio 13 เครื่องนี้กันดีกว่าค่า : D รูปลักษณ์ องค์ประกอบของเครื่อง สำหรับวัสดุที่ใช้ทำตัวบอดี้ของ HP Folio 13 จะประกอบไปด้วย Aluminium เป็นหลัก เพราะเป็นวัสดุที่ให้น้ำหนักเบารวมถึง มีความทนทานสูงด้วย รูปทรงของ Folio 13 จะเห็นได้ว่าออกแนวเหลี่ยมๆ รวมทั้งมีความหนามากกว่า Ultrabook ของเจ้าอื่นๆอยู่เล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นสไตล์ของ HP เพราะว่า รูปทรงแบบนี้ ให้ความรู้สึกที่เรียบหรู มีระดับ ดูแข็งแรงทนทาน บริเวณรอบๆ ขอบของจอภาพปิดสนิทกับตัวเครื่องได้เรียบร้อยดี และมียางคอยรองรับแรงกระแทกอยู่ 4 จุด รอบๆ หน้าจอ บริเวณทางด้านฝั่งซ้ายของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย ช่องเสียบสายชาร์จ ไฟบอกสถานะการชาร์จของแบตเตอรี่ ช่องสำหรับเสียบสาย LAN (RJ-45) ช่องเสียบสาย HDMI , USB 3.0 ช่องสำหรับเสียบ Card Reader และ ไฟแสดงการทำงานของ Hard disk และ การเปิดปิดของเครื่อง บริเวณฝั่งขวาของเครื่องจะมีเพียง รูเสียบ Headphone/Microphone ขนาด 3.5 mm. และ USB 2.0 บริเวณด้านใต้เครื่อง จะเป็นวัสดุอีกแบบนึง ซึ่งต่างจากตัวเครื่อง ซึ่งก็คือ คาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งมีความแข็งแรงและให้น้ำหนักเบาเช่นเดียวกัน สำหรับข้างใต้เครื่องจะเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆได้เอง สังเกตได้ว่าจะมีพัดลมระบายความร้อนอยู่ข้างใต้เครื่องและ มียางดันเครื่องให้นูนขึ้นมาเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้มากขึ้น ที่บริเวณข้างหลังเครื่องทางฝั่งซ้ายก็ยังมีพัดลมระบายความร้อนอยู่อีกจุดด้วยเช่นกัน Folio 13 มาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD ความละเอียดอยู่ที่ 1.3 MP บริเวณด้านซ้ายบนของเครื่องจะมีปุ่ม Power สำหรับเปิดเครื่อง ซึ่งต้องกดค้างเล็กน้อยเครื่องถึงจะทำงาน และ ไฟบอกสถานะกล้อง Webcam ลงมาหน่อยจะเป็นส่วนของ Speaker ของเครื่อง คีย์บอร์ดของ HP Folio 13 เป็นแบบ Chiclet พร้อมมีไฟ Backlit มาให้ด้วย ช่วยให้สะดวกต่อการทำงานในเวลาที่มีแสงไฟน้อยๆ ได้เป็นอย่างดี ด้าน Touchpad จะเป็นแบบชิ้นเดียวกัน รองรับการทำงานแบบ Multi-Touch อีกด้วย ทางฝั่งซ้ายบนที่มีสัญลักษณ์กรอบ4เหลี่ยม เราสามารถเปิด/ปิด Touchpad ด้วยวิธีการแตะ2ครั้งจะเป็นการสลับการทำงานเปิด/ปิด ได้ในทันที และมีไฟบอกสถานะของ Touchpad อยู่บริเวณด้านบน Touchpad ด้วย ส่วนระบบเสียงถึงจะเป็นลำโพงปกติ แต่ให้ระบบเสียงแบบ DOLBY เลยทีเดียว จากที่ได้ทดลองใช้งานดูพบว่าเสียงดังมาก และมีความคมชัดของเสียงสูงด้วยเช่นเดียวกัน องศาของการเปิดหน้าจอกว้างที่สุดจะได้ดังภาพนี้ครับ เรามาดูด้าน Performance ของ Folio 13 กันดีกว่า Rate คะแนนที่ได้จากตัว Window เอง ออกมาโอเคเลยทีเดียว สำหรับ Ultrabook เครื่องนี้ HP Folio 13 มาพร้อม Intel Core i5 Sandy Bridge แบบ Dual core ทำงานแบบ 2 cores 4 threads ทำงานที่ความเร็ว 1.6 GHz และ รองรับ Turbo Boost ทำให้เพิ่มความเร็วได้สูงสุดที่ 2.30 GHz มาพร้อม Ram DDR3 ขนาด 4 GB 1 slot ไม่สามารถเพิ่มได้มากกว่านี้ สำหรับการ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ด Intel HD Graphic 3000 โดยมีขนาดความละเอียดของจออยู่ที่ 