Jump to content
Sign in to follow this  
OTAKUOAK

[นิยาย] God Penalize Online

Recommended Posts

***นิยายเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมใน PSP อันได้แก่ Monster Hunter / God Eater / Phantasy Star / Lord Of Arcana และ นิยายเกมออนไลน์หลาย ๆ เรื่อง จึงอยากจะขอแต่งนิยายตามฉบับที่ตนเองชอบดูบ้าง คำเตือนเนื่องจากตัวคนเเต่งเป็นพวกชอบใส่สูตรเวลาเล่นเกมอยู่แล้วจึงอาจจะ แต่งในตัวเอกนั้นได้รับไอเทมโกง ๆ มาแล้วอาจจะเก่งจนขัดใจคนอ่านไปบ้าง อนึ่งตัวคนแต่งนั้นไม่ใช่ยอดฝีมือในการแต่งนิยายแต่อย่างใด อาจจะพิมผิดไปบ้างใช้หลักคำไวยกรณ์ ไม่ถูกบ้างแต่ถ้าหากทำให้ท่านักอ่านท่านใดถูกใจก็ขอเพียงคอมเม็นท์บ้างก็พอ ใจแล้ว***

God Penalize Online

ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีด้านต่างๆ พัฒนาขึ้นอย่างมาก เกมส์ออนไลน์ก็เช่นกัน ปัจจุบัน ได้มีการคิดค้นวิธีการที่สามารถทำให้สมองของมนุษย์เราสามารถเชื่อมต่อเข้า กับคอมพิวเตอร์และทำการออนไลน์อยู่ในโลกของเกมส์ออนไลน์ได้ในขณะหลับ

เกมส์ ออนไลน์ก็เช่นเดียวกันมีการพัฒนาขึ้นเช่นกัน โดยการเล่นเกมส์ออนไลน์ในปัจจุบัน ถูกพัฒนาอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันเป็นรูปแบบของโลกสมมุติขึ้นมา อาจจะแต่งต่างกันที่รายละเอียดของแต่ละเกมส์ เกมออนไลน์เป็นงานอดิเรกของใครหลายคน ผู้เล่นสามารถที่จะพบเจอเพื่อนๆซึ่งอาจจะเป็นพบปะสังสรรค์ เพื่อนใหม่ๆหรือเพื่อนที่รู้จักกันมานานแต่อยู่ไกลกันคนละมุมโ ลกก็สามารถทำได้ มีการพัฒนาจุดเด่นด้อยจากอดีตมาสู่ปัจจุบัน เช่น

ระบบต่อสู้

การ ต่อสู้ที่เสมือนจริงหรืออาจเกินจริงก็ได้ เช่น อาการบาดเจ็บของผู้เล่นจะไม่ส่งผลต่อผู้เล่น แต่จะเป็นในรูปแบบเหมือนลมพัดผ่าน เช่น หากถูกฟันที่แขน ก็จะพบรอยแผลที่แขน ตามสภาพอันสมควรของการโจมตีครั้งนั้นๆ แต่จะไม่รู้สึกเจ็บแต่จะมีความรู้สึกเหมือนมีลมกระทบถูกส่วนที่บาดเจ็บหรือ ได้รับความเสียหาย หากเป็นการโจมตีที่รุนแรงก็สามารถทำให้กระเด็นหรือลอยได้เช่นกัน ที่ต้องมีลมพัดผ่านเพราะหากกำลังต่อสู้อย่างสนุกสนานแต่ว่าไม่รู้สึกตัวว่า บาดเจ็บ ก็อาจทำให้กลับจุดเซฟหรือเสียค่าประสบการณ์ได้

เมื่อเกมส์ออนไลน์ มีความนิยมแพร่หลาย จากคนที่ไม่รู้จักเกมส์ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ชาย,หญิง เด็ก วัยรุ่น วัยกลางคน คนเฒ่าคนแก่ เพราะ ไม่มีอุปสรรค ด้านประสาทสัมผัสสำหรับคนแก่ชรา เพราะเป็นการส่งข้อมูลและวิเคราะห์จากสมองโดยผ่านทางอุปกรณ์เชื่อมต่อ ไม่นานก็รู้จักและร่วมเล่นเกมส์ออนไลน์ได้ มีผู้เล่นสมัครและร่วมเล่นหลายล้านคน เหตุใดกันหนอ? ผู้คนจึงสนใจมากมายหรือว่ามีอะไรในดินแดนโลกสมมุติที่น่าสนใจเป็นพิเศษ?

เชิญท่านเข้าสู่โลกแห่งเกมส์ออนไลน์ God Penalize Online มาผจญภัยในโลกที่ล่มสลายลงด้วยเหล่าสัตว์กลายพันธุ์ แฝงความแปลกใหม่ สัมผัสกับคมอาวุธ เวทย์มนต์ และอื่นๆอีกมากมาย ณ บัดนี้

พงศธร หรือ พง เด็กหนุ่มบ้างานจนต้องเกิดล้มป่วยลงได้โดนเจ้านายสาวจับยัดมาเล่นเกมออนไลน์สมัยใหม่ ที่มีชื่อว่า God Penalize Online ด้วยข้อหาให้มาพักผ่อนโดยการเล่นเกม แต่เขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบหยุดนิ่งอยู่แล้ว ข้อห้ามนี้นะคงใช้ไม่ได้หรอก เพราะในเมื่อเจ้าตัวนั้นกำลังจะกลายเป็นตำนานในเกม ๆ นี้ขึ้นมาซะแล้ว

อันนี้เป็นอิมเมจตัวละคร ผมขอแปะไว้ในหน้านี้แล้วกันนะคับ

เพิ่มอิมเมจของ อลิสา แล้วนะครับ

พง // พงศธร

0-phong.jpg?t=1300296582

เมโล่ แร็บบิทเจลสีชมพู

0-luna.png?t=1300296746

อลิสา // สา

1-arisa.jpg?t=1300395516

Edited by OTAKUOAK

Share this post


Link to post
Share on other sites

ตอนที่ 1 - พงศธร เด็กหนุ่มผู้บ้างาน

ปี ค.ศ. 2222 โลกได้เกิดภัยพิบัติขึ้นขึ้นมาเนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ แล นักโบราณคดีได้ขุดพบซากโบราณของยานอวกาศที่ถูกสร้างด้วยหินผา ซึ่งได้ทำการตรวจสอบดูแล้วว่าไม่ใช่แร่ที่ค้นพบได้ในโลกใบนี้ และมีขนาดใหญ่โตพอ ๆ กับจังหวัด ๆ หนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งทางคณะผู้ค้นพบนั้นได้เรียกมันว่า ก็อด หรือ GOD

และหลังจากนั้นเพียง 1 เดือนยานอวกาศที่ได้ถูกค้นพบนั้นก็ได้ทำงานขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ และได้บินวนไปทั่วทั้งโลกแห่งนี้ ซึ่งลักษณะการทำงานของมันนั้นก็ได้ทำให้เกิดรังสีปริศนาถูกอาบฉายขึ้นมาทั่วทั้งโลก และด้วยรังสีที่เจ้ายานลำนี้ปล่อยออกมานั้นได้เกิดทำให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกแห่งนี้เกิดการหล่อหลอมรวมเข้ากับเทคโนโลยี ทำให้เหล่าสัตว์โลกนั้นผสานร่างเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในโลกเข้าด้วยทันที

ซึ่งแทบไม่ต้องเดาเลยว่าเกิดหายนะครั้งใหญ่ให้กับโลกใบนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของโลกโดยเหล่าสัตว์ป่าที่กลายพันธุ์จนเกิดเป็นอสูรกายขึ้นมาเลยทีเดียว

มนุษย์นั้นได้ถูกการรุกลานโดยสัตว์กลายพันธุ์จนเหมือนกับหุ่นยนต์สัตว์คอยทำการเข่นฆ่าและขับไล่มนุษย์ออกไปจากอาณาเขตที่แผ่ขยายออกไปจนครอบคลุมทั้งโลก

และได้มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งได้หนีรอดมาได้พร้อมกับได้เผยแผ่ความรู้ภายในยานออกมาด้วยหลักการสร้างเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้นมา จนทำให้เหล่ามนุษย์นั้นย้ายไปอยู่ใต้ดินแทนการอยู่บนพื้นดินที่ตอนนี้เต็มไปด้วยอันตรายจากเหล่าสัตว์กลายพันธุ์นั้นเอง

ซึ่งปัจจุบันเมืองสำคัญต่าง ๆ ภายในโลกแห่งนี้นั้นก็ล้วนอยู่ใต้ดินและใต้สมุทรกันหมด

“อ่า.........โน................”

“แบบว่า........”

