10 จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสุดคุ้ม ประจำปี 2012 (ตอนที่ 1)

[Jkwon]

“โลนลี่ แพลนเน็ต” เผยรายชื่อ 10 จุดหมายปลายทางที่เดินทางไปเที่ยวแล้วคุ้มสุดๆ ประจำปี 2012

1. ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา

แม้ว่าหลายเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาอย่าง นิวยอร์ก บอสตัน และวอชิงตัน ดีซี จะไม่ใช่เมืองที่มีค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวถูกที่สุดในโลก แต่นักท่องเที่ยวสามารถตะลอนทัวร์ตามสถานที่ต่างๆ หรือเดินทางต่อไปยังเมืองฟิลาเดลเฟีย (มลรัฐเพนซิลเวเนีย), โตรอนโต (แคนาดา), พิตต์สเบิร์ก (รัฐเพนซิลเวเนีย) และเมืองชาร์ลอตต์ (มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา) ฯลฯ โดยไม่ต้องกลัวว่ากระเป๋าจะแฟบ เพราะที่นั่นมีรถโดยสารประจำทางต้นทุนต่ำไว้คอยให้บริการ โดยคิดค่าโดยสารต่อเที่ยวเพียง $5 หรือประมาณ 154 บาทเท่านั้น(บางเส้นทางคิดค่าบริการแค่ $1 หรือเกือบ 31 บาท)

แม้จะไม่รวดเร็วและคล่องตัวเหมือนการเดินทางด้วยเครื่องบินหรือรถเช่า แต่การเดินทางโดยรถโดยสารต้นทุนต่ำก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า และได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ทั้งยังสามารถใช้ wi-fi ได้ฟรี ที่สำคัญรถออกตรงเวลาเป๊ะ และถ้าใครจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ กับผู้ให้บริการรถโดยสารต้นทุนต่ำอย่าง เมก้าบัส และโบลท์บัส ก็จะได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมอีกด้วย

2. ญี่ปุ่น

เมื่อปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ทั้งแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวอยู่ในภาวะชะงักงันตลอดทั้งปี การเดินทางไปเยือนและให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นในปีนี้จึงเป็นเรื่องดีที่สมควรทำ ทั้งยังคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไปอีกด้วย เพราะถ้าเปรียบเทียบกับการเดินทางไปเยือนที่อื่น อย่างเช่น ลอนดอน ปารีส หรือ กรุงนิวยอร์ก ก็นับว่าราคาค่าที่พักและใช้จ่ายในการเดินทางไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในญี่ปุ่นยังถูกกว่ามาก

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักในเกสต์เฮ้าส์สไตล์ญี่ปุ่น (มินชูกุ) ที่กรุงโตเกียว ในราคาเริ่มต้นที่ 3 พันเยน (กว่า 1 พันบาท) มิหนำซ้ำ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งยังเปิดให้เข้าชมฟรี หรือเสียค่าเข้าชมเพียงเล็กน้อย ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอย่างสกีรีสอร์ทในจังหวัดนากาโน่ และบัตรผ่านประตูดิสนีย์แลนด์ในกรุงโตเกียวยังนับว่าถูกกว่าค่าขึ้นกระเช้าชมเทือกเขาแอลป์ด้วยซ้ำ

3. ทาจิกิสถาน

ทาจิกิสถานเป็นประเทศในแถบเอเชียกลางที่มีลักษณะภูมิประเทศงดงาม แต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวกลับถูกอย่างเหลือเชื่อ ถึงแม้จะรวมค่าเช่ารถพร้อมคนขับเข้าไปด้วยแล้วก็ตาม โดยนักเดินทางสามารถเช่ารถยนต์ “ลาด้า” ที่ผลิตขึ้นในรัสเซีย ไว้ใช้เดินทางท่องเที่ยวหลายๆ วันในราคาเพียง $300 หรือประมาณ 9 พันบาท

ปาเมียร์ไฮเวย์

หลังจากเช่ารถพร้อมคนขับแล้ว นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการเดินทางท่องเที่ยวบนเส้นทาง “ปาเมียร์ไฮเวย์” ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดเส้นทางท่องเที่ยวทางรถยนต์ (เป็นถนนไฮเวย์ระหว่างประเทศที่มี

มุมอัลติจูดสูงเป็นอันดับสองของโลก) ระหว่างเดินทางบนเส้นทางดังกล่าว นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะชมบ่อน้ำพุร้อน, สถาปัตยกรรมหินโบราณอายุ 2 พันปี และป้อมโบราณต่างๆ หลังเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมาตลอดทั้งวัน นักท่องเที่ยวสามารถแวะพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่คิดค่าเข้าพักเพียง $10 (ประมาณ 300 บาท) ต่อคน แต่ถ้าเข้าพักในที่พักแรมสไตล์พื้นเมือง หรือ “ยูร์ท” จะเสียค่าใช้จ่ายเพียง $5 หรือประมาณ 150 บาทต่อคนเทานั้น