1366x768 ที่หน้าจอ ขนาด 13.3“ ทดสอบความเร็วของ HDD ด้วย HD TUNE Folio 13 ใช้ SSD (Solid State Drive) ทำให้ผลการทดสอบออกมาได้ประสิทธิภาพที่สูง และ ด้วยความเร็วนี้ ทำให้ใช้เวลาในการเปิดเครื่องได้น้อยมากโดยใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที วินโดว์ก็พร้อมให้เราได้ใช้งานแล้ว รวมถึงการทำงานจาก Sleep Mode ก็ทำได้เร็วเอามากๆ ไม่ถึง 10 วินาที แต่ออกจะให้ขนาดความจุมาน้อยไปสักนิด เพราะมีแค่ 128 GB เท่านั้นเอง คะแนนที่ได้จาก 3D Mark 06 จัดได้ว่าไม่สูงมากนักเนื่องจาก เป็น Core i5 และ การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดด้วย คะแนนที่ได้จาก Cinebench R 11.5 ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง อุณหภูมิเครื่อง ขณะที่ CPU ทำงานเต็มที่จะอยูที่ 74.0 C ส่วนเวลาทำงานปกติทั่วๆไป จะอยู่ที่ 50.0 C โดยประมาณ จัดได้ว่า อุ่นๆ ไม่ถึงกับร้อนมากครับ แบตเตอรี่เป็นแบบ 6-cell (59WHr) Li-Ion จากการทดสอบสามารถทำงานหนักได้เกือบ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียวซึ่งถึงว่า ประหยัดพลังงานเอามากๆ Final Word ถ้าได้ดูจากการทดสอบ และ Spec คร่าวๆแล้ว จะเห็นได้ว่า HP Folio 13 เครื่องนี้ ถือได้ว่าเหมาะสำหรับนักธุรกิจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงและสีของตัวเครื่องที่ดูเรียบหรู และน้ำหนักแค่ไม่ถึง 1.50kg รวมทั้งแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างเหลือเฟือเอามากๆ เหมาะกับเวลาที่ต้องเดินทางไปนำเสนองานตามที่ต่างๆ เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมี HP Coolsense มาช่วยลดความร้อนของตัวเครื่องได้เป็นอย่างมาก ไม่ต้องกลัวว่า HP ของคุณจะร้อนมากอีกต่อไป : D สำหรับ Spec เครื่องอาจจะดูไม่คุ้มกับราคาที่จ่าย อาจจะเป็นเพราะเป็นรุ่นแรกๆของ Ultrabook รวมทั้งราคา SSD และวัสดุที่ใช้ในการทำตัวเครื่อง แต่ถ้าลองมองดูถึงสิ่งต่างๆที่ได้รับกลับมา อาทิเช่น สามารถทำงานหนักๆได้สบายทั้งวันโดยที่ไม่ต้องเสียบสายชาร์จเลยก็ได้ พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกกว่า Notebook ธรรมดาทั่วไป และมีความแข็งแรงทนทาน Folio 13 ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่คุณน่าลองจับจองเอามากๆ เลยทีเดียว จุดเด่น - มาพร้อม Window 7 Home Premium 64-bit - Keyboard มีไฟ Backlit - ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่าเครื่องหน้าจอ 13.3 นิ้ว ทั่วไป เพราะขอบของหน้าจอเล็กมากๆ ทำให้มีกว้างของเครื่องแค่ 13 นิ้ว - Batteryอยู่ได้นานมาก - วัสดุที่ใช้มีความทนทานสูง+งานประกอบเนี๊ยบมีคุณภาพ - เปิด/ปิดเครื่องจาก Sleep Mode ได้อย่างรวดเร็ว --------------------------------------------------------------------- อยากลุ้น ultrabook ของทาง amd ด้วยแฮะ :emo (76): ที่มา : techxcite ข้อสังเกต - ตัวเครื่องหนากว่า Ultrabook ค่ายอื่นๆ - ไม่มี Port VGA (เพราะว่าต้องการให้ตัวเครื่องมีความบางมากๆ ทำให้ถูกตัดออกไป แต่มี HDMI แทน) - หน้าจอมีแสงเงาสะท้อนเอามากๆ