“ถ้าเกิดว่าเราจะออกไปสู้กับพวกสัตว์กลายพันธุ์”

“เราก็ต้องขึ้นไปบนพื้นโลกใช่ไหมอ่าคับพี่สาว” เด็กหนุ่มมหาลัยวัย 20 หน้าตาเกลี้ยงเกลาแต่เพราะทรงผมรก ๆ เหมือนกับรังนกขนาดย่อม ๆ เลยทำให้หน้าตาของเขานั้นดูธรรมดาลงไปทั้งทีกำลังยกมือขึ้นมาถามพนักงานสาวคนหนึ่งอยู่หลังจากที่เธออธิบายเรื่องราวเบื้องต้นภายในเกมออกมาเสร็จสรรพแล้ว

เนื่องจากว่าในตอนนี้ทั้งคู่กำลังอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เป็นการต้อนรับผู้เล่นเกมครั้งแรกนั้นจะมาปรากฏในห้องแห่งนี้และจะคอยมีระบบปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ คอยทำหน้าที่แนะนำผู้เล่นต่าง ๆ ก่อนที่จะเข้าไปสู่ภายในเกม

“ใช่ค่ะ”

“เพียงท่านเดินออกไปโดยผ่านจากจุดวาปในเมือง ก็จะทำการย้ายผู้เล่นวาปไปยังพื้นโลกทันทีค่ะ” เอไอสาวตอบผู้เล่นชายคนนี้กลับมาอย่างคล่องแคล่ว

“= =a”

“งุม ๆ” ผู้เล่นใหม่คนนี้เกาแก้มเขา 2-3 ทีก่อนที่จะพยายามทำความเข้าใจว่าคนที่เขาคุยด้วยยอยู่ตรงหน้านั้นก็คือฐานข้อมูลอย่างหนึ่งในระบบของเกมหาได้ใช่คนจริง ๆ ไม่

“ขั้นตอนต่อไปหลังจากผู้เล่นใหม่ได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ เสร็จแล้ว”

“ขอให้ทำการตั้งชื่อตัวละครได้เลยค่ะ” เอไอสาวพูดจบแล้วก็มีหน้าต่างโปร่งใส่ที่ให้เขาตั้งชื่อตัวละครขึ้นมา

“พงศธร” ผู้เล่นใหม่ทำหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายโดยการบอกชื่อตัวละครของเขาลงไปแล้วก็เหมือนเกมออนไลน์ทั่วไปที่มีข้อความแจ้งเตือนจากเอไอระบบว่า

“ชื่อนี้ยังไม่ซ้ำกับใคร”

“ยืนยันใช้ชื่อนี้ไหมค่ะ” เอไอสาวถามเขาอีกครั้งเขาอีกครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้เล่นใหม่คนนี้ไม่เพราะในตอนนี้เจ้าตัวกำลังเหม่อลอยไปครู่นึงแถมยังคิดถึงเหตุการณ์ที่ตัวเขานั้นต้องเข้ามาเล่นเกม ๆ นี้ขึ้นมา

1 วันที่แล้ว ณ โรงพยาบาลขึ้นชื่อกลางเมืองหลวงของประเทศไทย

“แอ๊ดดดดดดดดดดดดดด” ประตูของห้องผู้ป่วยสำหรับส่วนตัวห้องหนึ่งได้ถูกเปิดออกมาด้วยมือของหญิงสาววัย 30 ต้น ๆ คนหนึ่ง

“พงเป็นยังไงบ้าง” ทันทีที่ประตูเปิดออกมาแล้วนั้นเธอก็หันไปถามเจ้าตัวดีบนเตียงคนไข้ทันที

“อ่า.................”

“สวัสดีครับบอส”

“ถ้ามีอะไรจะคุยผมขอให้คอยซักครู่นะคับ”

“ตอนนี้กำลังลองรันโปรแกรมจำลองระบบของบริษัท World อยู่นะคับ” คนบนเตียงตอบกลับมาอย่างสุภาพ ก่อนที่จะค่อย ๆ บรรจงกดเครื่องปาล์มเอจ คอมพิวเตอร์แบบพกพาสมัยใหม่ที่ฉายหน้าจอฮาโลแกรมแทนแป้นพิม และหน้าจอขึ้นมา ทำให้เจ้าเครื่องจิ๋วเครื่องนี้นั้นแทนคอมพิวเตอร์สเปคสูง ๆ ได้เลยเครื่องนึงทีเดียว

“หมับ”

“หว๋า” แต่ทว่าอยู่ ๆ หญิงสาวผู้มาเยือนที่มีศักดิ์เป็นถึงเจ้านายของคนบนเตียงนั้นกลับเดินมาอย่างหัวเสียก่อนที่จะฉกเครื่องปาล์มเอจไปจากมือของเด็กหนุ่ม

เมื่อเด็กหนุ่มหันหน้ามามองตาปริบ ๆ กึ่งยิงคำถามว่ามายึดเครื่องของผมทำไม เจ้านายสาวก็รีบตอบกลับไปทันควันว่า

“พอแล้วล่ะพง”

“นายน่ะทำงานหนักเกินไปแล้วนะ”

“พนักงานพาร์ทไทม์ของบริษัท เอจรีแพร์ซีสเต้มของเราไม่เห็นจะมาโหมงานหนักเหมือนนายเลย” เจ้านายสาวส่งเสียงดุ ๆ ใส่เด็กหนุ่มนามว่า พงศธร หรือ พง พนักงานแผนกซ่อมแซมระบบของบริษัทชื่อดังขึ้นมา

“ตะแต่ว่า...........”

“ผมยังทำงานไม่ทันเสร็จก็ต้องมาสลบเหมือดไปก่อนที่จะ.......” พงลองหาข้อแก้ตัวเอาเครื่องปาล์มคืนจากเจ้านายสาวของเขาดูเพราะว่าตัวเขานั้นแม้จะทำงานเสร็จแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถได้ทันตรวจงานของตน เขาก็ดันสลบไปเนื่องจากใช้ร่างกายทำงานเกินขีดจำกัดจนทำให้ร่างกายอ่อนเพลียแล้วสลบไปคาคอม ในระหว่างที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ไปซ่อมแซมระบบให้บริษัท World ผู้ให้บริการเกมออนไลน์แนวใหม่ ที่ชื่อว่า God Penalize Online ที่เพิ่งจะโดนแฮคเกอร์ยิงข้อมูลไวรัสเข้าระบบ จนทำให้ภายในเกมนั้นเกิดปั่นป่วนขึ้นมาจนต้องปิดบริการไปร่วมเดือนทั้ง ๆ ที่เปิดให้บริการเป็นปีที่ 3 แล้ว

แต่พอพงเข้าไปแก้ไขฟื้นฟูระบบจนเรียบร้อยก็เหลือแค่การตรวจสอบอีกขั้นเพื่อความมั่นใจนั้น เขากลับสลบไปตอนนั้นเลยทำให้พลาดการตรวจงานเองลงไป

ซึ่งแน่นอนว่าพอได้สติก็พบว่าตัวเองนั้นนอนสลบไป และตื่นมาก็อยู่ในโรงพยาบาลซะแล้ว เขาจึงบอกพยาบาลของเอาเครื่องปาล์มเอจมาให้หน่อยแล้วก็เริ่มทำการเขียนโปรแกรมจำลองระบบที่เขาเพิ่งแก้ไปดูแล้วก็ลองสร้างโปรแกรมไวรัสชนิดต่าง ๆ ที่เคยเจาะเข้าระบบไปแล้วขึ้นมาแล้วทำการเจาะระบบอีกครั้งเพื่อหาช่องโหว่ดูนั้นเอง

แต่เจ้านายของเขานั้นกลับดันมายึดปาล์มเอจไปซะก่อน แถมยังส่งสายตาดุ ๆ มาใส่เขาอีกด้วย

“นี่นายจะฝืนตัวเองโหมงานหนักไปแล้วมั้งนายพง”

“พอนายสลบไปทีมงานซ่อมแซมระบบคนที่เหลือเขาก็ทำหน้าที่ต่อจากนายเรียบร้อยแล้วล่ะย่ะ” เจ้านายสาวยืนเท้าสะเอวมองหน้าพนักงานพาร์ทไทม์คนสำคัญในบริษัทของเธอก่อนที่จะเลิกทำหน้าดุแล้วยิ้มอย่างผ่อนคลายออกมา

“นายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ”

“ทางบริษัทเรายิ่งขาด ๆ บุคลากรที่มีคุณภาพกันอยู่” เธอพูดจบก็วางกระเช้าเยี่ยมไข้ลงบนโต๊ะก่อนที่จะเปิดเอากล่องเก็บอาหารที่รักษาอุณหภูมิขึ้นมา

