Jump to content
Sign in to follow this  
Ezero

เรื่อประจันบาน WW2

Recommended Posts

เรือประจัญบานยะมะโตะ

大和 Yamato

800px-Yamato_during_Trial_Service.jpg

เรือประจัญบานยะมะโตะ (ญี่ปุ่น: 大和 Yamato ?) เป็นเรือประจัญบานขนาดยักษ์ ตั้งตามชื่อ "ยะมะโตะ" ซึ่งเป็นจังหวัดโบราณในประเทศญี่ปุ่น เป็นเรือประจัญบานชั้นยะมะโตะลำแรกของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น เรือประจัญบานยะมะโตะและเรือประจัญบานมูซาชิที่อยู่ในชั้นเดียวกัน เป็นเรือประจัญบานขนาดใหญ่ที่สุดและมีอาวุธทรงประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่ญี่ปุ่นสามารถสร้างได้ ด้วยระวางขับน้ำ 72,800 ตันและปืนใหญ่ขนาดปากลำกล้อง 460 มิลลิเมตร (18 นิ้ว) ทั้งคู่จมลงในระหว่างสงคราม

เรือรบลำนี้มีความหมายอันยิ่งใหญ่สำหรับจักรวรรดิญี่ปุ่นในฐานะสัญลักษณ์ด้านนาวิกานุภาพของชาติ (คำว่า "ยะมะโตะ" บางครั้งก็หมายถึงประเทศญี่ปุ่น) และถูกเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันจมช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปฏิบัติการฆ่าตัวตายเท็งโง ซึ่งการจมของเรือรบยะมะโตะ บางครั้งถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นด้วย

800px-Yamato1945.png

ลักษณะเฉพาะ

ชั้น: เรือประจัญบานชั้นยะมะโตะ

ขนาด (ระวางขับน้ำ):

65,027 ตัน

71,659 ตัน (เต็มที่)

ความยาว: 256 เมตร (แนวน้ำ)

263 เมตร (ตลอดลำ)

ความกว้าง:

36.9 เมตร

กินน้ำลึก:

11 เมตร

เครื่องยนต์:

150,000 แรงม้า

ใบจักร:

• หม้อน้ำแบบคัมปง (Kampon) 12 หม้อ, ขับเคลื่อนด้วยใบจักรไอน้ำ 4 ใบ

• ใบจักร 3 ใบพัด เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 ม.

ความเร็ว:

27 นอต

ระยะทางเชื้อเพลิง:

7,200 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 16 นอต

อัตราเต็มที่:

2,500–2,800 นาย

ยุทโธปกรณ์:

(1941) • 9 × 46 ซม. (18.1 นิ้ว) (3×3)

• 12 x 155 มม. (6.1 นิ้ว) (4×3)

• 12 × 127 มม. (5.0 นิ้ว)

• 24 × 25 มม. (0.98 นิ้ว) (8×3)

• 4 × 13.2 มม. (0.52 นิ้ว) AA (2×2)

ยุทโธปกรณ์:

(1945) • 9 × 46 ซม. (18.1 นิ้ว) (3×3)

• 6 × 155 มม. (6.1 นิ้ว) (2×3)

• 24 × 127 มม. (5.0 นิ้ว)

• 162 × 25 มม. (0.98 นิ้ว) AA (52×3, 6×1)

• 4 × 13.2 มม. (0.52 นิ้ว) AA (2×2)

เกราะ:

• หน้าป้อมปืนหลัก 650 มม. (26 นิ้ว)

• ด้านข้าง 410 มม. (16 นิ้ว)

• กลางดาดฟ้าเรือ 200 มม. (7.9 นิ้ว) (75%)

• ขอบดาดฟ้าเรือ 226.5 มม. (8.92 นิ้ว) (25%)

อากาศยาน:

7

อุปกรณ์สนับสนุนการบิน:

เครื่องดีด 2 เครื่อง

credit

http://th.wikipedia....%B8%95%E0%B8%B0

___________________________________________________________________________________________

เรือประจัญบานบิสมาร์ค

Bismarck

Bundesarchiv_Bild_193-04-1-26%2C_Schlachtschiff_Bismarck.jpg

บิสมาร์ค เป็นเรือประจัญบานของเยอรมนี และหนึ่งในเรือรบที่มีชื่อเสียงที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง บิสมาร์คเป็นเรือลำแรกในเรือประจัญบานชั้นบิสมาร์ค ซึ่งตั้งตามชื่อนายกรัฐมนตรีของเยอรมนีสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 ออตโต ฟอน บิสมาร์ค บิสมาร์คมีระวางขับน้ำเต็มที่ถึง 50,000 ตัน และเป็นเรือประจัญบานขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เข้าประจำการในสมัยนั้น

