10 อันดับประเทศน่าเที่ยว ประจำปี 2012 (ตอนที่ 2)

[Jkwon]

นิตยสารโลนลี่ แพลนเน็ต เผย “10 อันดับประเทศน่าเที่ยวที่สุด ประจำปี 2012″ หลังรวบรวมความคิดเห็นจากบรรดาผู้อ่าน นักเดินทาง บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว ฯลฯ แล้วจึงนำมากลั่นกรองและคัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวและเดินทาง โดยพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ความน่าตื่นตาตื่นใจ ความคุ้มค่าในการเดินทาง และคุณลักษณะอันโดดเด่น เป็นต้น

(ต่อ)

อันดับที่ 6 ราชอาณาจักรภูฏาน

วัดป่าทักชัง หรือ “รังเสือ” อันเป็นที่เคารพสักการะยิ่งของชาวพุทธในภูฏาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 900 เมตรชายเขตเมืองพาโร

ภูฏาน เป็นประเทศที่มีเทือกเขาเป็นจำนวนมาก แต่การเดินทางไปเยือนประเทศนี้ต้องวางแผนล่วงหน้า และต้องไปกันเป็นกรุ๊ปทัวร์ เพราะภูฏานไม่รับนักท่องเที่ยวอิสระ (ยกเว้นแขกของรัฐบาล) และนักท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็ค ดังนั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงถูกกำหนดให้เดินทางไปเยือนเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหรือพื้นที่ไฮไลต์เท่านั้น

ที่ผ่านมา ประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับเหมือนๆ กันในการเดินทางไปเยือนภูฏาน ก็คือ ความน่าหวาดเสียวขณะเครื่องบินกำลังแลนดิ้งลงสนามบินทิมพู ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “สนามบินน่ากลัวที่สุดในโลก”, การเดินทางไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมทิศตะวันตกของภูฏาน และการไต่เขา เป็นต้น แต่ล่าสุด ภูฏานได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติรอยัล มานาส ซึ่งเป็นอุทยานเก่าแก่ที่สุดในภูฎานอีกครั้ง และที่นั่นก็เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ (เสือเบงกอล ค่างสีทอง หมูป่าแคระ กระทิง โลมาแม่น้ำ ฯลฯ) ตลอดจนพรรณไม้นานาชนิดอีกด้วย

ภาพประกอบ:

kukkaibkk /วิกิมีเดีย

อันดับที่ 7 สาธารณรัฐคิวบา

หลังตกอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการของพี่น้องคาสโตรเป็นเวลานานกว่า 50 ปี คิวบาก็แทบไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเมื่อปี ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502) แม้ว่าระยะหลังๆ จะเริ่มมีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ โดยผ่อนคลายความเข้มงวดในธุรกิจบางประเภท อาทิ การท่องเที่ยวและโรงแรม เพื่อดึงดูดเงินตราจากต่างประเทศ (ก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวจะถูกจำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ในสถานที่ๆ ทางการจัดไว้ให้ และการติดต่อพูดคุยกันโดยตรงระหว่างนักท่องเที่ยวต่างชาติกับประชาชนชาวคิวบาก็ถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย แต่หลังจากคิวบาทำรายได้จากการท่องเที่ยวแซงหน้าอุตสาหกรรมน้ำตาล รัฐบาลก็หันมาให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวมากขึ้น และยกเลิกกฏหมายดังกล่าวในเวลาต่อมา)

คิวบาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงด้านเมดิคัลทัวร์ แถมในกรุงฮาวานาซึ่งเป็นเมืองหลวง ยังเป็นที่ตั้งของเมืองเก่าแก่ที่ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ด้วยความที่ประเทศถูกโดดเดี่ยวมานานจึงช่วยรักษาสถาปัตยกรรมเก่าแก่และโบราณสถานให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ตราบจนปัจจุบัน ที่สำคัญชายหาดหลายแห่งยังคงบริสุทธิ์สวยงาม ส่วนย่านเมืองใหม่ก็ได้รับการพัฒนาให้มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ไนท์คลับ แกลเลอรี่ ตลอดจนร้านเครื่องดื่มที่มีกาแฟและเหล้ารัมเสิร์ฟตลอดทั้งวัน

ภาพประกอบ:

tadzyla / Henk & Anna

อันดับที่ 8 นิวแคลิโดเนีย (หรือ นูแวล-กาเลดอนี)

นูเมอา เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของนิวแคลิโดเนีย

นิวแคลิโดเนีย เป็นอาณานิคมพิเศษของประเทศฝรั่งเศสที่มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างเล็ก (ครึ่งหนึ่งของเกาะไต้หวัน) แต่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และมีภูมิประเทศที่สวยงาม โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก (ห่างจากทิศตะวันออกของประเทศออสเตรเลียราว 1,500 ก.ม.)

