polajung Report post Posted May 17, 2011 เราต้องทำการบ้านกันแทบทุกวันตั้งแต่เริ่มเข้าอนุบาล รึก่อนหน้านั้น แต่รู้กันรึไม่ว่า การบ้านคืออะไร มีที่มาจากไหน วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก "การบ้าน" กัน เมื่อคืนคุณทำการบ้านแล้วหรือยัง — หมัก เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากการบ้าน โถ น่าสงสารผมน่ะ ทำการบ้านมาดีแต่ไม่มีโอกาส — อภิเสียบ อ่านไร้สาระนุกรมทำไม! ให้เลือก...ว่าจะทำการบ้าน หรือว่าจะตาย!! — ครู การบ้าน(ปะกิด: homework, assignment เทย: การตายที่บ้าน) คือเศษกระดาษที่คุณครูให้นักเรียนมา ในเวลาว่างจัดที่บ้าน เลยให้งานนักเรียนมาทำ เพื่อให้ดูเหมือนว่าตัวเองตามไปสอนนักเรียนที่บ้าน ต้นกำเนิด การบ้านในภาษาอังเกรียน (Homework)นั้น มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรี๊ดโบราณคำว่า hoemwerk ที่มีความหมายว่า "ความตายจากการทรมาน" และถูกพัฒนาขึ้นมาอีกจนกลายเป็นเครื่องมือในการทรมานของพวกฝรั่งมังค่าในยุคกลาง อย่างไรก็ตาม คนเทยนั้นแปลจากภาษาปะกิตมาตรงตัวว่า "งานที่บ้าน" และเพี้ยนมาเป็นการบ้าน จนทุกวันนี้ ลักษณะเบื้องต้น ลักษณะของการบ้านคือ ต้องมีน้ำมากกว่าเนื้อ เพราะคนทำการบ้านจะต้องยุ่งวุ่นวายกับการอธิบายต่างๆนานา อย่างไรก็ตาม การบ้านสามารถจะมาจากการเดามั่วๆ ในหลายๆส่วนแล้วเขียนประกอบเข้าด้วยกันเพื่อให้มีจำนวนเยอะๆ ทรมานสายตาคนอ่านได้ การบ้านจะถูกจ่ายให้นักเรียนทุกๆวัน เพื่อเติมข้อมูลผิดๆใส่สมองนักเรียน มีไว้เพื่อเบียดเบียนเวลาว่างของนักเรียน ไม่ให้มีเวลาว่างทำอย่างอื่น ไม่เปิดโอกาสได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือได้เรียนรู้สิ่งอื่นที่มีคุณค่าจริงจริง เช่นการเล่นไร้สาระนุกรม เพื่อที่จะได้เติบใหญ่มาเป็นคนไร้จินตนาการ ทำงานตามคำสั่งของท่านผู้นั้น บางครั้ง การบ้านมีไว้เพื่อการลงโทษนักเรียนที่มีทีท่าว่าจะแข็งขืน ไม่ให้เวลาคิด และเพื่อให้มั่นใจว่าจะโตขึ้นมาเพื่อทำงานเงินเดือนต่ำๆ ประเภทของการทรมานด้วยการบ้าน ผู้ที่ไม่ชอบทำการบ้านบางคน จะพยายามเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ นานา เพื่อให้ตัวเองมีข้ออ้างกับอาจารย์ว่าทำไมจึงไม่ทำการบ้าน จับกังแบกหาม เป็นการทรมานเหยื่อ ด้วยการให้เหยื่อแบกปึกกระดาษที่บรรจุได้ด้วยตัวอักษรและหุ้มปก ปึกเอกสารเหล่านี้ เหยื่อจะถูกบังคับให้ต้องแบกไปมาจนกว่าจะหลังโก่งหรือหลังค่อม และเหยื่อจะต้องแบกปึกเอกสารเหล่านี้ไปมาในศูนย์การทรมาน หรือที่เรียกกันว่า "ห้องเรียน" นั่นเอง บางครั้งห้องเรียนเอง ก็เป็นจุดที่เหยื่อจะต้องมารับเอกสารไปแบกหามเพิ่มเติม ทำลายสายตา เหยื่อจะถูกบังคับให้แบกเอกสารเหล่านั้นกลับบ้านเพื่ออ่าน ความยาวของเนื้อหานั้น เป็นสัดส่วนแปรผันตรงกับความน่าเบื่อของมัน แต่แปรผกผันกับกระโยชน์ที่นำไปใช้จริงได้ สำหรับเนื้อหาในเอกสารนั้น ได้รับการออกแบบมาอย่างดี โดยผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการทรมาน เพื่อให้เหยื่อได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัสจากการอ่านเอกสารนั้นๆ อีกทั้งยังสามารถสะกดจิตให้เหยื่อง่วงนอน และหลับไปได้ สำหรับเหยื่อบางรายที่โชคร้าย โดนทรมานด้วยวิธีนี้อย่างหนัก อาจจะเคราะห์ร้าย ถึงกับพิการทางสายตาได้ ทำลายข้อมือ หลังจากเหยื่อผ่านการทรมานด้วยการอ่านมาแล้ว เหยื่อจะถูกบังคับให้ทำการเขียนข้อความลงในสมุด และเหยื่อจะต้องเขียนไปเรื่อยๆ จนกว่าข้อมือของเหยื่อจะไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้ อาจจะมองว่าการทรมานนั้นจบไปแล้ว แต่ไม่ใช่ เมื่อเวลาผ่านไป ๕ นาที หรือเมื่อข้อมือของเหยื่อเริ่มสามารถขยับได้อีกครั้ง การทรมานก็จะเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งปริมาณการเขียนที่เหยื่อจะต้องเขียนนั้น มักจะแปรผกผันกับความยากของงาน แต่ในบางครั้ง การทรมานด้วยวิธีนี้ จะสามารถทำให้โหดร้ายได้ ด้วยการให้การบ้านที่ทั้งต้องเขียนเป็นจำนวนมหาศาลแล้ว ยังผสมด้วยความยากเย็นแสนเข็ญอีกด้วย ทำลายระบบเศรษฐศาสตร์ครอบครัว เกม "ถล่มการบ้านให้หมด!!" อันเป็นที่โด่งดังบางครั้ง การบ้านจะถูกให้ในรูปแบบของ "รายงาน" หรือ "งานประดิษฐ์" ประเภทต่างๆตามแต่ที่จะสั่งให้เหยื่อทำ ซึ่งงานประเภทรายงานนั้น จะต้องมีการทำปก ซึ่งทำให้ต้องเกิดการเสียค่าใช้จ่าย และบางครั้งในการทำรายงาน เหยื่อจะได้รับคำสั่งให้ทำรายงานที่เน้นปกสวยงาม ดูดี เพื่อที่ผู้ลงทัณฑ์จะได้นำไปใช้ประดับถังขยะได้ ซึ่งก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้อุปถัมภ์เหยื่อ ส่วนงานประดิษฐ์นั้น จะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแก่เหยื่อมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าทวี การสั่งการบ้านที่สิ้นเปลืองทรัพยากรนี้ มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ บีบบังคับให้ครอบครัวของเหยื่อต้องเสียเงินจับจ่าย การทรมานด้วยวิธีนี้อาจจะส่งผลให้เกิดโรคทรัพย์จางได้ ทำลายธรรมชาติ ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การบ้านบางครั้ง ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน จากกรณีข้างบน แสดงให้เห็นการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และเมื่องานหรืองานประดิษฐ์ต่างๆ ถูกทำออกมาได้ไม่น่าพอใจคุณครูของเรา เราอาจจะเห็นว่ามันกลายเป็นขยะไปเลย หรือคุณครูที่ไม่พอใจงานของท่านอาจจะเห็นว่ามันเป็นขยะเช่นกัน แล้วจับมันเขวี้ยงออกนอกหน้าต่าง กลายเป็นขยะไร้ค่าชิ้นใหม่ รวมถึงกระดาษทด , เศษกระดาษต่างๆ หรือกระดาษที่ถูกขยำขว้างก็เหมือนกัน หากครูชอบให้ท่านคิดเลขได้ยาวเรียงกันเป็นกิโล งานพวกนี้เมื่อสะสมนานเข้าๆ จะกลายเป็นขยะกองโต ก่อให้เกิดขยะสังคังจำนวนมหาศาล หากมันถูกเอาไปทิ้งในที่ๆ ไม่สมควร ตามท่อน้ำ ตามหลังบ้านท่าน หรือตามส้วมต่างๆ ซึ่งอาจยากต่อการรีไซเคิล หรือย่อยสลาย กลายเป็นต้นเหตุภาวะโลกร้อน คำวิพากษ์วิจารณ์ การบ้านไม่ใช่ข้าว ทำก็ไม่อิ่ม แต่ก็มีมาทุกวัน ยังกับว่าเป็นอาหารหลักของมนุษย์จำพวกนักเรียนไปซะแล้ว — เจ้าแห่งพลเอก แหล่งรับทำการบ้าน วิเกรียนพีเดีย:ปุจฉา-วิสัชนา พันทิพ (มั้ง) ปล.