“นายก็สลบไปหลายวันนี่ท่าทางจะหิวแล้วใช่ไหมล่ะ” เจ้านายสาวพูดจบพงก็เอามือมาลูบท้องตัวเองดูก็พบว่ามันรู้สึกโล่ง ๆ ยังไงพิกล ๆ

“คับบอสผมเองก็เริ่มจะหิวแล้วล่ะ” แล้วสายตาของพงก็เหลือบไปเห็นเจ้านายสาวของตนเองนั้นเทโจ๊กร้อน ๆ ที่มีควันลอยออกมานิด ๆ ใส่ชามแล้วเดินมาใกล้ ๆ ก่อนที่จะกดปุ่ม ๆ นึงลงไปบนเตียงนอนของคนไข้ก็ปรากฏโต๊ะขนาดเล็กที่ใช้สำหรับวางจานชามอาหารได้ขึ้นมา

“กินซะตอนที่มันร้อน ๆ นั้นแหละ” เธอพูดจบก็วางชามลงตรงหน้าแล้วยื่นช้อนมาให้พงถือ

และเมื่อพงรับช้อนมาแล้วนั้นเขาก็ตักโจ๊กขึ้นมา แล้วกำลังจะใส่เข้าปากตัวเองก็ต้องเกิดอาการชะงักค้างไปซักพักแล้วหันไปมองหน้าเจ้านายสาวของเขาตาปริบ ๆ

“บอสคับ”

“เอ่อ..........บอสก็ยังไม่ทานอะไรมาเหรอคับ”

“ถ้าไม่รังเกียจแบ่งของผมไปครึ่งไหม ?” ที่พงถามแบบนี้ก็เพราะว่าตัวเขานั้นถ้าเกิดต้องแบ่งโจ๊กไปแล้วอาจไม่อิ่มก็กดปุ่มที่หัวเตียงเรียกพยาบาลมาเพื่อสั่งอาหารสำหรับผู้ป่วยทานได้นั้นเอง

ซึ่งสายตาของเจ้านายสาวที่มองมายังเขาในตอนนี้นั้นเขาก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะเขาไม่เคยโดนมองแบบนี้มาก่อนเขาจึงได้ถามเธอขึ้นมาเผื่อว่าเธอจะหิวนั้นเอง

“ชั้นกินข้าวมาย่ะ”

“นายนั้นแหละรีบ ๆ กินไปเถอะ”

“อ๋อ แล้วก็ชั้นบอกแล้วไม่ใช่เหรอไงว่าเวลาอยู่นอกเวลาทำงานน่ะ”

“ให้เลิกเรียกชั้นว่าบอสน่ะห่ะนายพง” เจ้านายสาวยืนเท้าสะเอวก่อนที่จะส่งสายตามองทางพงอย่างดุ ๆ ราวกับว่าเขาทำอะไรผิดอีกแล้ว

“อ่า............”

“ขอบคุณนะคับคุณแนนที่หาโจ๊กอร่อย ๆ แบบนี้มาให้ผม” พงเรียกชื่อเล่นของเธอออกมาโดยที่ไม่ลืมเติมคำว่าคุณนำหน้าเพื่อไม่ให้เรียกชื่อเล่นเธอเฉย ๆ แล้วมันฟังดูไม่มีมารยาทเกินไป

“เฮ้อออออออออออ” แต่ไม่ทันไรแนนหรือเจ้านายสาวของเขานั้นกลับถอนหายใจยาว ๆ ออกมาครู่หนึ่งพร้อมกับพูดต่อขึ้นมาว่า

“นายพง นายเรียกชั้นมาแนนเฉย ๆ เถอะนะ”

“แล้วก็โจ๊กนั้นน่ะนายยังไม่ทันไรทานซักคำแล้วรู้ได้ไงว่ามันอร่ยน่ะ”

“โหววววววววว”

“ขืนเรียกแบบนั้นมันดูไม่สุภาพแย่เลยน่ะซิคับ”

“ถ้างั้นผมขอเรียกว่าพี่แนนก็แล้วกัน” พงพูดจบเขาก็ยิ้มออกมาเพื่อบ่งบอกว่าให้เขาเรียกเธอว่าพี่น่ะมันก็สุด ๆแล้วนะ แถมหลังจากยิ้มตอบเสร็จนั้นพงก็พูดต่อขึ้นมาว่า

“อีกอย่างโจ๊กที่พี่แนนอุตสาห์ทำมาเพื่อผมน่ะ”

“มันก็อร่อยอยู่แล้วละคับ”

“ต่อให้ไม่ชิมก็เถอะ” พงพูดจบแนนก็รีบแย้งขึ้นมาทันที

“จะหลงตัวเองมากไปหน่อยแล้วมั้งนายพง”

“ทำไมชั้นต้องไปทำอาหารมาเยี่ยมไข้นายด้วยมิทราบ !!!” แม้น้ำเสียงจะดูโกรธราวกับว่าเจ้าคนตรงหน้าสำคัญตัวเองผิดไปแล้วนั้นก็ไม่ได้ทำให้พงกลัวเลยแม้แต่น้อยแถมเขานั้นยังยิ้มออกมาเบา ๆ อีกต่างหากเพราะเขานั้นก็พอจะรู้นิสัยเจ้านายสาวของเขามานานนั้นเอง

“เหรอคับ”

“งั้นก็น่าแปลกนะคับ”

“ที่............” พงพูดจบเขาก็ตักเนื้อหมูที่ถูกต้มจนเละเป็นก้อนใหญ่ ๆ ขึ้นมาจากโจ๊กเพื่อให้แนนดูขึ้นมา

“ที่ถ้าหากว่าร้านอาหารที่เขาทำโจ๊กแบบนี้มาขายแล้วดันใส่หมูลงไปชิ้นใหญ่โตแบบนี้รับรองว่าขาดทุนแน่นอนคับพี่แนน” ทันทีที่พงพูดจบแล้วนั้นแนนก็พูดเถียงเขาขึ้นมาทันใดว่า

“ก็ร้านที่ชั้นไม่ซื้อให้นายน่ะมันเป็นร้านของคนรู้จักชั้นเอง”

“เขาก็เลยให้..........” แต่แล้วในระหว่างที่แนนกำลังพูดอยู่นั้นเองพงก็คลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมาแล้วถามเธอด้วยความเป็นห่วง

“เจ็บมากไหมคับนั้น”

“เจ็บอะไร” แนนที่ไม่เข้าใจในคำถามก็เลยถามพงขึ้นมา

“ก็นิ้วมือของพี่แนนไงล่ะคับ”

“สงสัยตอนหันเนื้อหมูลงไปต้มคงจะเผลอโดนบาดไปหลายแผลเหมือนกันนะคับ”

“นิ้วของพี่แนนเหมาะกับการกดแป้นพิมพ์บนคีย์บอร์ดมากกว่ามาทำอาหารที่พี่แนนไม่ถนัดนะครับ”

“แต่ถึงอย่างนั้นพี่แนนก็ยอมเจ็บตัวทำโจ๊กมาให้ผมทาน”

“ผมเลยบอกไงคับว่าโจ๊กชามนี้ต้องอร่อยมาก ๆ แน่นอน”

เมื่อถูกไล่ต้อนจนจนมุมแนนก็หน้าขึ้นสีมาเล็กน้อยก่อนที่จะพูดเสียงดังขึ้นมา

“พูดมากน่า”

“รีบ ๆ กินไปให้หมดซะ”

“ชั้นไม่รอข้างนอกแล้วกัน” ว่าจบแนนก็เดินกระแทกเท้าด้วยความอายออกไปนอกห้อง พงที่มองแผ่นหลังของเธอเดินออกไปนั้นก็แทบจะหัวเราะออกมาหากเพียงแต่ต้องรักษามารยาทเอาไว้

และทันใดนั้นเอพฝงก็ตักโจ๊กเข้าปากอย่างสุขใจได้ไม่นานเขาก็ต้องสะดุ้งสุดตัวทันทีที่โจ๊กเข้าปากแล้วพยายามกลืนลงท้องอย่างยากเย็นด้วยรสชาติที่เหมือนกับมีคนเอาน้ำยาล้างจานเทลงไปซะอย่างนั้น พงเลยรีบเอาช้อนคนหาอะไรบางอย่างในโจ๊กครู่เดียวเขาก็พบกับ เปลือกมะนาว ที่ฝานลงไปด้วยนั้นเอง

“อร่อยมากกกกกกกกกก”

“ฝากคนที่แอบดูอยู่หน้าห้องไปบอกพี่แนนด้วยนะคับ” ทันทีที่พงพูดจบประตูห้องที่ดู ๆ แล้วแง้มอยู่นั้นก็มีเสียงลำพึงเบา ๆ ลอยเข้ามาว่า