  14. SM-T300 เครื่องพิมพ์แบบพกพาจากบริษัท Star Micronics เหมาะกับการออกใบเสร็จรับเงินสำหรับธุรกิจบริการจัดส่งของ และเรียกเก็บเงินปลายทาง SM-T300 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ออกแบบที่ให้มีความแข็งแรงทนทาน ทั้งยังสามารถกันน้ำ, กันฝุ่นได้ตามมาตรฐานสากล IP54 และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง การทำงานเพียงเชื่อมต่อเครื่อง SM-T300 เข้ากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเลตผ่าน Bluetooth, Wi-Fi เพื่อสั่งงานพิมพ์ใบเสร็จ โดยใช้เวลาพิมพ์ที่ความยาวของใบเสร็จ 80 มิลลิเมตรต่อวินาที ---------------------------------------------------------------------- อันนี้สิน่าสนใจหน่อย :emo (76): ที่มา : siamphone
  15. แม้ว่า Dell ไม่ประสบความสำเร็จในตลาด Android Tablet อย่างเปรี้ยงปร้างนัก แต่ Dell ก็ยังคงผลิต Tablet รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเรื่อยๆอย่างไม่ขาดสาย โครงการผลิต Windows 8 Tablet นั้นก็ยังคงอยู่ในโร้ดแมพ ล่าสุดข่าวจาก Neowin ได้เผยสเปค Windows 8 Tablet จาก Dell ออกมาแล้ว Tablet ดังกล่าวมาพร้อมกับหน้าจอ 10.8 นิ้ว ความละเอียด 1,366 x 768 พิกเซล, หน่วยประมวลผล Atom Dual-Core, ที่อ่านลายนิ้วมือ, กล้อง 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล, Intel Graphics, แรม 2 GB, SSD ขนาด 128 GB, แบตที่ถอดเปลี่ยนได้ 2 ขนาด โดยแบตขนาดเล็กใช้งานได้ถึง 6-8 ชม. แบตขนาดใหญ่ใช้งานได้ถึง 10-12 ชม. ลือกันว่า Dell จะทำการเปิดตัวในปลายฤดูใบไม้ผลิ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับราคาในขณะนี้ ---------------------------------------------------------------------- แม้ว่าตัวเครื่องจะน่าสนใจ แต่ราคาที่เป็นสิ่งสำคัญ ยังไม่เปิดเผยจ้า :emo (71): ที่มา : mxphone
  16. ได้มีการพบรายชื่อ Nokia รุ่นใหม่บนแอพพลิเคชั่น WP Bench ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นเบนช์มาร์คสำหรับ Windows Phone โดยรายชื่อที่ถูกพบนั้นมี 4 รุ่นดังนี้ - Nokia PureLambda - Nokia Phi - Nokia Pure Phi - Nokia Alpha ซึ่งทั้ง 4 รุ่นทำงานอยู่บน OS เวอร์ชั่น 8.0.9842 ดังที่ทราบว่า OS 8.0 นั้นคือ Apollo เป็นไปได้หรือไม่ที่ PureLambda จะเป็นหนึ่งในสายเทคโนโลยีของ PureView ซึ่งข่าวก่อนหน้าได้เคยพูดถึงว่า Nokia จะมีการนำ PureView มาใช้กับ Windows Phone ด้วย ---------------------------------------------------------------------- จากในภาพมีถึง 100 เลยนะนั่น! ที่มา : siamphone
  17. โอตาคุสายซึนนี่ฝ่า 555 :emo (64):
  18. หลังจากที่มีภาพถ่ายจากอุปกรณ์สุดเจ๋งอย่าง Project Glass แว่นตาที่จะปฏิวัติวงการ IT ในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุด มีภาพถ่ายมาเพิ่มอีกชุด พร้อมกับคลิปวีดีโอตัวแรกจากกล้องด้วยครับ ไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ กล้องของ Project Glass สามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ HD 720p ครับ ส่วนใครที่อยากดูภาพถ่ายทั้งหมดที่ถ่ายจากอุปกรณ์สุดเทพชิ้นนี้ สามารถเข้าไปดูได้ที่ Google+ Photography Conference ได้เลยครับ ---------------------------------------------------------------------- มันมีหยุดเป็นระยะ ๆ ด้วยแฮะ :emo (68): ที่มา : techxcite
