ponkung

ส่วนตัวคงจะไม่เลือกยาก เพราะผมคิดว่าหากเราเข้าใจ เอาใจใส่ และให้เกียรติกัน คนที่เรารัก สามารถกลายกลับมาเป็นคนที่รักเราได้ในขณะเดียวกันครับ สำคัญที่ก่อนสร้างความสัมพันธ์ ถามตัวเองให้ดีๆก่อนว่าใช่แน่หรือเปล่าครับ คนที่เรารัก.....คือคนที่ใช่สำหรับเรา แต่บางครั้ง.....เรากลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่ คนที่เรารัก.....คือคนที่เราคิดว่าเรารู้จักเขาดี แต่แท้จริงแล้ว....เรากลับไม่รู้จักเขาเลย คนที่เรารัก......คือคนที่เราพร้อมจะเป็นผู้ให้ แต่สิ่งที่เราให้.....เขากลับไม่เคยมองเห็นสิ่งที่เราให้ไป คนที่เรารัก........คือคนที่เราอยู่ด้วยเวลามีความสุข แต่เวลาเราทุกข์.....เรากลับมองหาเขาไม่เจอ คนที่เรารัก....คือคนที่เราใส่ใจทุกเวลา แต่ที่แย่กว่าคือ.....ตลอดมาเขาไม่ได้ "รักเรา" ตรงนี้ สิ่งที่สำคัญคือ เราไม่ได้ติดอยู่กับภาพลวงตาของคนที่เรารักเฉยๆไปวันๆ แต่เรากล้าที่จะเดินเข้าหาอีกฝ่าย เพื่อไปเดินเคียงข้างกัน ทำความเข้าใจ ให้เวลา และสร้างโอกาสซึ่งกันและกันครับ ส่วนตัวอ่านแล้วรู้สึกว่าความคิดเห็นมันเลือกข้าง และเจาะจงประเด็นมุมมองที่จะเชียร์ความรักจากส่วนของ คนที่รักเรา มากกว่า คนที่เรารักนะครับ ซึ่งจริงๆแล้วในขณะที่เราอยากจะพยายามเห็นค่า และให้ความหมายกับสิ่งที่คนที่รักเรามอบให้กับเรา ก็ควรมองย้อนไปด้วยว่า แล้วเราได้ให้โอกาส มอบคุณค่า ความหมายให้กับคนที่เรารัก ให้เค้าเข้าใจมากน้อยแค่ไหนแล้วด้วยน่ะครับ

ชีวิตมันโหดร้าย เพราะโลกแห่งความเป็นจริงไม่มี Action Replay หรือ Trainer อย่างในเกมส์ให้มีหลอดเลือด/พลังชีวิตเต็ม ยิงเข้าเป้าทุกนัด มุมบอด บั๊กของเกมส์ หรือกระสุนไม่มีวันหมดครับ หากทหารแบกยุทโธปกรณ์เยอะเกินจำเป็น ก็เป็นตัวถ่วง ให้เอาชีวิตไม่รอด หากภารกิจต้องขยับตลอดเวลา แต่หากขาดยุทโธปกรณ์ ก็จะออกปฏิบัติการได้ลำบากครับ ที่สำคัญคือคุณค่าของชีวิตแต่ละคน เพราะชีวิตจริงไม่มีตัวเลือกให้ Retry, Continue หรือ Load ใหม่แบบเกมส์ครับ และความผิดพลาดบางครั้ง ก็ทำให้เพื่อนๆในหน่วย ตลอดจนประเทศเราอาจพบชะตากรรมที่ในเกมส์อาจจะต้อง Retry, Continue หรือ Load ซึ่งชีวิตจริงไม่สามารถทำได้ ไปพร้อมๆกับตัวเราเช่นกันครับ