“ชิ” แล้วบานประตูก็ปิดสนิทลงไป

“อ่า............” เมื่อแนนจากไปแล้วนั้นเขาก็มองดูชามโจ๊กด้วยอาการเหงื่อแตก

“ช่วยไม่ได้นี่นะก็พี่แนนอุตสาห์ทำอาหารครั้งแรกนี่หน่า” ว่าแล้วพงก็คว้ามือไปกดโทรศัพท์สำหรับโทรออกแล้วเรียกสายคุยกับนางพยาบาลที่มีเวรดูแลเขาอยู่

“เอ่อ...........คุณพยาบาลคับ”

“ผมขอยาเคลือบกระเพราะชนิดที่แรงที่สุดด้วยนะคับ” แล้วพงก็วางสายไปก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าออกยาว ๆเพื่อผ่อนคลายราวกับว่าต้องเจอศึกหนักตรงหน้าที่เปรียบเหมือนกับงานที่ยากที่สุดในชีวิตของเขาขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียงโจ๊กเปลือกมะนาวแท้ ๆ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

“ขะ..........ขอโทษนะพง”

“โจ๊กที่ชั้นทำทั้งไม่อร่อยแล้วยังไปทำให้นายเกิดอาการอาหารเป็นพิษแทรกซ้อนอีก”

“>/ \<” แนนประสานมือไหว้ขอขมาพง ซึ่งในตอนนี้เขานั้นเพิ่งได้รับน้ำเกลือไปแถมยังนอนอ้าปากพะงาบ ๆ อยู่บนเตียงคนไข้ซะอีก

“ไม่เป็นไรคับพี่แนน”

“คนเราย่อมมีพลาดกันได้.........” แม้ร่างกายจะอ่อนเพลียหนักกว่าเดิมขึ้นมาก็ตามแต่เขานั้นยังยิ้มตอบแนนเจ้านายของตนเองได้ราวกับว่าไม่เป็นอะไรเลยทั้ง ๆ ที่พอจะขยับร่างกายตัวเองยังไม่ไหวแท้ ๆ

เหมือนทั้ง ๆ ที่พงจะพูดให้กำลังใจแนนที่คิดจะเลิกทำอาหารตลอดชีวิตก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าแนนนั้นจะได้ฟังเสียงของพงตอนนี้แล้วเธอกลับหมดกำลังใจลงไปเรื่อย ๆ ก็แหงล่ะพอพงอาการอาหารเป็นพิษกำเริบนั้นพยาบาลและหมอก็ขอดูอาหารที่พงทานเข้าไปก็เลยเอ็ดใส่แนนยกใหญ่เลยทีเดียวนั้นเอง

“นี่พงเดี๋ยวนายก็นอนหลับพักผ่อนเยอะ ๆ นะ”

“ชั้นไม่กวนแล้ว” คนผิดกล่าวออกมาอย่างเกรงใจก่อนที่อยู่ ๆ เหมือนเธอจะนึกอะไรออกก็เลยหยิบเอาเครื่องเล่นเกมชนิดหนึ่งออกมาแล้วทำการต่อสายละโยงละยางไปทั่วห้องแห่งนี้

“ทำอะไรน่ะคับพี่แนน” พงหันไปมองแนนอย่างแปลกใจ แต่ไม่ทันไรแนนก็พูดขึ้นมาซะก่อน

“เสร็จแล้ว” แนนยิ้มออกมาอย่างสดใสก่อนที่เธอนั้นจะเอาเครื่อง ๆ หนึ่งมีลักษณะคล้ายหูฟังมาครอบใส่หัวของพง

“ไม่ต้องทำหน้าสงสัยหรอกนะ นายพง”

“ขืนชั้นคืนเครื่องปาล์มเอจให้นายตอนนี้รับรองว่ามีหวังนายนั้นคงกลับไปบ้างานเหมือนเดิมแน่ ๆ”

“แล้วทางบริษัท World เขาก็เห็นนายทำผลงานดีล่ะมั้งเลยฝากชั้นเอาเครื่องเล่นเกมและ ไอเทมพิเศษมาให้กับนาย”

“โดยไอเทมพิเศษนั้นหลักจากนายสร้างตัวละครแล้วก็จะได้รับเองแหละ”

“เอ๊าหลับตาได้แล้วค่ะพ่อคุณ” แล้วแนนก็สวมบทคุณแม่กล่อมพงนอน โดยที่เขานั้นไม่ค่อยจะเต็มใจมากนักกับการโดนยัดเยียดให้เล่นเกมแบบกระทันหันก่อนที่อยู่ ๆ พงจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาแล้วเอ่ยปากแกล้งแนนขึ้น

“อยู่ ๆ ให้นอนเลยแบบนี้ผมก็นอนไม่หลับหรอกคับคุณแม่”

“นอกซะจากว่าคุณแม่จะ........” พงไม่พูดเปล่าเขาทำแก้มป่อง ๆ ออกมาอีกด้วย

“นะ.........นอนหลับพักผ่อนไปเลยนะ !!!” พริบตาที่แนนเห็นท่าทางอ้อน ๆ ของพงแล้วนั้นเธอก็เกิดอาการหน้าขึ้นสีชมพูที่พวงแก้มแล้วรีบสวิต์การเชื่อมต่อทันทีเนื่องจากความเขินอายนั้นเอง

“วูบบบบบบบบบบบบบบ” อยู่ ๆ พงเกิดรู้สึกว่าตัวเขานั้นง่วงนอนขึ้นมาอย่างหนักจนหนังตาหนักขึ้นเรื่อย ๆ แล้วพล๊อยหลับไปพร้อมกับภาพตรงหน้าที่ดับวูลลงไปด้วย

Share this post


Link to post
Share on other sites

ถ้ามีตอนที่2ออกมาเร็วนะคับ อ่านแล้วหนุกดีคับ

เหมือนกันฮะ จะได้อ่านต่อ :emoother_08:

Share this post


Link to post
Share on other sites

ตอนที่2-ฝึกการโจมตี

“คุณผู้เล่นค่ะ ?” เอไอสาวพยายามเรียกพงด้วยเสียงดัง ๆ อีกครั้งทำให้คนตรงหน้าของเธอนั้นเลิกอาการเหม่อลงไปทันที

“คับ”

“เมื่อกี้ว่าอะไรนะคับ” เมื่อได้สติพงก็ถามเอไอสาวไปอีกครั้งนึง

“ผู้เล่นจะยืนยันชื่อ พงศธรเป็นชื่อตัวละครในเกมไหมค่ะ” เมื่อเห็นว่าพงนั้นหันมาสนใจเธอแล้วนั้นเธอก็ถามคำถามเดิมอีกครั้งนึง

“คับยืนยันคับ” พงตอบกลับไปอย่างเกรงใจนิด ๆ เนื่องจากตัวเขานั้นเป็นคนที่ถ้าหากใช้ความคิดอะไรแล้วจะเกิดอาการเหม่อไปครู่หนึ่งนั้นเอง แต่เขาจะไปแคร์อะไรกันล่ะถ้าคิดดูดี ๆ แล้ว เอไอสาวตรงหน้าก็ไม่ใช่พนักงานจริง ๆ ซักหน่อยนิ ให้รอนิดรอหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“ถ้าเช่นนั้นดิชั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปเลยก็แล้วกันนะค่ะ” เธอพูดจบก็ขออนุญาตยื่นมือมาสัมผัสกับหน้าผากของพง เพื่อทำขั้นตอนการสแกนร่างกายของผู้เล่นเพื่อสร้างค่าความสามารถที่เหมาะสม

“นี่มัน........” แต่อยู่ ๆ เธอก็อุทานออกมาเบา ๆ ซักพัก ราวกับว่าแปลกใจในอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะตีสีหน้าราบเรียบให้เป็นปกติแล้วบอกกับพงว่า

“ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ”

“คุณเป็นผู้เล่นคนแรกในเกมที่ปลดล็อคค่าทักษะพลังพิเศษได้ทั้งหมด”

“คับ”

“ว่าไงนะคับ” คนที่เพิ่งเข้าเล่นเกมครั้งแรก(แถมยังโดนจับยัด) อย่างเขาจะมีหรือที่ศึกษาเรื่องเกม ๆ นี้ก่อนเข้ามาเล่น เพราะวัน ๆ ของพงนั้นชีวิตเขามีแต่งาน ๆ ๆ ๆ ๆ เท่านั้น

“ผู้เล่น พงศธร จะฟังคำอธิบายจากดิชั้นไหมค่ะ เรื่องค่าพลังพิเศษต่าง ๆ” ทันทีที่เอไอสาวถามมานั้นพงก็พยักหน้าเบา ๆ เป็นการยืนยัน เธอก็เลยร่ายคำพูดอธิบายออกมายาว ๆ ว่า