บิสมาร์คได้ปฏิบัติการเพียงครั้งเดียวตลอดอายุการใช้งานอันสั้นของมัน โดยจมลงในตอนเช้าของวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1941 ระหว่างปฏิบัติการไรนือบุง ซึ่งบิสมาร์คและเรือลาดตระเวนหนักอีกลำหนึ่งพยายามที่จะขัดขวางและทำลายขบวนเรือซึ่งแล่นระหว่างอเมริกาเหนือและสหราชอาณาจักร ขณะที่บิสมาร์คและเรือรบเยอรมันอีกลำหนึ่งกำลังพยายามที่จะแล่นออกไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก เรือรบทั้งสองถูกค้นพบโดยกองทัพเรืออังกฤษ และถูกดึงเข้าสู่ยุทธนาวีช่องแคบเดนมาร์ก ระหว่างการรบเวลาสั้น ๆ เรือลาดตระเวนประจัญบานฮู้ด เรือธงของกองเรือหลวงและความภาคภูมิใจของกองทัพเรืออังกฤษ ถูกจมลงหลังจากถูกยิงเพียงไม่กี่นาที นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร วินสตัน เชอร์ชิลล์ ออกคำสั่ง "จมเรือบิสมาร์ค" ซึ่งกระตุ้นให้กองทัพเรืออังกฤษติดตามเรือบิสมาร์คไปอย่างไม่ลดละ

สองวันถัดมา เมื่อบิสมาร์คเกือบจะไปถึงน่านน้ำที่ปลอดภัยแล้ว เครื่องบินปีกสองชั้นของกองทัพเรืออังกฤษได้ยิงตอร์ปิโดถล่มเรือและทำให้หางเสือเรือขัดของ ทำให้เรือรบหนักของอังกฤษสามารถตามทันบิสมาร์คได้ ในการรบที่เกิดขึ้นตามมาในช่วงเช้าของวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1941 บิสมาร์คถูกโจมตีอย่างหนักเป็นเวลานานเกือบสองชั่วโมงก่อนที่จะจมลงสู่ก้นทะเล การจมของบิสมาร์คได้รับการรายงานบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์หลายฉบับทั่วโลก

ลักษณะเฉพาะ

ชั้น:

เรือประจัญบานชั้นบิสมาร์ค

ขนาด (ระวางขับน้ำ):

41,700 ตัน (มาตรฐาน)

50,900 ตัน (เต็มที่)

ความยาว:

251 เมตร (ตลอดลำ)

241.5 เมตร (แนวน้ำ)

ความกว้าง:

36 เมตร (แนวน้ำ)

กินน้ำลึก:

9.3 เมตร (มาตรฐาน)

10.2 เมตร (เต็มที่)

ใบจักร:

12 Wagner high-pressure boilers;

3 Blohm & Voss geared turbines 150,170 แรงม้า

3 three-blade propellers, เส้นผ่าศูนย์กลาง 4.7 เมตร

ความเร็ว:

30.1 นอตขณะทำการทดสอบ (มีบทความหนึ่งอ้างถึง 31.1 นอต)

ระยะทางเชื้อเพลิง:

8,525 ไมล์ทะเลที่ 19 นอต

อัตราเต็มที่:

2,092: นายทหาร 103 นาย ลูกเรือ 1,989 นาย (1941)

ยุทโธปกรณ์:

8 × 380 mm/L52 SK C/34 (4×2)

12 × 150 mm/L55 SK-C/28 (6×2)

16 × 105 mm/L65 SK-C/37 / SK-C/33 (8×2)

16 × 37 mm/L83 SK-C/30

12 × 20 mm/L65 MG C/30

8 × 20 mm/L65 MG C/32 (8×4)

เกราะ:

กราบเรือ: 145-320 มม.

ดาดฟ้า: 110-120 มม.

ผนังเรือ: 220 มม.

ป้อมปืน: 130-360 มม.

เกราะฐานป้อม: 342 มม.

หอบังคับการ: 360 มม.