ไม่แปลกที่จะเจอสิ่งมีชีวิตใหม่ๆอะไรที่เราไม่รู้จักครับ เพราะโลกใบนี้ยังมีอะไรให้มนุษย์ค้นหาอีกเยอะครับ ปัญหาคือยิ่งเราพัฒนามากขึ้น บางครั้งเราจะติดอยู่ในกรอบความคิดเดิมๆมากเกินไป จนไม่ได้คิดไปในแนวความคิดอื่นๆ และมีการศึกษาอย่างจริงจังครับ โลกมีสัดส่วนพื้นที่เป็นน้ำอยู่ 75% ดังนั้นด้วยขนาดพื้นที่ โอกาสที่จะเจอสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆในน้ำ ก็ย่อมมีอยู่เยอะเป็นเรื่องธรรมดาครับ

อาหารแต่ละอย่างจริงๆมันก็มีคุณค่าทั้งนั้นล่ะครับ ยกตัวอย่าง สำหรับคนชาติตะวันตก จริงๆแล้วแฮมเบอเกอร์ก็ไม่ใช่ว่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ เพราะคนที่ทานอาหารเป็น ไม่ได้ทานแค่แฮมเบอเกอร์แค่ชิ้นเดียว แต่มีเครื่องเคียงเป็นสลัดผัก เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหาร แร่ธาตุและวิตามิน ไปพร้อมกับชิ้นเบอเกอร์ที่มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันไปพร้อมๆกันครับ ปัญหาจึงจะอยู่ต่อเมื่อเราเลือกทานเฉพาะส่วนที่ชอบ หรือทานอาหารไม่ครบหมู่อาหารมากกว่าครับ