ด้วยความที่เป็นอาณานิคมพิเศษของประเทศฝรั่งเศส นิวแคลิโดเนียจึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของแดนน้ำหอม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองหลวงที่มีชื่อว่า “นูเมอา” ซึ่งดูเผินๆ คล้ายเฟรนช์ ริเวียร่า มิหนำซ้ำยังใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการอีกด้วย แต่ถ้าต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชนเผ่าดั้งเดิมขนานแท้ก็ต้องมุ่งหน้าไปเยือนหมู่เกาะรอยัลตี้ ไอส์แลนด์ส ซึ่งนอกจากจะเป็นถิ่นอาศัยของชนเผ่าคานัคแล้ว ยังประกอบไปด้วยเกาะใหญ่น้อยที่แสนเงียบสงบ อุดมสมบูรณ์ และยังมีภูมิประเทศที่สวยตะลึงอีกด้วย

ภาพประกอบ:

john white photos / Woman in the Dunes

อันดับที่ 9 ไต้หวัน

กรุงไทเป

ไต้หวันโดดเด่นตรงที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามแปลกตา โดยมีลักษณะเป็นกลุ่มเกาะที่ประกอบด้วยภูเขาขนาดมหึมามากมาย และมีชายฝั่งทะเลที่สวยงาม ทั้งยังมีอุทยานแห่งชาติอันโด่งดังหลายแห่ง นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ไต้หวันยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาและเยี่ยมชม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ”พิพิธภัณฑ์กู้กง” ที่รวบรวมของล้ำค่าหายากภายในพระราชวังกู้กงซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปีเอาไว้ ตลอดจน “อนุสาวรีย์วีรชนจงเลี่ยฉือ” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรชนนับตั้งแต่สมัยปฏิวัติล้มระบอบแมนจูไปจนถึงยุคปราบคอมมิวนิสต์

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ไต้หวันยังมีความโดดเด่นในเรื่องอาหารสไตล์ฟิวชั่น และสโลว์ฟู้ด (อาหารที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการปรุง) แต่เทรนด์ที่กำลังมาแรงก็คือการขี่จักรยานท่องเที่ยวรอบเกาะไต้หวัน (สามารนำรถจักรยานขึ้นรถไฟได้) เพราะที่นั่นมีถนนหนทางที่เอื้อต่อการเดินทางและท่องเที่ยวด้วยรถจักรยาน แถมในแต่ละปีไต้หวันยังมีการจัดกิจกรรมใหญ่ๆ เกี่ยวกับรถจักรยานหลายงานด้วยกัน อาทิ งาน “ไทเป อินเตอร์เนชั่นแนล ไซเคิล โชว์” ที่กำลังเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมในขณะนี้ และการแข่งรถจักยานประจำปี “Tour de Taiwan 2012″ ซึ่งกำลังจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เป็นต้น

ภาพประกอบ:

*dans /iguide

อันดับที่ 10 สวิตเซอร์แลนด์

สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีทัศนียภาพงดงาม ฐานะทางเศรษฐกิจมั่งคั่ง การเมืองมีเสถียรภาพ ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศปลอดภัยที่สุดในโลก และมีความโดดเด่นทางด้านการเงิน การบริการ และภาคการผลิต (ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง/แรงงานมีทักษะยอดเยี่ยม) จนอาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบในเกือบทุกด้าน

และในปีนี้การเดินทางไปเยือนเทือกเขาแอลป์ในสวิตเซอร์แลนด์ก็มีความสะดวกสบายและง่ายดายมากขึ้น หลังมีการเปิดตัวรถไฟทีจีวีใหม่ เพิ่มขึ้นอีก 19 ขบวนบนเส้นทางระหว่างกรุงปารีส-สวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ในอีก 4 ปีข้างหน้า อุโมงค์รถไฟ “กอทธาร์ด เบส ทันเนิล” ที่ลอดผ่านเทือกเขาแอลป์ในสวิตเซอร์แลนด์ก็จะมีกำหนดแล้วเสร็จ และเมื่อเปิดใช้บริการก็จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางไปเยือนสวิสแอลป์ลงถึง 5o นาทีเลยทีเดียว

ภาพประกอบ:

jasmine8559

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Link ที่เกี่ยวข้อง :

http://www.idoli-z.net/forum/index.php?/topic/4405-

Credit : Paow007

Edited March 16, 2012 by Jkwon

[Dewwy]

น่าไปทุกที่จริงๆ ๆ

สวยๆทั้งนั้น

[azzkungII]

อยากไปทุกอันเลยอ่ะ

Edited March 16, 2012 by azzkungII

[SoSleep]

อยากไปอ่าาาา

Edited March 16, 2012 by SoSleep

[go 2]

อยากไปคิวบานะ สวยมากๆ

หึๆๆ

[GTTK]

ตอนที่2มาและ น่าไปทุกที่แต่อยากไปสวิตเซอร์แลนด์

[GoodMiracle]

ถ้าเป็นไปได้อยากไปภูฏาน

[Fate Averruncus]

สวิตเซอร์แลนด์ สวยเวอร์