อากาศยาน: 4×Arado Ar 196 A-3, with 1 double-ended catapult

credit

http://th.wikipedia....%B9%8C%E0%B8%84

___________________________________________________________________________________________

เรือประจัญบานมูซาชิ

武蔵

Japanese_battleship_Musashi_cropped.jpg

เรือประจัญบานมูซาชิ (ญี่ปุ่น: 武蔵 ) เป็นเรือประจัญบานของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นเรือธงแห่งกองเรือผสม ได้รับการตั้งชื่อตามจังหวัดมูซาชิซึ่งเป็นชื่อจังหวัดในสมัยโบราณของญี่ปุ่น เป็นเรือลำที่สองในชั้นยามาโตะต่อจากเรือประจัญบานยามาโตะ เป็นเรือที่หนักและติดอาวุธหนักที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมา ด้วยระวางขับน้ำเต็มที่ถึง 72,800 ตันและติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 460 มม.ถึง 9 กระบอก

เรือสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1938–1941 และขึ้นระวางอย่างเป็นทางการในฤดูร้อนปี ค.ศ. 1942 มูซาชิทำหน้าที่เป็นเรือธงของพลเรือเอกอิโซรกคุ ยามาโมโต้และมินีชิ โคะงะ (Mineichi Koga) ในปี ค.ศ. 1943 ตลอดปี ค.ศ. 1943 มูซาชิจอดทอดสมออยู่ในฐานทัพเรือที่ทรูก คุเระ และบรูไน แห่งใดแห่งหนึ่งขึ้นอยู่กับการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ มูซาชิอับปางเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1944 โดยเครื่องบินจากเรือบรรทุกเครื่องบินในระหว่างยุทธนาวีอ่าวเลย์เต

ลักษณะเฉพาะ

ชั้น:

เรือประจัญบานชั้นยามาโตะ

ขนาด (ระวางขับน้ำ):

68,200 ตัน

72,800 ตัน (เต็มที่)

ความยาว:

256 เมตร (แนวน้ำ)

263 เมตร (ตลอดลำ)

ความกว้าง:

38.9 เมตร

กินน้ำลึก:

11 เมตร เมื่อบรรทุกเต็มที่

ใบจักร:

หม้อน้ำแบบคัมปง 12 หม้อ

ขับกังหันไอน้ำ 4 กังหัน

150,000 แรงม้า (110 MW)

ใบจักร 4 พวงแบบ 3 ใบพัดยาว 6 เมตร

ความเร็ว:

27.46 นอต (50.86 กม./ชม.)

ระยะทางเชื้อเพลิง:

7,200 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 16 นอต

(13,000 กม.ที่ความเร็ว 30 กม./ชม.)

อัตราเต็มที่:

2,399 นาย

อาวุธ :

สิงหาคม

ค.ศ. 1942 9 × 460 มม. (18.1 นิ้ว) (3×3)

12 × 155 มม. (6.1 นิ้ว) (4×3)

12 × 127 มม. (5 นิ้ว) (6×2)

24 × 25 มม. (0.98 นิ้ว) AA Type 96 (8×3)

4 × 13 มม. (2×2)

อาวุธ :

ตุลาคม

ค.ศ. 1944 9 × 460 มม. (18.1 นิ้ว) (3×3)

6 × 155 มม. (6.1 นิ้ว) (2×3)

12 × 127 มม. (5 นิ้ว) (6×2)

130 × 25 มม. (0.98 นิ้ว) AA Type 96 (32×3, 34×1)

4 × 13 มม. (2×2)

เกราะ:

หน้าป้อมปืน 650 มม.

ข้างลำเรือ 410 มม. (16.1 นิ้ว)

กลางดาดฟ้า 200 มม. (8 นิ้ว)

ขอบดาดฟ้า 226.5 มม. (9.06 นิ้ว)

อากาศยาน:

เครื่องบินทุ่นลอยน้ำ 7 ลำ

อุปกรณ์สนับสนุนการบิน:

เครื่องดีด 2 เครื่อง

credit

http://th.wikipedia....%B8%8A%E0%B8%B4

___________________________________________________________________________________________

ยูเอสเอส มิสซูรี (BB-63)