การเลือกที่จะทำอะไรไม่ใช่เรื่องผิดครับ แต่ปัญหาคือเราตัดสินใจทำอะไรอย่างดีแล้วหรือยังแค่นั้นเองครับ ผมเชื่อว่าหลายๆคนเมื่อโตขึ้น มีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น มุมมองหรืออะไรหลายๆอย่างก็จะค่อยๆเปลี่ยนไปครับ เราจะปรับตัว โดยเข้าใจกับความคิดของคนสูงวัย และมุมมองในวัฒนธรรมที่ต่างยุคสมัยกันได้กระจ่างชัดขึ้น ในขณะเดียวกัน เราก็จะมีเหตุผลในตัวเองมากขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยให้เราอธิบายสิ่งต่างๆกับคนที่ต่างวัย ต่างมุมมองความคิดกับเราได้ดีขึ้นครับ เรื่องราวในการ์ตูน หรือในบางความคิดเห็น ผมมองว่าเราไม่ผิด หากจะทำอะไร เพียงแต่บุคคลอื่นๆที่มีมุมมองของตัวเองก็ไม่ผิดเช่นกันครับ เพราะแต่ละคนก็ประมวลผลลัพธ์ความคิดออกมาแตกต่างกัน อยู่ที่ว่าแล้วตัวเราพยายามอธิบายมุมมองความคิดของเราให้กับคนอื่นๆได้มากน้อยแค่ไหนต่างหากครับ ตามที่บอกมานี่ล่ะครับ ผมกับเพื่อนๆเรียนปริญญาตรีวิทยาศาสตร์มาเหมือนกันตอนปี 1 พอเลือกภาคตอนปี 2 จากนั้นเมื่อเราจบมา 3 ปีที่เรียนก็กำหนดวิถีชีวิตแต่ละคนไปตามสายวิชาที่เรียนเลยครับ ไม่ผิดอะไรที่จะไปทำงานด้านที่ไม่ตรงกับสายที่เรียนมาเบื้องต้น แต่ผมก็มองว่า การทำงานตามความฝันเพียงอย่างเดียว อาจจะเป็นการทำงานตามใจรัก แต่งานอาจไม่มีประสิทธิภาพดีครับ เพราะการเรียนรู้ การศึกษาต่างๆ ก็เหมือนกับการหยิบบันทึก เคล็ดลับ ตลอดจนข้อผิดพลาด สิ่งที่ควรทำ ข้อควรระวัง และส่วนที่ต้องแก้ไขให้เรารับรู้และไม่ทำพลาดครับ ดังนั้นการเรียนจึงไม่ใช่การไปเช็คชื่อ เข้าห้อง และเรียนจบเฉยๆ แต่เป็นการพัฒนาตนเองให้มีความสามารถในทักษะด้านที่จะเอาไปใช้ในชีวิตให้มากขึ้น ดียิ่งขึ้นครับ แต่เรียนสายศิลป์อยากเป็นวิศวะนี่พลาดตั้งแต่การเลือกทางเดินชีวิตแล้วนะครับ ไม่ผิดที่อยากเรียน แต่ต้องเข้าใจว่าพื้นฐานความรู้ที่จำเป็นในการทำงาน มันก็อยู่ที่การเรียนเบื้องต้นนั่นล่ะครับ ซึ่งหากพื้นฐานไม่แน่น เราก็จะต้องใช้ความพยายาม อุตสาหะมากกว่าคนอื่นมากๆ ซึ่งหากเราไปเผลอเปรียบเทียบกับคนอื่น แล้วไม่พยายามหนัก พื้นฐานความรู้ที่ไม่เท่ากันอาจทำให้งานที่เรารับผิดชอบมีปัญหา และส่งผลต่อคนอื่นๆได้ครับ เช่นหากคุณอยากเป็นวิศวกรโครงสร้าง แต่ไม่เคยเรียนเรื่องแรงและโครงสร้าง คุณวางแผนไม่ดี ก็มีทั้งเคสที่ตึกพังเพราะคุณกะจำนวนเสา จำนวนคานผิด ใช้วัสดุน้อยไป หรือเคสที่บริษัทเจ๊ง เพราะคุณสั่งใช้วัสดุเกินความจำเป็นจนลูกค้ายกเลิกสัญญาครับ แน่นอนว่าหากคุณจะทำงานให้มีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้มีการพัฒนาตนเอง ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะทำงานออกมาได้ดีครับ และการที่จะพัฒนาตนเองนั้น การเรียนรู้เป็นกุญแจยกระดับความสามารถของคุณครับ หากเราอยากให้คนอื่นเข้าใจเรา เราต้องอธิบายให้คนอื่นเห็นภาพและเข้าใจความคิดเห็นในมุมมองของเราให้เป็นครับ หลายคนเจอปัญหาอย่างในการ์ตูน แต่สามารถอธิบายคนรอบข้างได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ และเราต้องเรียนรู้ รับฟังมุมมอง ความคิดเห็นของคนอื่นๆที่คิดต่างกับเราด้วยเช่นกันครับ เพราะการเปิดมุมมอง จะทำให้เราเห็นแนวคิดในเรื่องนั้นๆที่กว้างขึ้น ครอบคลุมความคิดเห็นของคนทั้งหมด และนำแนวคิดมาประมวลผล เพื่อปรับใช้กับชีวิตเราครับ ปัญหาเดียว และใหญ่มากในตอนนี้คือ คนไทยยังมีการรับความคิดของคนที่มีมุมมองต่างๆนอกเหนือจากตัวเราน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ ซึ่งนั่นจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาตนเองของประชากรเราช้ากว่าชาติอื่นๆ นอกจากนี้ยังต้องฝึกการแสดงความคิดเห็นกับผู้อื่นโดยมีหลักการ การเรียบเรียงความคิดเห็น เหตุและผลเช่นกันครับ เพราะกรอบขวาในการ์ตูนนั้น หากเราโตพอ เราจะสามารถอธิบายเหตุและผลให้กับคนทุกคนให้รับทราบและเข้าใจได้ครับ และเช่นเดียวกัน เราจะเข้าใจมุมมองความคิดเห็นและความห่วงใยของผู้ใหญ่ไปได้ในเวลาเดียวกันด้วยครับ