ที่พักแรมแบบ “ยูร์ท” ในทาจิกิสถาน

4. ปอร์ตู ประเทศโปรตุเกส

“ปอร์ตู” เป็นเมืองหลวงของเขตปอร์ตู ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโปรตุเกส (รองจาก “ลิสบอน” ซึ่งเป็นเมืองหลวง) ทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานจนถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539)

นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนเมืองนี้ สามารถเข้าพักในโรงแรมเล็กๆ ที่ภายในตกแต่งด้วยของโบราณและให้มุมมองที่สวยงามของแม่น้ำโดรู ในราคาเพียง 25 ยูโร (ราว 1 พันบาท) ส่วนการเดินทางด้วยรถรางโบราณ (ระบบรางสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1895 หรือ พ.ศ. 2438) ก็มีค่าใช้จ่ายเพียง 1 ยูโร (ราว 41 บาท) เท่ากับค่าใช้จ่ายในการล่องเรือข้ามฟากเพื่อไปเที่ยวชายหาดใกล้หมู่บ้านอาฟูราดา

และถ้ามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกก็จะได้พบกับแหล่งผลิตพอร์ตไวน์อันเลื่องชื่อในแถบอัลตู โดรู ที่ผลิตไวน์สืบต่อกันมานานนับ 2 พันปีแล้ว ที่นั่น นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือท้องแบนกินลมชมวิวโดยเสียค่าบริการ 20 ยูโร (ราว 820 บาท) หรืออาจเข้าพักในบ้านโบราณอายุ 200 ปี ที่มีอัตราค่าเข้าพักเพียง 60 ยูโร (ราว 2,500 บาท)

5. เลโซโท

เลโซโท เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ถูกสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ล้อมกรอบเอาไว้ทุกด้าน แต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวที่นี่ถูกกว่าที่แอฟริกาใต้มาก และจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวที่โดนใจนักเดินทางสุดๆ ก็คือ การขี่ม้าชมวิวทิวทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขี่ม้าท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันตกของประเทศหรือในแถบมาเลียเลีย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงของเลโซโท (มาเซรู) ราว 60 ก.ม.

กิจกรรมการขี่ม้าท่องเที่ยวที่มาเลียเลียนั้น จะมีทั้งแบบขี่กินลมชมวิวเล่น และแบบขี่ม้าทางไกลซึ่งกินเวลานานหลายวัน ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาขนาดมหึมา และสภาพภูมิประเทศหลากสีสัน ที่สำคัญ การขี่ม้าท่องเที่ยวในแถบนี้มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ากว่าการขี่ม้าทางฝั่งตะวันออก สำหรับค่าใช้จ่ายในการขี่ม้าท่องเที่ยวแบบค้างคืน (รวมค่า ไกด์, ม้าแบกสัมภาระ และอาหาร) เริ่มต้นที่ประมาณ 1,500 บาท/คน/วัน แต่ถ้าอยากพักค้างคืนในกระท่อมก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 300 บาท/คน

หมายเหตุ: โลนลี่ แพลนเน็ตแนะนำให้เข้าพักที่ “มาเลียเลีย ลอดจ์” เพราะที่นั่นมีกิจกรรมขี่ม้าท่องเที่ยวไว้คอยบริการพร้อมอาหารอย่างดี

การร้องเพลงประสานเสียงและแสดงดนตรี (ด้วยเครื่องดนตรีที่ทำขึ้นเอง) ของวัยรุ่นมาเลียเลียที่ “มาเลียเลีย ลอดจ์”

** โปรดติดตามตอนต่อไป **

---------------------------------------------------------------------------------------------

Credit : Paow007

[GoodMiracle]

ปะไปญี่ปุ่นกัน

[GTOFF]

ปะไปญี่ปุ่นกัน

รู้นะจะไปพักโรงแรมสตาย ญี่ปุ่น (สมัยใหม่)ละสิท่า

[Dewwy]

ปะไปญี่ปุ่นกัน

รู้นะจะไปพักโรงแรมสตาย ญี่ปุ่น (สมัยใหม่)ละสิท่า

หึหึ ไปญี่ปุ่นๆ :emo (76):

[GTTK]

ปะไปญี่ปุ่นกัน

รู้นะจะไปพักโรงแรมสตาย ญี่ปุ่น (สมัยใหม่)ละสิท่า

หึหึ ไปญี่ปุ่นๆ :emo (76):

ไม่ชวนกันบ้างเลย ป่ะๆ ไปญี่ปุ่น

[Kocokung]

ไปญี่ปุ่นแน่นอนที่สุด ที่อื่นเห็นแล้วบางที่...อย่าเลย

[SoSleep]

อยากไปยี่ปุ่นๆๆๆๆๆๆ

[herosuperhot]

อิอิอิ น่า สน

[AntiVirus]

น่าสนใจมากคับ