800px-Missouri_post_refit.JPG

ยูเอสเอส มิสซูรี (BB-63) ("ไมท์ตีโม" หรือ "บิกโม") เป็นเรือประจัญบานชั้นไอโอวาของกองทัพเรือสหรัฐ และเป็นเรือลำที่สี่ของกองทัพเรือสหรัฐที่ใช้ชื่อรัฐตามรัฐมิสซูรี มิสซูรี เป็นเรือประจัญบานลำสุดท้ายที่สร้างขึ้นโดยสหรัฐและเป็นที่เซ็นสัญญายอมจำนนของจักรวรรดิญี่ปุ่นในตอนจบของสงครามโลกครั้งที่สอง

มิสซูรี สั่งต่อเรือในปี ค.ศ. 1940 และขึ้นระวางประจำการในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1944 ในสมรภูมิมหาสมุทรแปซิฟิกของสงครามโลกครั้งที่สอง เรือได้เข้าร่วมการรบที่อิโวะจิมะและโอะกินะวะ และล้อมแผ่นดินแม่ญี่ปุ่น และเรือยังเข้าร่วมในสงครามเกาหลีในระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึง 1953 เรือปลดประจำการในปี ค.ศ. 1955 กลายเป็นกองเรือสำรองของกองทัพเรืออเมริกา แต่ได้รับการนำกลับเข้าประจำการและปรับปรุงใหม่ในปี ค.ศ. 1984 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกองเรือ 600 และให้การยิงสนับสนุนในระหว่างปฏิบัติการพายุทะเลทรายในเดือนมกราคม / กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991

มิสซูรี ได้รับ 11 ดาวยุทธการจากการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามเกาหลี และ สงครามอ่าวเปอร์เซีย สุดท้ายเรือได้รับการปลดประจำการเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1992 แต่ยังคงชื่อไว้กองทัพเรือจนกระทั่งชื่อถูกจำหน่ายออกในเดือนมกราคม ค.ศ. 1995 ในปี ค.ศ. 1998 เรือถูกบริจาคให้กับสมาคมอนุสรณ์ ยูเอสเอส มิสซูรี และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เรือที่ท่าเรือเพิร์ลในรัฐฮาวาย

ลักษณะเฉพาะ 1943

ชั้น: เรือประจัญบานชั้นไอโอวา

ขนาด (ระวางขับน้ำ): 45,000 ตัน

ความยาว: 270.4 เมตร

ความกว้าง: 33 เมตร

กินน้ำลึก: 8.8 เมตร

ความเร็ว: 33 นอต

อัตราเต็มที่: 2,700 นาย

ยุทโธปกรณ์: 9 × ปืน 16 นิ้ว (410 มม.)/50 cal Mark 7

20 × ปืน 5 นิ้ว (130 มม.)/38 cal Mark 12

80 × ปืน AA 40 มม./56 cal

49 × ปืนใหญ่ AA 20 มม./70 cal

เกราะ: ด้านข้าง: 12.1 นิ้ว (310 มม.)

ผนังเรือ: 11.3 นิ้ว (290 มม.)

เกราะฐานป้อม: 11.6-17.3 นิ้ว (290-440 มม.)

ป้อมปืน: 19.7 นิ้ว (500 มม.)

ดาดฟ้า: 7.5 นิ้ว (190 มม.)

ลักษณะเฉพาะ 1984

อัตราเต็มที่: 1,851 นาย

ระบบตรวจการและปฏิบัติการ:

เรดาห์อากาศ AN/SPS-49

เรดาห์พื้นน้ำ AN/SPS-67

เรดาห์ควบคุมการยิงพื้นน้ำ AN/SPQ-9

สงครามอิเล็กทรอนิกส์และเป้าลวง:

AN/SLQ-32

ระบบลวง AN/SLQ-25 Nixie

8 × จรวดแตกออกเร็ว Mark 36 SRBOC

ยุทโธปกรณ์:

9 × ปืน 16 นิ้ว (410 มม.)/50 cal Mark 7

12 × ปืน 5 นิ้ว (130 มม.)/38 cal Mark 12

32 × บีจีเอ็ม-109 โทมาฮอว์ก

16 × เอจีเอ็ม-84 ฮาร์พูน ต่อต้านเรือรบ

4 × 20 มม./76 cal Phalanx CIWS

credit

http://th.wikipedia....0%B8%B5_(BB-63)