เรื่องที่คนไม่ค่อยรู้กันคือ ใน 1 วันร่างกายจะมีการสูญเสียน้ำออกไปค่อนข้างมากครับ จากทั้งทางเหงื่อและปัสสาวะ ดังนั้นการดื่มน้ำ จะไปช่วยรักษาสมดุลปริมาณน้ำสำหรับร่างกาย ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมครับ สำหรับคนทั่วไป ในสภาพอากาศปรกติ จะต้องการน้ำ 3 ลิตร/วัน ส่วนคนที่มีกิจกรรมระหว่างวันมาก หรือมีโอกาสสูญเสียเหงื่อระหว่างวันสูง จะมีความต้องการน้ำต่อวันประมาณ 4.5 ลิตรครับ ทั้งนี้สำหรับคนที่สูญเสียเหงื่อมาก นอกจากเรื่องน้ำแล้ว ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมเรื่องของเกลือแร่ (Electrolyte - โซเดียม, โพแทสเซียม และ คลอไรด์) ที่ถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อด้วยครับ เพราะมันจะเกี่ยวพันถึงการทำงานของร่างกาย เอนไซม์และการควบคุมสภาวะกรด-ด่างในร่างกายเราเช่นกันครับ

น้องสาวเพิ่งไปญี่ปุ่น ซื้อมาฝากเหมือนกันครับ รสชาเขียว, รสดาร์กช็อกโกแลต กับรสส้มอร่อยดีครับ แต่รสอื่นยังไม่เคยลองครับ ปล. ของบ้านเรารสจะออกเป็นช็อกโกแลตนมน่ะครับ มันไม่ค่อยเข้มข้นเท่าที่ญี่ปุ่นเท่าไหร่ครับ