ขออภัยถ้าซ้ำ รึเคยอ่านแล้ว ที่มา ไร้สาระนุกรม อีกล่ะ Quote Share this post Link to post Share on other sites
kukuli Report post Posted May 17, 2011 ตอนแรกนึกว่ากระทู้แปลกแต่นี้มัน โอ้เนื้อหาสาระเต็มเปรี้ย :emo (75): สุดยอด :emo (28): การบ้านมันคือการทรมารสินะ Quote Share this post Link to post Share on other sites
GTTK Report post Posted May 17, 2011 จะเข้ามาดูว่าเป็นยังไงการบ้าน :emoother_08: การบ้านมันคือการทรมาร จริงๆแหละ เจอทุกวัน :emo (57): Quote Share this post Link to post Share on other sites
Dewwy Report post Posted May 17, 2011 เนื้อหาเน้นๆ ใกล้เปิดเทอมแล้วเอามาให้ช้ำใจเล่นรึไง :emo (35): :emoother_06: Quote Share this post Link to post Share on other sites
PhoneOtaku Report post Posted May 17, 2011 การบ้านคือการ ทรมารจิงๆนั้นแหละ :emo (64): Quote Share this post Link to post Share on other sites
GTOFF Report post Posted May 18, 2011 อยากให้พวก ศ.ดร. อาจารย์ทั้งหลาย มาอ่านจัง Quote Share this post Link to post Share on other sites
l2ester Report post Posted May 21, 2011 ขอสาปแช่งการบ้านไม่ให้พุดได้เกิดอีกเลย (จาเปนไปได้ไงละนั้น) :emo (47): Quote Share this post Link to post Share on other sites
ailiang Report post Posted May 21, 2011 เปิดเทอมแล้ว การบ้านเพียบเลยเซง = = มันเป็นการทรมานขั้นสูงสุด ตกทอดกันมารุ่นสู้รุ่นจริงๆ Quote Share this post Link to post Share on other sites
-O-at Report post Posted May 22, 2011 ถึงการบ้านจะเยอะ แต่ผมก็ไม่เคยทัมเสด Quote Share this post Link to post Share on other sites
Magus Report post Posted May 22, 2011 ที่มาของ การบ้านมันเป็นเช่นนี้นี่เอง นึกถึงน้องที่เรียน ป.2 อาจารย์ให้ทำการบ้าน 200หน้า (หมดเล่ม) ให้เสร็จก่อนสอบ(ราวๆ 5วันได้) เพราะอาจารย์ไม่ได้สอนเลย อนาถแท้ Quote Share this post Link to post Share on other sites
silvia Report post Posted May 22, 2011 จนถึงทุกวันนี้แทบไม่เคยทำการบ้านเลย หมักไว้ แล้วไปปั่นตอนใกล้สอบ ผลสุดท้าย เป็นไง ตก ดิ รอไร Quote Share this post Link to post Share on other sites
PastelSecret Report post Posted May 24, 2011 นี่น่ะเหรอ สิ่งที่เรียกว่า''การบ้าน'' Quote Share this post Link to post Share on other sites