“ภายในเกม God Penalize Online นั้นจะประกอบไปด้วยค่าพลังพิเศษต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 4 สาย”

“สายแรกเป็นสายพลังกาย ที่ผู้เล่นนั้นใช้พลังกายออกมาทำการต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์ได้เต็มประสิทธิภาพ และสายนี้จะมีร่างกายอันแข็งแกร่งดุจหินผา ทำให้ พลังโจมตี และป้องกัน ทางกายภาพที่รุนแรง แต่แพ้ทางสายเวทย์มนต์”

“สายต่อมาคือสาย เวทย์ เป็นสายที่สามารถใช้เวทย์มนต์ต่าง ๆ ได้ ตามเงื่อนไขของอาชีพที่เลือก สายนี้จะโจมตีเวทมนต์ได้รุนแรงนับว่าเป็นสายที่สร้างดาเมจ (ค่าความเสียหายทางเวทย์มนต์) ได้มากที่สุดในเกม แต่พลังป้องกันต่ำ จึงแพ้ทางสายจิต”

“สายที่สามนั้นคือสาย จิต เป็นสายที่มีค่าความคล่องแคล่วว่องไว และความแม่นยำ อยู่ในระดับกลาง ๆในเกม แถมยังสามารถใช้จิตพลิกแพลงได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้ใช้ได้อีกด้วย แต่ด้วยที่เป็นสายที่ไม่มีค่าพลังป้องกันเลยแต่ถูกชดเชยด้วยค่าความเร็วสูงนั้นจึงทำให้แพ้ทางปัญญาที่โจมตีได้แม่นยำ”

“สายสุดท้ายคือสายปัญญา เป็นสายที่มีค่าความแม่นยำ และ ความโชคดีมากที่สุดในเกม เนื่องจากต้องใช้พลังแห่งความคิดในการวิเคราะห์ผลลัพธ์ต่าง ๆ ได้รวดเร็ว จึงเหมาะแก่อาชีพที่สร้างไอเทมเป็นส่วนใหญ่”

“ซึ่งผู้เล่นพงศธรเองก็มีค่าความสามารถนี้มากกว่าสายพลังอื่นที่ได้รับการปลดล็อคหลังจากการสแกนค่ะ”

“ไม่ทราบว่าผู้เล่นพงศธรเข้าใจที่ดิชั้นอธิบายไหมค่ะ”

“ถ้าไม่เข้าใจดิชั้นจะได้อธิบายใหม่อีกครั้ง” เอไอสาวถามพงอย่างใส่ใจเพราะดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะสนใจฟังเธอขึ้นมาบ้างแล้ว

“อ๋อไม่เป็นไรคับผมพอจะเข้าใจมาหน่อยนึงแล้ว” ต้องบอกว่าฟังเพียงครั้งเดียวก็เข้าใจแล้วต่างหากล่ะ เพราะนี่คือพรสวรรค์ของนายพงคนนี้ที่ไม่ว่าอะไรจะเป็นข้อมูลก็ตามขอแค่ได้ฟังเพียงครั้งเดียวแล้วล่ะก็รับรองว่าไม่มีทางที่เขานั้นจะฟังไม่ออกเป็นแน่

“ถ้าเช่นนั้นดิชั้นจะส่งผู้เล่นพงศธรไปยังสถานที่สู้กับสัตว์กลายพันธุ์เป็นเวลา 1 ชั่วโมงนะค่ะจะได้ทำให้ผู้เล่นเข้าใจในระบบการต่อสู้เบื้องต้น”

“ผู้เล่นพงศธรพร้อมกับการทดสอบต่อสู้หรือยังค่ะ” เอไอสาวถามเขาขึ้นมาอีกครั้ง

“คับพร้อมแล้วคับ” ทันทีที่พงตอบกลับไปนั้นก็ปรากฏลำแสงสีขาวตรงพื้นที่เขายืนอยู่และเพียงไม่นานแสงสีขาวเหล่านี้ก็ทำการวาปเขาไปยังพื้นดินด้านบน

“ตุ๊บ”

“ฟิ้ววววววววววว” เมื่อร่างของพงหายไปจากห้องรับรองผู้เล่นใหม่เขาก็ปรากฏมาตรงทุ่งหญ้ากว้าวขวางแห่งหนึ่งซึ่งหากมองดูดี ๆ แล้วนั้นก็ได้มีเมือง ๆ นึงตั้งอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ไกลไปจากพื้นที่นี้มากนัก

พงอดทึ่งกับสภาพแวดล้อม ที่มีทุ่งหญ้าสีเขียวขจีพร้อมกับสายลมพัดปลิวไสวทำให้เนินหญ้าสูงใกล้ ๆ ปลิวไสวไปมานั้น ก็อดจะนึกไม่ถึงเลยว่านี่น่ะคือเกมจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นกลืนอายของพื้นดินที่ลอยตามลมมาจาง ๆ และกลิ่นของต้นไม้ใบหญ้าที่เสียดสีกันไปมาตามแรงลมนั้นทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายลงไปจริง ๆ

“นี่ซินะโลกที่ล่มสลาย........”

“ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกลับคืนตามธรรมชาติหาได้มีเหล่ามนุษย์มาทำลายมันอีกต่อไป”

“นี่ถ้าเกิดว่าโลกจริง ๆ นอกเกมของเรายังพอมีสถานที่แห่งนี้อยู่ก็ดีไม่น้อย” พงหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา

นั้นเพราะว่าโลกนอกเกมของเขาในตอนนี้นั้นนอกจากสวนสาธารณะที่มีแต่ต้นไม้ปลอม ๆ ตั้งอยู่ และภายในตัวเมืองที่มีแต่ตึกราบ้านช่องขึ้นมาราวกับแข่งกันว่าตึกไหนจะสูงกว่ากันนั้น คงไม่มีสถานที่แห่งไหนเลยที่จะดูร่มรื่นได้เหมือนกับพื้นที่ ๆ ที่เขายืนอยู่ตรงนี้ เท่ากับว่าเมื่อเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้ามากเพียงใดธรรมชาติที่อยู่คู่กับตัวมนุษย์เองนั้นก็ย่อมเลื่อนหายไปด้วยเช่นกัน

“ดึ๋ง ๆ ๆ ๆ ๆ” แต่พงก็อดทึ่งกับธรรมชาติอันสวยงามได้ไม่เท่าไหร่นักก็มีเสียงการเคลื่อนไหวบางอย่างนั้นเกิดขึ้นมาจนทำให้เขาสนใจหันไปมองดู

“หืมมมมมมม”

“ตัวอะไรล่ะนั้น” พงต้องหรี่ตามองดี ๆ เมื่อพบว่าใกล้ ๆตัวของเขานั้นกำลังมีสัตว์กลายพันธุ์ชนิดหนึ่งกำลังกระโดดเหมือนกระต่ายไม่มาใกล้ ๆ ตัวเขา

ใช่มันกระโดเหมือนกระต่ายก็จริง แถมทั้งร่างมันก็ดูคล้ายกับกระต่ายมากเสียด้วยแต่ว่าคงจะมีแต่เพียงในเกม ๆ นี้เท่านั้นแหละ เพราะไอเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายกระต่ายตัวนี้นั้นมันกลับมีร่างกายเป็นเจลลี่ไปซะได้

“แร็บบิทเจล สัตว์กลายพันธุ์ ระดับ 1 ที่อ่อนแอที่สุดในโลกที่ล่มสลาย”

เสียงแจ้งเตือนของเอไอสาวคนเมื่อครู่บอกเขาขึ้นมาราวกับว่าเธอนั้นอ่านใจเขาออกที่อยากจะทราบชนิดของเจ้าสัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้

“อ่า.........งั้นเหรอคับ”

“แต่เจ้าแบบนี้เนี่ยนะเหรอคับที่ทำให้โลกของเรา (ในเกม) ล่มสลายไปได้จริง ๆ” พงมองกลุ่ม แร็บบิทเจล ที่กระโดดกันไปมาอย่างเป็นมิตรแถมยังยังดูเป็นพวกรักสงบเอาเสียมากว่า แถมร่างกายที่เหลวจนโปร่งใสของพวกมันนั้นจนเป็นสีส้ม ๆ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า พวกสาว ๆ ที่เห็นมันแล้วนั้นจะคิดแบบเขาว่ามันจะนุ่มน่ากอดเพียงใด

“อ้าวแล้วทำไมเจ้าตัวนั้นอยู่แยกจากกลุ่มล่ะคับ” แล้วสายตาของพงนั้นก็เหลือบไปเห็น แร็บบิทเจล สีชมพูที่ดูแปลกว่าตัวอื่นซึ่งมันดูเหมือนจะถูกกันให้ออกไปจากกลุ่มอยู่ตัวเดียว แล้วมองดูฝูงของมันกำลังเล็บหญ้ากินด้วยท่าทางที่ดูโดดเดี่ยวยิ่งนัก