AnimeSongCollabo - ถึงตัว(อาจ)จะห่างไกล แต่หัวใจและความฝัน(ในเสียงดนตรี)ไม่ห่างกัน เพื่อนๆที่ได้เล่น NicoNico หรือ Youtube บ่อยๆคงจะเห็นรูปแบบกิจกรรมการแสดง Live หรือ Cover เพลงต่างๆ ตั้งแต่เครื่องดนตรีชนิดต่างๆ การร้อง ตลอดจนกระทั่งการเต้น Cover และหลายคนก็คงจะมีการติดตามการแสดงของคนนั้นๆอยู่ในใจบ้างนะครับ ที่วันนี้อยากจะแนะนำเป็นกลุ่ม (ส่วนตัวอยากใช้คำนี้ เพราะวง น่าจะเล็กเกินไปสำหรับพวกเขาและพวกเธอครับ) นักดนตรี ทั้งสมัครเล่น และน่าจะจริงจังหลายคน กับกลุ่ม AnimeSongCollabo ครับ กลุ่มแสดงนี้เป็นกลุ่มที่รวบรวมเอานักแสดงสมัครเล่นทาง NicoNico มาร่วมเล่นเพลงประกอบ Animation ซึ่งโดยมากจะเป็นเพลง OP/ED ของ Animation ในซีซั่นนั้นๆ และเป็นขนาดเพลง TV Size ... ทว่าสิ่งที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มๆนี้คือการคัดหาเพื่อนๆนักแสดงที่สนใจในเพลง Animation และนำมาเล่นโดยสมาชิกแต่ละคน กับเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น ก่อนจะผ่านการรวบรวม Video ของแต่ละคนนำมา Mix ทำเป็นเพลงสมบูรณ์ในระดับที่ไม่อายใคร (แม้กระทั่งบางเพลงที่ส่วนตัวฟังแล้วเหมือนกับฟังเพลงจากต้นฉบับ หรือบางเพลงที่อาจจะรู้สึกลำเอียงไปเอง แต่ก็รู้สึกส่วนตัวว่าเพลงที่พวกเขาพยายามนำเสนอเจ๋งมากๆเทียบเท่าหรือเหนือกว่าต้นฉบับได้สบายๆเลยครับ) ไม่เฉพาะฝีมือ หากแต่ Charisma ส่วนตัวของนักดนตรีแต่ละคน ล้วนเป็นแรงเสริมช่วยขับความน่าสนใจเมื่อเล่นรวมกันเป็นกลุ่มให้น่าติดตามมากขึ้น ทั้งการแสดงบน Video และคุณภาพของงานเพลงครับ แน่นอนว่าหลายๆคนในกลุ่มนี้ก็เป็นคนดังที่นักท่อง NicoNico / Youtube คงร้องอ๋อเมื่อได้เห็นหน้าของพวกเขา ร่วมแสดงอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆที่เล่นเพลงด้วยกันครับ ส่วนตัวอยากเชียร์ให้ลองเข้าไปสัมผัสกับกลุ่มนี้น่ะครับ ติดตามผลงานของพวกเขาและเธอทาง Chanel ของ Youtube ได้เลยครับ http://www.youtube.c...nimeSongCollabo =============================================================================== Video แนะนำตัวอย่าง Video เด็ดๆที่อยากให้ลองชมครับ BLACK★ROCK SHOOTER OP - BLACK★ROCK SHOOTER >>> 1 ใน Video ที่ทางกลุ่มยินดีนำเสนอ ด้วยเวลาของเพลง 1 นาที 40 วินาที กับสมาชิก 16 คนที่ตัดต่อ ผลัดกันออกมาเพื่อร่วมถ่ายทอด 1 ในเพลงจาก Animation ที่มีส่วนหนึ่งของหน้าความสำเร็จกำเนิดขึ้นจาก NicoNico ครับ Nisemonogatari ED - Naisyo no Hanashi Papa no Iukoto wo Kikinasai! OP - Happy Girl Amagami SS ED4 - Koi wa Mizuiro Ano Natsu de Matteru OP - sign Bakuman ED - BAKUROCK~Mirai no Rinkakusen~ BEN-TO OP - LIVE for LIFE~Ookami tachi no Yoru~ C3 Cube x Cursed x Curious OP - Endless Story Denpa Onna to Seishun Otoko OP - Os-Uchujin Hourou Musuko OP - Itsudatte Level E OP - Cold Finger Girl Mayo Chiki! OP - Be Starters! Persona4 the ANIMATION ED - The Way of Memories -Kizuna no Chikara- Shinryaku! Ika Musume OP - Shinryaku no Susume☆ Sora no Otoshimono f OP - Heart no Kakuritsu Soredemo Machi wa Mawatteiru OP - DOWN TOWN Soredemo Machi wa Mawatteiru ED - Maids Sanjou! STAR DRIVER Kagayaki no Takuto ED - Pride Tantei Opera Milky Holmes 2 ED - Lovely Girls Anthem Tegami Bachi - Letter Bee REVERSE ED - Wasurenagusa TIGER & BUNNY OP - Orion wo nazoru TIGER&BUNNY OP - Missing Link WORKING'!! OP - COOLISH WALK รับชม รับฟังได้ตามอัธยาศัยเลยครับ ... และร่วมเดินทางไปกับกลุ่มคนรักดนตรีนี้ได้ หากเราๆต่างก็เป็นคนที่ชอบในเพลง Animation เหมือนๆกันครับ ผู้ที่สนใจในสมาชิกในกลุ่ม หรือต้องการตามเช็คผลงานที่ผ่านๆมาของกลุ่ม สามารถเข้าไปที่ Site ของพวกเขาและพวกเธอได้เช่นกันครับ ที่ http://asc.suppa.jp/ ถึงตัวอาจจะห่างไกล แต่หัวใจและความฝันในเสียงดนตรีไม่ได้ห่างกันครับ ... อย่างน้อยๆ อยากให้รู้ว่า ในเมืองไทยก็ยังมีคนที่สนใจ คอยติดตามและเป็นกำลังใจให้กับกลุ่มพวกเขาและพวกเธอสรรสร้างผลงานเจ๋งๆออกมาเรื่อยๆต่อไปครับ

ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน แต่งานนี้ที่เสียวๆคือประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะบ้านใกล้เรือนเคียงที่อาจถูกลูกหลงได้ หากเกาหลีเหนือไม่สบอารมณ์และเปิดฉากบุกน่ะครับ ...