  19. นิตยสาร “ทราเวล แอนด์ ลีเชอร์ ” ฉบับเดือนมิถุนายน 2012 แนะนำ 13 ชายหาด “แปลกที่สุดในโลก” เอาใจนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่และอยากเห็นท้องทะเลในมุมมองที่แตกต่าง โดยชายหาดทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานสร้างสรรค์ของธรรมชาติทั้งสิ้น (ต่อ) หาดจันดีปุระ รัฐโอริสสา ประเทศอินเดีย ชายหาดแห่งนี้ตั้งอยู่ในอ่าวเบงกอล หากไปเยือนในช่วงเวลาปกติอาจไม่เห็นความผิดแปลกอะไร แต่ถ้าไปในช่วงเวลาน้ำลด (วันละ 2 ครั้ง) อาจเกิดการเข้าใจผิดคิดว่ากำลังจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิได้ เพราะอยู่ๆ น้ำทะเลก็หายไปจากชายฝั่งเป็นระยะทาง 1-5 ก.ม. ซึ่งในช่วงเวลานี้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเดินเล่น เก็บหอย หรือชมปูแดงตัวน้อยๆ ก่อนที่น้ำทะเลจะขึ้นอีกครั้ง ไฟเฟอร์ บีช บิ๊กเซอร์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย บิ๊กเซอร์ ได้ชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่มีทัศนียภาพที่งดงามมากที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพราะเป็นที่ตั้งของหน้าผาสูงใหญ่ ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ทุ่งหญ้าเขียวขจี และ “หาดไฟเฟอร์ ” ซึ่งเป็นชายหาดสีม่วงที่มีความยาวเกือบ 1 ก.ม. เหตุที่ชายหาดแห่งนี้มีสีม่วงเพราะมีผงหรือเศษแร่แมงกานีสการ์เนตจากหินที่อยู่บนหน้าผาและริมชายฝั่งเจือปนอยู่นั่นเอง (ผงแร่จะอยู่ด้านบน ส่วนทรายอยู่ด้านล่าง) อย่างไรก็ตาม การไปเยือนชายหาดแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยไป เพราะพิกัดที่ตั้งค่อนข้างหายาก แต่ถ้าไปถึงแล้วก็จะได้เห็นภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยตะลึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามพระอาทิตย์ตก แต่ห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาด เพราะกระแสคลื่นค่อนข้างแรงและเป็นคลื่นทะเลดูด หาดกุลปียูริ ใกล้เมืองลีอาเนส ในแคว้นปกครองตนเองอัสตูเรียส ประเทศสเปน ชายหาดแห่งนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ริมชายฝั่งเหมือนหาดโดยทั่วไป แต่กลับแทรกตัวอยู่ในหลุมยุบบนแผ่นดินที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เมตร แถมยังถูกโอบล้อมด้วยเนินเขา ทุ่งหญ้า และหน้าผาหินปูน ถึงแม้ชายหาดที่นี่จะมีความยาวเพียง 49 เมตร แต่น้ำทะเลเบื้องหน้ากลับใสแจ๋ว แถมยังมีคลื่นซัดสาด พร้อมปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลงอีกต่างหาก โดยช่วงเวลาที่น้ำขึ้นสูงสุดเราแทบจะมองไม่เห็นหาดทราย แต่พอถึงช่วงเวลาน้ำลด น้ำแทบทั้งหมดก็จะหายไป ที่เป็นเช่นนี้เพราะในอดีตน้ำทะเลได้กัดเซาะหินปูนบริเวณหน้าผาริมชายฝั่งทะเลกันตาเบรียจนกลายเป็นโพรงถ้ำ ต่อมาพื้นถ้ำได้พังถล่มลงทำให้เกิดหลุมยุบในบริเวณดังกล่าวและมีน้ำทะเลไหลผ่านเข้ามา กระทั่งกลายเป็นชายหาดขนาดย่อมๆ กลางแผ่นดินในที่สุด หาดปูนอาลู บิ๊กไอส์แลนด์ รัฐฮาวาย ชายหาดสีดำแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ “เกาะฮาวาย” หรือ “บิ๊กไอส์ แลนด์” ซึ่งเป็นเกาะภูเขาไฟขนาดใหญ่ เนื้อที่มากกว่า 1 หมื่นตารางกิโลเมตร (ใหญ่กว่าเกาะทุกเกาะในฮาวายรวมกัน และเป็นเกาะใหญ่สุดในอเมริกา) สาเหตุที่ชายหาดแห่งนี้มีสีดำเนื่องจากเต็มไปด้วยเม็ดหินบะซอล์ต ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากลาวาร้อนๆ ไหลลงทะเลแล้วเกิดการระเบิดเป็นไอร้อนหรือเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว นอกจากชายหาดสีดำแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวมักพบเห็นบ่อยครั้งบนชายหาดแห่งนี้ก็คือ เต่าตะนุที่ใกล้สูญพันธุ์ ดังนั้นจึงห้ามแตะต้องลูบคลำตัวเต่าโดยเด็ดขาด เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย หาดซลาตนี่ ราต (โกลเด้น ฮอร์น) บราค ไอส์แลนด์ ประเทศโครเอเชีย ชายหาดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางด้านทิศใต้ของ “บราค ไอส์แลนด์ ” ซึ่งมีป่าสนอยู่เต็มพื้นที่ และเนื่องจากตอนปลายสุดของแหลมมีหาดทรายรูปทรงสามเหลี่ยมยื่นออกไปในทะเลเป็นระยะทางยาว 634 เมตร ชายหาดแห่งนี้จึงถูกตั้งชื่อว่า “ซลาตนี่ ราต” ซึ่งแปลว่า ”โกลเด้น ฮอร์น” ในภาษาอังกฤษ หรือ “แหลมทอง” ในภาษาไทย ด้วยความที่เป็นชายหาดยื่นยาวออกไปในทะเล หาดทรายบริเวณดังกล่าวจึงมีขนาดและรูปร่างเปลี่ยนแปลงไปตามปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลง ตลอดจนกระแสลมและกระแสน้ำ เซียสตาบีช รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เซียสตาบีช เป็นชายหาดที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในอเมริกา ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่มีทรายขาวที่สุดและละเอียดที่สุดในโลก เนื่องจากทรายที่นี่ประกอบด้วยควอทซ์บริสุทธิ์ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังเป็นรูปทรงกลมและมีขนาดเล็กมาก เวลาถอดรองเท้าเดินจึงรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และแม้จะถอดรองเท้าเดินเล่นริมชายหาดในวันที่อากาศร้อนและแดดแรงสุดๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าเท้าจะพอง เพราะทรายที่นี่ไม่ดูดซับความร้อน จึงให้ความรู้สึกเย็นและนุ่มเท้าตลอดเวลา ฮอทวอเตอร์บีช แหลมโคโรแมนเดล เกาะเหนือ ประเทศนิวซีแลนด์ “ฮอทวอเตอร์บีช” ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านทิศตะวันออกของแหลมโคโรแมนเดล สาเหตุที่ชายหาดแห่งนี้ถูกเรียกว่า “หาดน้ำร้อน” เป็นเพราะบริเวณชายหาดมีแหล่งน้ำพุร้อนใต้ดิน เมื่อถึงช่วงเวลาน้ำลง (เช้า-เย็น) นักท่องเที่ยวจะมีเวลา 2 ชั่วโมงหลังน้ำลดในการขุดหลุมทรายเพื่อให้น้ำพุร้อนผุดขึ้นมา (มีถังและพลั่วให้เช่า) โดยน้ำที่ซึมเข้ามาในหลุมหรือบ่อสปาธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวขุดขึ้นนี้ จะมีอุณหภูมิประมาณ 64 อาศาเซลเซียส แต่ข้อควรระวังก็คือ ชายหาดแห่งนี้ไม่เหมาะที่จะลงเล่นน้ำ เพราะมักเกิดคลื่นทะเลดูด ซึ่งคร่าชีวิตนักท่องเที่ยวที่ไม่ระวังหรือไม่เชื่อฟังคำเตือนมาแล้วหลายราย ---------------------------------------------------------------------- เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง http://www.idoli-z.net/forum/index.php?/topic/5037- credit : paow007
  20. เน็ตเท่ากันอ๊า ต้องลอง ๆ ! :emo (68):
  21. นั่น สันด.ดิบออกแร๊ว 555 :emo (64):
×
×
  • Create New...