“ในบางครั้งกายกลายพันธุ์ของเหล่าสัตว์ในโลกแห่งนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เหมือนพวกอื่น ๆ เช่นกันค่ะ”

“ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ทำให้สัตว์กลายพันธุ์ตัวดังกล่าวมีสิทธิ์วิวัฒนาการได้มากกว่าสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์มาค่ะ”

เอไอสาวกล่าวอธิบายออกมาให้พง ในลักษณะเสียงที่ดังอยู่ในหัวจบแล้ว พงก็หันไปมองเจ้าแร็บบิทเจล แล้วเกิดหัวเราะพรืดออกมา

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”

“แม้แต่พวกสัตว์ ถึงแม้จะเป็นในเกมก็เถอะก็ยังมีเรื่องแบบนี้อีกหรือเนี่ย” ที่พงพูดออกมาแบบนี้นั้นก็เหมือนกับว่าสิ่งที่เจ้าแร็บบิทเจล สีชมพูตัวนี้โดนปฏิบัติจากฝูงนั้นมันช่างเหมือนกับเรื่องราวในชีวิตจริง ๆ ซะนี่กระไร พวกที่ฝ่าเหล่า หรือมีอะไรที่พิเศษและแปลกแยกมากกว่าคนอื่นนั้น ก็มักจะโดนกีดกันออกจากกลุ่ม ซึ่งโลกปัจจุบันเป็นเช่นนี้นั้นเอง ซึ่งได้ทำให้พงนั้นเกิดอาการหัวเราะออกมาอย่างไรสาเหตุเนื่องจากเขามองเจ้าแร็บบิทเจล สีชมพูตัวนี้แล้วมันก็ไม่ต่างกับเขามากนักหรอกในสังคมปัจจุบันนอกเกม

เริ่มตากที่ตัวเขานั้นเป็นพวกเข้าใจอะไรได้ง่ายหากเป็นข้อมูล เลยทำให้ในมหาลัยนั้นสายตาของคนอื่น ๆ ล้วนมองเขาราวกับเป็นสิ่งแปลกปลอมนั้นเอง ที่ทำงานก็เช่นกัน เขาก็ไม่เข้าใจอย่างนึงว่าไอการทำงานแบบทุ่มเทของเขานั้นมันได้ไปขัดผลประโยชน์ของใครเข้าหรือเปล่า เขาจึงได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชา และการนินทาลับหลังด้วยเช่นกัน

แต่คิดไปมันก็เท่านั้นเพราะคนเพียงคนเดียวคงไม่สามารถเปลี่ยนกระแสความคิดของคนทั้งโลก พงเลยปล่อยวางเรื่องพวกนี้ไปแล้วนั้นเอง

แต่กับเจ้าแร็บบิทเจล สีชมพูตัวนี้นั้นคงจะไม่ใช่อย่างแน่นอนแบบดวงตาของมันนั้นจะใสราวกับแก้วก็ตามแต่เขานั้นมองเห็นบางอย่างในตัวของมันได้ ก็คือแววตาที่มองกลุ่มฝูงของมันนั้นกำลังเล็มหญ้าอย่างเงหาหงอยนั้นเอง

พงเลยตัดสินใจเดินแหวกกลุ่มเหล่าแร็บบิทเจล สีส้มไปเด็ดหญ้าขึ้นมากำมือหนึ่งซึ่งนั้นเองได้ทำให้เหล่าแร็บบิทเจล สีส้มนั้นหันมามองเขานับ 20 กว่าตัว แถมแววตาใส ๆ ของพวกมันนั้นกลับกลายเป็นสีแดงก่ำขึ้นมา

“ระวังด้วยค่ะ ผู้เล่นพงศธร พวกแร็บบิทเจล กำลังคิดว่าคุณไปแย่งอาหารของพวกมันจนเกิดสถานะคลั่งและจะโจมตี ผู้เล่นพงศธรแต่เพียงผู้เดียวแล้วค่ะ” เสียงของเอไอสาวดังก้องเตือนเขามาในหัวแต่มันก็คงไม่ทันซะแล้ว

“ฟุ่บ” แร็บบิทเจล ตัวหนึ่งเปิดฉากโจมตีใส่พงก่อนโดยการดีดตัวออกไปพุ่งเข้ากระแทกใส่ร่างของพงอย่างรวดเร็ว

“ปึกกกกกก” เสียงของแร็บบิทเจล กระแทกเข้าใส่ท้องของพงอย่างจัง จนเกิดเสียงดังขึ้นมา แต่นั้นเขากลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นโดนสายลมพัดผ่านร่างกายไปเท่านั้นเอง

“อะไรกัน...........”

“การโดนสัตว์กลายพันธุ์ในเกมโจมตีใส่แล้วมีอาการบาดเจ็บแค่นี้เองงั้นเหรอ” พงเกาหัวตัวเองพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่าง งง ๆ ซึ่งคนที่ไม่เคยเล่นเกมหรืออ่านคู่มือแนะนำการเล่นมาก่อนอย่างเขาย่อมไม่รู้เลยว่าไอสายลมเมื่อครู่นี้แหละได้ลดค่าพลังชีวิตของเขาไปซะแล้ว

“ดึ๋ง ๆ ๆ ๆ ๆ”

“ฟ้าว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” แต่กว่าพงจะรู้ตัวนั้นก็สายไปเสียแล้วเมื่อเหล่าแร็บบิทเจล นั้นได้พุ่งใส่เขาแทบทุกตัวที่ยืนล้อมกรอบเขาเอาไว้ราวกับกระสุนปืนกล

เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นอยู่ ๆ ร่างกายของเขาเกิดการขยับไม่ได้ครู่นึง แล้วร่างกายของเขานั้นก็ล้มฟุ่บลงไปนอนหงายกับพื้นอย่างไร้สาเหตุ

“ผู้เล่น พงศธรได้เสียชีวิตแล้วค่ะ”

“ไม่ทราบว่าผู้เล่นพงศธรจะฝึกต่อสู้ต่อไหมค่ะ”

“ดิชั้นจะได้ทำการชุบชีวิตผู้เล่นให้เกิดจุดเดิมค่ะ”

“แต่ถ้าฝึกพอแล้วดิชั้นจะชุบชีวิตแล้วนำกลับมายังห้องรับรองค่ะ” เสียงของเอไอสาวถามเขาขึ้นมาแต่นั้นก็ทำให้พงที่กลายเป็นศพไปแล้วนั้นต้องแสดงสีหน้าเหวอสุดขีดขึ้นมา

“นี่เรา”

“เดี้ยงไปแล้วเหรอเนี่ย !!!”

“ก็นึกว่าสายลมที่พัดไปมานั้นจะเป็นของพื้นที่แถวนี้ซะอีก”

“เหอะ ๆ ๆ ๆ” พงหัวเราะแห้ง ๆ ออกมาเพราะเขานั้นแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอสายลมสบาย ๆ เหล่านี้ที่เขาโดนหลังจากที่พวกแร็บบิทเจล รุมโจมตีเขานั้นจะทำให้เขาถึงกับตายเลยงั้นเหรอ

“ขืนถ้าเกิดว่าเราไปสู้กับพวกสัตว์กลายพันธุ์ในสถานที่ที่มีลมพัดขึ้นมา”

“มีหวังตายไม่รู้ตัวพอดี”

“เรื่องนี้ต้องระวังเอาไว้หน่อยแล้วแฮะ”

“ขอชุบที่ชีวิตแบบเกิดที่เดิมคับ” เมื่อเห็นว่าเขามายืนอยู่เพียง 10 นาทีเองแต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แถมยังรู้เรื่องเดียวอีกนั้นคือการตายภายในเกม

เมื่อได้รับการชุบชีวิตแล้วนั้นพงก็ลองขยับร่างกายไป ๆ มา ๆ ดู ก็พบยังสามารถขยับตัวได้คล่องแคล่ว ซึ่งดีกว่าที่เขานั้นขยับตัวนอกเกมซะด้วยซ้ำ

“ดิชั้นขออภัยที่ ตัวดิชั้นจะขอแนะนำเรื่องนึงกับผู้เล่นพงศธรก่อนนะค่ะ”

“จากเมื่อครู่ที่ดิชั้นได้ยิน ผู้เล่นพงศธรพูดขึ้นมานั้น ทางระบบมีช่องทางให้เลือกสำหรับการเลือกรับอาการบาดเจ็บให้ด้วยค่ะ”