___________________________________________________________________________________________

เอชเอ็มเอส ปรินส์ออฟเวลส์

Prince_of_Wales-1.jpg

เอชเอ็มเอส ปรินส์ออฟเวลส์ เป็นเรือประจัญบานชั้นพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งกองทัพเรือหลวง เคยร่วมรบในการรบครั้งสำคัญในสงครามโลกครั้งที่สอง รวมไปถึงยุทธนาวีช่องแคบเดนมาร์กต่อเรือประจัญบานบิสมาร์ค ปฏิบัติการคุ้มกันขบวนเรือในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จนกระทั่งปฏิบัติการครั้งสุดท้ายและถูกจมในมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อปี ค.ศ. 1941

ลักษณะเฉพาะ

ระวางขับนํ้า:

มาตรฐาน: 36,727 ตัน

เต็มที่: 43,786 ตัน

ความยาวทั้งหมด

227.1 ม.

225.6 ม.(ความยาวตามระดับแนวนํ้า)

ความกว้าง

34.3ม

กินนํ้าลึก

10.8 ม.

เครื่องจักร

8 Admiralty 3-drum small-tube boilers

4 sets Parsons geared turbines 125,000 แรงม้า

ความเร็วสูงสุด

28น๊อตส์ (ปี 1941 ขณะทำการทดสอบ)

ระยะทำการ

3,100 ไมล์ทะเล (27 น็อต)

ลูกเรือ

1,521 นาย

อาวุธประจำเรือ

ปืนใหญ่ BL 14-inch (360 mm) Mark VII 10 กระบอก

ปืนใหญ่ QF 5.25-inch (133 mm) Mk. I 16 กระบอก ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน QF 2 pdr 1.575-inch (40.0 mm) Mk.VIII 32 กระบอก ท่อยิงจรวดต่อสู้อากาศยาน 80 ท่อ

credit

http://th.wikipedia....A%E0%B9%8C_(53)

___________________________________________________________________________________________

เอชเอ็มเอส ฮู้ด

800px-HMS_Hood_March_17_1924.jpg

เอชเอ็มเอส ฮู้ด (51) คือเรือลาดตระเวณประจัญบานที่สร้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งการก่อสร้างในเวลานั้นถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก ชาวอังกฤษมีความภูมิใจในเรือลำนี้มากจนเรือลำนี้ถูกเรียกว่า " Mighty Hood" (เรือรบที่ทรงอำนาจ) ชื่อเรือนั้นถูกตั้งตาม Samuel Hood ซึ่งเป็นชื่อของนายพลเรือ

เรือลำนี้ใช้รบในศึกสำคัญหลายครั้ง จนครั้งสำคัญที่สุดคือ สมัยสงครามโลกครั้งที่2ที่อังกฤษกับเยอรมันเข้าปะทะกันในยุทธนาวีช่องแคบเดนมาร์กในเดือน พฤษภาคม 1941 เรือ ฮู้ด(เรือธงกองเรือหลวงอังกฤษ)พร้อมกับเรือเอชเอ็มเอส ปรินส์ออฟเวลส์ (53)และเรืออื่นๆอีก 6 ลำ ลาดตะเวนบริเวณ แอตแลนติกเหนือได้พบเยอรมันบริเวณนั้นพอดี เรือ บิสมาร์คและ ครุยเซอร์ ได้ลั่นกระสุน โจมตีกองเรือหลวง รวมถึง เรือฮู้ดด้วย จน ไม่สามารถสู้ต่อได้จึงทำให้เรือ จมลงที่นั่น และไม่กี่นาทีต่อมา อังกฤษก็แพ้ในสงครามครั้งนี้

ลักษณะเฉพาะ

ระวางขับนํ้า มาตรฐาน:41,125ตัน(ปี 1939:42,750ตัน)

เต็มที่:46,880 ตัน(1939:48,650ตัน)

ความยาวทั้งหมด 262.3 เมตร

ความยาวตามระดับแนวนํ้า 259.2 เมตร

ความกว้าง 28.9เมตร(1939 :32.0 เมตร)

กินนํ้าลึก 10.2 เมตร(เมื่อบรรทุกเต็มที่)

เครื่องจักร 4 shafts, Brown-Curtis geared steam turbines 24 Yarrow water-tube boilers

กำลังสูงสุด 144,000 แรงม้า(ระยะแรกที่ทำการทดสอบ:151,280 แรงม้า)

ความเร็วสูงสุด 29.5น๊อตส์

(ระยะแรกที่ทำการทดสอบ:32.07น๊อตส์)