Creative กับ Interior งานนี้เอาคะแนนไปเต็มๆเลยครับ สวยมากๆ

ตระกูล Furukawa / Okazaki จาก Clannad เลยครับ มากันทั้งครอบครัว

เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวได้อย่างง่ายดายครับ สามารถเป็นงานอดิเรกที่ให้ประโยชน์ และช่วยลดช่องว่างระหว่างวัยของคนที่มีช่วงเวลาแตกต่างกันให้อยู่ด้วยกันได้ วิธีที่ดีที่สุดคือการสร้างกิจกรรมเพื่อเป็นจุดตั้งต้นให้คนต่างวัยมาใช้เวลาร่วมกันได้โดยไม่เบื่อหน่ายครับ

เป็นความฝันของทุกคน โดยเฉพาะคนรุ่นเก่าล่ะครับว่านาฬิกาข้อมือเป็นได้มากกว่านาฬิกาบอกเวลา จากเครื่องคิดเลข รีโมทโทรทัศน์ จนมาเป็นคอมพิวเตอร์ นับได้ว่านาฬิกาข้อมือเป็น 1 ในสิ่งประดิษฐ์ที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตลอดจริงๆครับ

รอชมว่าเมื่อถึงปี 2025 ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่ประชากรมีความรักให้กับประเทศแม่มากอันดับต้นๆจะเข้าสังกัดเป็นทหารอย่างถูกต้องแค่ไหนครับ ...