ทันทีที่เสียงเอไอสาวกล่าวจบแล้วนั้น พงก็ต้องถามขึ้นมาทันใด

“มันเป็นยังไงเหรอคับช่องทางที่ว่า”

“ค่ะ ช่องทางการรับรู้ค่าความเสียหายที่ผู้เล่นได้รับนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบค่ะ”

“ช่องทางแรกเมื่อร่างกายได้รับการโจมตีหรือผิดปกติแล้วนั้น จะเหมือนสายลมที่พัดผ่านร่างกายของผู้เล่นเท่านั้นค่ะ ซึ่งถ้าหากเจอการโจมตีที่รุนแรงมาก ๆ นั้นก็สามารถทำให้กระเด็น หรือปลิวไปตามแรงได้เช่นกัน ส่วนความผิดปกติของร่างกายนั้นก็จะเหมือนกับได้รับสายลมพัดผ่านอยู่ตลอดเวลาค่ะ และจะได้รับออร่าของสถานะผิดปกติขึ้นมาอยู่ตรงหัวของผู้เล่นด้วยค่ะ”

“ช่องอีกช่องทางนึงก็คือ ผู้เล่นนั้นจะได้รับอาการบาดเจ็บจริง ๆ เหมือนกับภายนอกเกมค่ะ แต่อาการบาดเจ็บนั้นทางระบบของเกมได้ลดลงให้เหลือเพียง 10 % เท่านั้นค่ะ” “ซึ่งผู้เล่นที่เลือกรับการบาดเจ็บนี้จะได้รับค่าประสบการณ์ในการสังหาร ทำภารกิจ การพัฒนาของสกิล อัตราการดร็อปของไอเทม มากกว่าผู้เล่นที่เลือกช่องทางแรก 10 เท่าค่ะ แต่ผู้เล่นไม่สามารถกลับมาเลือกช่องทางการรับรู้อาการบาดเจ็บในช่องทางแรกได้อีกแล้วนะค่ะ” ทันทีที่เอไอสาวกล่าวอธิบายจบแล้วนั้นพงก็โพลงขึ้นมาทันที

“อะไรกันเจ็บเพียง 10 % จากโลกจริงก็ทำให้ได้เรียนรู้เร็วขึ้น 10 เท่าเลยงั้นเหรอ”

“มันออกจะคุ้มนะนั้น”

“งั้นผมตกลงเลือกรับความเจ็บปวดช่องทางที่ 2 คับ” พงแสดงเจตนาของเขาขึ้นมา ทันใดนั้นเองร่างกายของเขานั้นได้มีแสงสีทองฉายอาบไปทั่วทั้งร่างกาย

“ระบบได้ทำการเปลี่ยนช่องทางการรับการบาดเจ็บให้กับผู้เล่น พงศธรได้เรียบร้อยแล้วค่ะ”

“ขอบคุณคับ” พงกล่าวขอบคุณเอไอสาวออกมาก่อนที่จะกวาดสายตาไปมองเหล่าแร็บบิทเจล ที่กำลังเล็มหญ้าอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนี้ในมือของเขานั้นก็ได้มีเศษหญ้าที่ดึงเอาออกมาในตอนแรกด้วยเช่นกัน

พงก็เลยเดินดิ่งตรงไปหาเจ้าแร็บบิทเจล สีชมพูที่กำลังนั่งเหงาอยู่ตัวเดียวพร้อมกับยื่นเศษหญ้าในมัน

“งั่ม ๆ ๆ ๆ” เมื่อพงยื่นไปให้แล้วนั้นเจ้าแร็บบิทเจล ก็รีบยื่นปากเล็ก ๆ ของมันมางับกินเข้าไปอย่างหิวโหยในทันที

“ค่อย ๆ กินก็ได้นะ”

“ฉันไม่แย่งแกหรอก” พงอมยิ้มขึ้นมาเมื่อเห้นท่าทางการสวาปามของแร็บบิทเจล เบื้องหน้าก็เกิดเอ็นดุขึ้นมาจนเผลอไปลูบหัวมันเบา ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าแร็บบิทเจล สีชมพูตัวนี้ก็ไม่ได้ขัดขืนเขาเลยแม้แต่น้อยเพราะเจ้ามนุษย์เบื้องหน้าของมันนั้นได้เสี่ยงตายไปโดนฝูงของมันรุมโจมตีเพื่อเอาหญ้ามาให้นั้นเอง

“ต่อไปก็โจมตีซินะ” เมื่อเห็นแร็บบิทเจล สีชมพูทานเสร็จแล้วเขาก็พูดลอย ๆ ออกมา นั้นได้ทำให้เจ้าแร็บบิทเจล ตัวดังกล่าวถอยหลังกรูอย่างรวดเร็วราวกับว่าฟังคำพูดของพงออก

“อ่า.....”

“ฉันไม่ได้โจมตีแกหรอกน่า”

“แต่เป็นไอพวกนู้นมากกว่า” เขาพูดจบแล้วนั้นก็วิ่งเข้าไปหาแร็บบิทเจล สีส้มที่ใกล้ที่สุดก่อนที่จะยกขาขึ้นมาเตะป๊าบเข้าให้ราวกับเตะใส่หมาแถวบ้านที่ชอบมาขู่ใส่เขา

“มิ๊วววววววววว” แร็บบิทเจล สีส้มผู้เคราะห์ร้ายได้กระเด็นไปตามแรงเตะของพงก่อนที่จะกลับมาถึงพื้นและแตกระเอียดกลายเป็นเศษเจลในทันที

“ผู้เล่นพงศธรได้ทำการสังหารแร็บบิทเจลสำเร็จได้รับค่าประสบการณ์ 10 จุดค่ะ” เสียงของเอไอสาวได้แจ้งเตือนเขาขึ้นมา พร้อมกับร่างที่กลายเป็นเศษเจลของมันก็ยังไม่หายไปแต่ดันปรากฏไอเทม การ์ด และเศษเจลขึ้นมาบนพื้นดินแทน

“หืมมมมมมม” คนเพิ่งเล่นเกมครั้งแรกแบบพงนั้นไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับศพของเจ้าแร็บบิทเจล ตัวนั้นเขาจึงเดินไปใกล้ ๆ แล้วหยิบเอาการ์ดขึ้นมาดูก็พบว่าในการ์ดใบนั้นมีรูปของแร็บบิทเจล สีส้มอยู่ด้านหน้า และด้านหลังของการ์ดนั้นเมื่อพงพลิกกลับหลังก็ฉายหน้าจอฮาโลแกรมที่เป็นข้อมูลของไอเทมขึ้นมา

การ์ดแร็บบิทเจล

การ์ดระดับ 1 สำหรับติดตั้งลงชุดป้องกันเท่านั้น

เมื่อติดตั้งลงได้แล้วจะดับสกิล แดช

“= =a”

“ชุดป้องกัน......การ์ด......”

“เอ่อ.......ไม่ทราบว่าพอจะอธิบายให้ผมฟังได้ไหมคับ” พงเกาแก้มตัวเองอีกครั้งเพราะไม่เข้าใจลายเอียดไอเทมที่เขาได้รับมา

“ไม่สามารถแนะนำได้ค่ะ เพราะดิชั้นไม่ใช่เอไอส่วนตัวของผู้เล่นพงศธร”

“แต่ดิชั้นสามารถอธิบายการเก็บไอเทมที่ดร็อปมาจากพวกสัตว์กลายพันธุ์แทนได้นะค่ะ”

“เอไอส่วนตัว...........ไอเทมดร็อป”

“มันคืออะไรงั้นเหรอคับ” ทันที่พี่พงถามออกไปเอไอสาวก้ทำหน้าที่อธิบายให้เขาฟังว่า

“เอไอนั้นจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบนั้นก็คือ เอไอนี่คอยแนะนำข้อมูลต่าง ๆ ให้กับผู้เล่นเริ่มต้นอย่างดิชั้น”

“และเอไออย่างที่ 2 คือเอไอประจำตัวของผู้เล่นเองค่ะ ซึ่งจะได้รับหลังจากที่ผ่านการทดสอบก่อนเข้าเกม และสามารถอัพเกรตเพื่อเพิ่มขอบเขตข้อมูลให้กับเอไอได้อีกด้วยค่ะ” เอไอสาวตอบเขาอย่างคล่องแคล่ว นี่คงจะดีไม่น้อยที่ถ้าหากเธอสามารถพูดกับเขาได้นอกเหนือจากการที่ตัวเธอนั้นแนะนำเขาอย่างเดียว เพราะมันทำให้พงรู้สึกเหมือนกับว่าต้องมาฝึกทหารซะมากกว่า ฟังคำแนะนำในเกมเล่นเกมนะเนี่ย