(1941 :28น๊อตส์)

ระยะทำการ 14น๊อตส์/8,900ไมล์ทะเล

การบรรทุกเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่นแบบเข้มข้น:1,200 ตัน(สำรอง)4,000 ตัน(เต็มที่)

ลูกเรือ 1,341 นาย(ปี 1940:1,421นาย)

อาวุธประจำเรือ (ปีที่พึ่งสร้างเสร็จ):

ปืนใหญ่ BL 15-นิ้ว (Mk I guns) 8กระบอก

ปืนใหญ่ BL 5.5-นิ้ว (Mk I guns)12กระบอก

ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน QF 4-นิ้ว (Mark V anti-aircraft guns)4กระบอก

ท่อปล่อยตอร์ปิโดขนาด 21-นิ้ว (533 mm) 6ท่อยิง

ในปี 1941 :

ปืนใหญ่ BL 15-นิ้ว (381 mm) (Mk I guns) 8กระบอก

ปืนใหญ่ 4-นิ้ว (Mk XVI AA guns) 14กระบอก

ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานขนาด 40มม (QF 2-pdr "pom pom" AA guns) 24กระบอก

ปืนกลขนาด 0.5-นิ้ว (12.7มม) (Vickers machine guns) 20กระบอก

ท่อยิงจรวดต่อสู้อากาศยาน 100 ท่อยิง

ท่อปล่อยตอร์ปิโดขนาด 21-นิ้ว (533 mm) 4ท่อยิง

เกราะ

ด้านข้างตัวเรือ:

305 มม(ตามระดับแนวนํ้า)178 มม(ส่วนที่1ทางดาดฟ้าเรือข้างตัวเรือ)、25~38(หัวเรือ)、75 มม(ส่วนใต้ระดับแนวนํ้า)

ดาดฟ้า:

51 มม(ดาดฟ้าเรือส่วนใหญ่)、51 มม(ส่วนใต้ระดับแนวนํ้าลงไป)

ป้อมปืนหลัก:

381 มม(ทางด้านหน้า)、279~305 มม(ด้านข้าง)、178~279 มม(ด้านหลัง)、127 มม(หลังคาป้อม)

ปืนใหญ่ในส่วนของบาเบต:

305 มม(ส่วนบนของดาดฟ้า)、105 มม(ส่วนล่างของดาดฟ้า)

สะพานเรือ:

228~279 มม(ด้านข้าง)

credit

http://th.wikipedia....%B9%89%E0%B8%94

___________________________________________________________________________________________

แถม

ปฏิบัติการสะท้านโลก

credit

Share this post


Link to post
Share on other sites

มีจอดอยู่หลังบ้านทุกลำเบย :idz_emo06:

แสดงว่าบ้านเจ้าอยู่ใต้ทะเลสินะ เพราะเรื่อทุกลำลงไปอยู่ก้นทะเลหมดแล้ว ยกเว้นมิสซูรี

Share this post


Link to post
Share on other sites
มีจอดอยู่หลังบ้านทุกลำเบย :idz_emo06:
แสดงว่าบ้านเจ้าอยู่ใต้ทะเลสินะ เพราะเรื่อทุกลำลงไปอยู่ก้นทะเลหมดแล้ว ยกเว้นมิสซูรี

ใช้คงอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติดสินะ มันอยู่ใต้ทะเลไปแล้ว

Share this post


Link to post
Share on other sites
มีจอดอยู่หลังบ้านทุกลำเบย :idz_emo06:
แสดงว่าบ้านเจ้าอยู่ใต้ทะเลสินะ เพราะเรื่อทุกลำลงไปอยู่ก้นทะเลหมดแล้ว ยกเว้นมิสซูรี

ใช้คงอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติดสินะ มันอยู่ใต้ทะเลไปแล้ว

แอตแลนติดมันคือหลังบ้านข้องผมเองไงหละ

Share this post


Link to post
Share on other sites

มีจอดอยู่หลังบ้านทุกลำเบย :idz_emo06:

ไก่ลอกเค้าอ่า าา

:idz_emo01: :idz_emo01:

Share this post


Link to post
Share on other sites

ตรงแถมนี่แหละดูแล้ว(เมื่อก่อนดูรายการนี้) เลยรู้จักบิสมาร์ค

Share this post


Link to post
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
Sign in to follow this  

×
×
  • Create New...