Chitauri อาจเป็นชื่อที่เราไม่คุ้นหูนัก แต่สำหรับคนที่เข้าโรงไปชมภาพยนตร์ Avengers แล้วคงจะเห็นชื่อนี้ว่าเป็นกองทัพมนุษย์ต่างดาวที่เข้ามาบุกโลกโดยจับมือกับ โลกิเพื่อแลกกับ Tesseract หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Cosmic Cube นั่นเองครับ หลังจากที่เข้าไปดูหนัง ก็เลยสงสัยว่า Character ที่ออกมาจนปัจจุบันส่วนมากจะมีการอ้างอิงจากหนังสือการ์ตูน ทว่าเปลี่ยนแปลงเรื่องราวและบทบาทให้ตรงกับเหตุการณ์ในโลกปัจจุบันมากขึ้น (ซึ่งจุดนี้ผมมองว่า หนังสือการ์ตูนก็เปรียบเสมือนหน้ากระดาษที่บันทึกความเปลี่ยนแปลงไปของสังคม สิ่งแวดล้อม และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในโลก โดยหากหยิบเอาเหตุการณ์ที่มี Impact ในปัจจุบัน ซึ่งตรงกับสมัยของเราๆนั้น จะช่วยทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมคล้อยตามได้ง่ายขึ้น เช่นการเปลี่ยนเชื้อชาติกลุ่มผู้ก่อการร้ายใน Iron Man ที่เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันในโลกมากขึ้น) ดังนั้นแล้วเจ้าตัวละครที่ชื่อ Chitauri มาจากไหน ... ? โดยสรุปคือ Chitauri เป็นตัวละครมนุษย์ต่างดาวที่เป็นเหมือนกับ Skrull (ซึ่ง Skrull เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์หนึ่งในจักรวาล Marvel โดยโผล่ออกมาในจักวาลหลัก หรือรู้จักกันในรหัส Earth-616 สำหรับคนที่อ่าน Comic นั่นเองครับ) ในจักรวาล Marvel Earth-1610 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อจักรวาล Ultimate นั่นเองครับ ในจักรวาล Ultimate กลุ่ม Chitauri มีบทบาทในฐานะมนุษย์ต่างดาวที่สามารถปลอมแปลงตนเองให้กลืนเข้ากับประชากร ไม่ว่าในดาวดวงใด และมีเป้าหมายคือการจัดการความไร้ระเบียบและเจตจำนงค์อิสระของประชากรที่ Chitauri มองว่าเป็นการจัดระเบียบให้กับความไร้ระเบียบในดาวดวงนั้นๆ ด้วยการแทรกซึมทั้งทางการทหาร และทางสังคม (อีกนัยหนึ่ง คือการกำจัดอิสรภาพของประชากร เพื่อไม่ให้เกิดความแตกต่างของประชากรแต่ละปัจเจกบุคคล ที่สร้างอัตตลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งความต่างนำมาทั้งคุณและโทษ ในมุมมองที่ต่างกัน แต่ทั้งนี้ในโลกเรา ผมเชื่อว่่าไม่ว่ายังไงอิสรภาพก็เป็นสิ่งที่มนุษย์เราต่างถวิลหาทั้งสิ้น ครับ) แน่นอนว่าในจักรวาล Ultimate พวก Chitauri ก็มีบทบาทตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในฐานะผู้สนับสนุนเทคโนโลยีแก่ Nazi ซึ่งเป็นรากฐานของ Hydra ก่อนที่จะหมดบทบาทเพราะการขัดขวางของ Captain AMerica ก่อนที่ Chitauri จะกลับมาอีกครั้งในช่วงเวลาปัจจุบันของจักรวาล Ultimate เพื่อกลับมาเขย่าโลกอีกครั้ง และแน่นอนว่าในช่วงเวลาปัจจุบัน You'll never walk alone เพราะ Chitauri ต้องเผชิญกับ The Ultimates (สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ได้อ่านการ์ตูน Marvel จักรวาล Ultimate นะครับ ทีม Avengers ในจักรวาลนี้ทีมแรกสุด จะชื่อทีม The Ultimates ครับ) และก็ปราชัยไปในที่สุดครับ และสำหรับ Earth-199999 หรือในชื่อ Marvel Cinematic Universe ซึ่งเป็นโลกที่ Marvel สร้างมารองรับอีก 1 จักรวาลเพื่อป้องกันการซ้อนทับ และให้ตัวละครมีชีวิต และความเป็นไปของตนเอง Chitauri ก็โผล่ออกมาโดยมี Concept ที่ใกล้เคียงกับเรื่องราวของจักรวาล Ultimate ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองครับ เพียงแต่ว่าแนวคิดของ Chitauri ได้ถูกโยกไปอยู่กับตัว Loki เพื่อสร้าง Character Depth ในขณะที่กองทัพกีกี้ Chitauri ยังไม่ได้ทำอะไรมากว่ามาแว้น มายิง มารุม และโดนรุมกลับ ซึ่งยังไม่ได้โชว์ความสามารถส่วนตัวว่า Chitauri จะมีพลังพิเศษอย่างที่ตัวละครต้นแบบอย่าง Chitauri ในจักรวาล Ultimate หรือ ต้นกำเนิดตัวละครแรกเริ่มอย่าง Skrull ในจักรวาลหลัก (Earth-616) ของ Marvel น่ะครับ และส่วนตัวก็มองต่อไปว่าหากในภายหลัง ได้มีการขยายเรื่องราวของ Chitauri ขึ้น ส่วนตัวผมก็มองว่าน่าสนุกไม่น้อย เพราะอาจจะเป็นเหมือนนกสับปืนที่รอขึ้นชนวนเพื่อยิงกระสุนในอนาคตได้ครับ และน่าจะเป็นเหตุการณ์สำหรับนำไปสู่เรื่องราวที่นักอ่าน Comic ให้ความสนใจระดับหนึ่งอย่าง Secret Invasion ของจักรวาล Marvel หลักต่อไปก็เป็นได้เช่นกันครับ หากว่าทาง Marvel อยากจะเอาเหตุการณ์ Tie-In เจ๋งๆมาสร้างไว้ใน Earth-199999 นี้น่ะครับ หวังว่ารายละเอียด เรื่อง Chitauri จะทำให้เพื่อนๆที่ไม่ได้อ่านเรื่องราว Comic ของ Marvel จักรวาล Ultimate ได้เข้าใจที่มาของตัวละครนี้มากขึ้นนะครับ Credit: http://marvel.wikia.com/Chitauri