“ส่วนเรื่องไอเทมที่ดร็อปมาจากร่างของสัตว์กลายพันธุ์นั้น หลังจากที่เล่นเก็บไอเทมขึ้นมาแล้วก็ให้เรียกหน้าจอช่องเก็บของมิติขึ้นมาค่ะแล้วโยนไอเทมลงไปได้เลยค่ะ” เอไอสาวกล่าวจบพงก็ลองทำตามดูก็ปรากฏหน้าจอฮาโลแกรมที่มีช่องเล็ก ๆ เรียงกัน 100 ช่องขึ้นมา เขาจึงทดลองเอาการ์ดแล้วก็เศษเจลโยนเข้าไป ของทั้ง 2 นั้นก็ไปปรากฏแทนที่ว่างในช่องไอเทมขึ้นมา 2 ช่อง

“ผู้เล่นพงศธรได้ผ่านการทดสอบทดลองโจมตีแล้วค่ะ”

“การทดสอบต่อไปนั้นขอให้ผู้เล่นพงศธรเลือกอาวุธที่ถนัดด้วยค่ะ” เอไอสาวประกาศแจ้งเขามาอีกครั้งก็ปรากฏอาวุธในเกมพื้นฐานขึ้นมา เป็นส่วนแยก 2 ส่วนขึ้นมาทางหน้าจอฮาโลแกรม ซึ่งมีลักษณะดังนี้

ส่วนแรกนั้นก็คืออาวุธที่มีเครื่องยนต์ติดอยู่

ส่วนที่ 2 นั้นเป็นอาวุธพลังงาน ซึ่งถ้าทำการเรียกใช้ออกมาแล้วนั้นก็จะปรากฏลำแสงขึ้นมาแทนแทนคมของอาวุธนั้นเอง

พงลองใช้อาวุธทุกอย่างไปมาได้ซักพักนึงเขาก็เกิดติดใจเจ้าดาบแสงพลังงานเล่มใหญ่ขึ้นมา เพราะคนที่แต่งาน ๆ ๆ ๆ อย่างเดียวเช่นเขานั้นคงไม่ค่อยได้มีเวลาออกกำลังกายเท่าใดนัก แถมเจ้าอาวุธติดเครื่องยนต์แทบจะทุกชิ้นนั้นมันออกจะหนักเกินไปสำหรับเขาอีกต่างหาก

ส่วนอาวุธพลังงานนั้นแทบจะเรียกได้ว่ามันเบามาก ราวกับถือเพียงท่อนไม้อยู่เท่านั้นเอง ส่วนสาเหตุที่พงเลือกดาบแสงพลังงานเล่มใหญ่นั้นก็เพราะเขาเห็นว่าตัวลำแสงพลังงานของคมดาบนั้นมีลักษณะใหญ่และกว้างพอ ๆ กับขวานลำแสงเลย และแน่นอว่าพงนั้นได้เห็นประโยชน์จากดาบใหญ่ลำแสงเล่มนี้ด้วยว่าจากจากจะใช้โจมตีวงกว้างได้แล้วนั้น ยังสามารถเป็นโล่พลังงานได้อีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากผู้เล่นทั่วไปที่เลือกอาวุธชิ้นนี้เพราะคิดว่ามันเท่ห์

“ผมเลือกอันนี้ก็แล้วกันคับ” พงหยิบเอาด้ามดาบออกมาจากหน้าจอฮาโลแกรมเพราะอาวุธชิ้นสุดท้ายที่เขาทดลองใช้ไปนั้นมันก็คือขวานลำแสงที่พงกำลังลังเลแต่พอเห็นจุดถ่ายโอนพลังงานของขวานพลังงานเพื่อสร้างคมขวานออกมาก็พบว่าอยู่ตรงกึ่งกลางที่ยื่นออกไปของตัวคมหาก ซึ่งถ้าเกิดว่าโดนโจมตีลงจุดนี้แล้วอาวุธชิ้นนี้จะเสียหายทันที

“ผู้เล่นพงศธรได้รับสกิลเริ่มต้นของอาวุธดาบใหญ่ลำแสง”

“ไซเคิ้ล สแลชค่ะ”

“หากผู้เล่นต้องการทราบถึงสกิลที่มีอยู่ให้เปิดหน้าต่าง สกิลขึ้นมาค่ะ” เอไอสาวกล่าวจบพงก็ทำตามในทันที และเมื่อเขาเปิดหน้าจอขึ้นมาแล้วนั้นก็พบว่าตัวเขานั้นมีสกิลอยู่ 2 ชนิด

ซึ่งสกิลแรกก็คือ

10 เท่าของผู้กล้า (สกิลติดตัว)

-ทำให้ค่าประสบการณ์ การเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ และอัตราการดร็อปไอเทมมากขึ้น 10 เท่า แต่ก็ต้องยอมแบกับความเจ็บปวดของจริง 10 % อีกเช่นกัน

ไซเคิ้ลสแลช (สกิลโจมตีแบบเรียกใช้)

-ใช้พลังจิต 20 จุด ในการใช้งาน

-เป็นสกิลโจมตีของอาวุธดาบใหญ่ และ ดาบถือ 2 มือ โดยการโจมตีเป็นวงกว้างกวาดศัตรูโดยรอบตัวขึ้นมา โดยมีรัศมีของสกิลรอบ ๆ ตัวผู้ใช้ 2 เมตร (เนื่องจากผู้เล่นพงศธรมีค่าปัญญาสูงสุดจึงทำให้ไม่มีค่าดีเลย์ในการใช้สกิล)

“เอ๋ ๆ ๆ ๆ ๆ”

“ค่าปัญญาสูงสุดมันคืออะไรคับ” ทันทีที่พงถามออกไปนั้น เอไอสาวก็บอกให้เขาเปิดหน้าจอแสดงสถานะตัวละครขึ้นมาให้ดูแทน และเมื่อพงเปิดขึ้นมาแล้วนั้นเขาก็พบกับหน้าจอของเขาแสดงข้อมูลดังนี้

***เนื่องจากว่าแต่งตอนนี้แล้วเหนื่อยจึงขออู้สรุปค่าสถานะแบบคร่าว ๆ แล้วกันนะครับ****

ชื่อผู้เล่น พงศธร

เลเวล 1

ค่าประสบการณ์สะสม 100/1,000

ค่าพลังต่าง ๆ ของ ตัวละคร

พลังชีวิต 100

พลังกาย 100

พลังเวท 100

พลังจิต 50,000

พลังปัญญา 100,000

ค่าพลังโจมตี

พลังโจมตีกายภาพ 1+100 (จากดาบใหญ่ลำแสง)

พลังโจมตีเวท 1

พลังโจมตีจิต 1+100 (จากดาบใหญ่ลำแสง)

พลังแห่งการรอบรู้ 999,999 (มากที่สุดในเกม) ค่าพลังนี้จะใช้ในการวิเคราะห์ วางแผน ออกแบบ และ ใช้ในการสร้างไอเทมต่าง ๆ ซึ่งเฉลยแล้วว่าหากพงนั้นเล่นสายสร้างไอเทมนั้นคงจะสร้างไอเทมได้ 100 % นั้นเอง แถมค่านี้ยังทำให้สร้างไอเทมได้เร็วขึ้นด้วย

ค่าความต้านทานของตัวละคร

พลังป้องกันกายภาพ 1

พลังป้องกันเวท 1

พลังป้องกันจิต 100

ค่าสถานะรวมของตัวละคร (สเตตัส)

(STR)กำลัง 1

(VIT)ร่างกาย 1

(AGI)ความว่องไว 300 หากมีสมาธิจะเพิ่งเป็นค่าสูงสุดทันที

(DEX)ความแม่นยำ 999 (สูงสุดในเกม)

(INT)ชำนาญเวท 1

(PSY)จิต 555 หากมีสมาธิจะเพิ่งเป็นค่าสูงสุดทันที

(Eru=Erudite)รอบรู้ 999 (สูงสุดในเกม) เป็นค่าที่ลดระยะเวลาดีเลย์หลังใช้สกิล

(Luk) โชค 666 (ลางหายนะชัด ๆ)

ข้อมูลไอเทมสวมใส่

ชื่อ เซโร่เบลด

เลเวล 0

ชนิด ดาบพลังลำแสงขนาดใหญ่

พลังโจมตี 100 จุด

ทักษะที่ติดมากับอาวุธ

-ไซเคิ้ลสแลช

ความสามารถพิเศษของอาวุธ

-สามารถอัพเกรดเพื่อเพิ่มขั้นของอาวุธได้ไม่จำกัด

-สามารถติดตั้งส่วนเสริมและถอดออกได้ โดยจะติดตั้งได้แค่ครั้งละ 1

-หากอาวุธอัพเลเวลจากการอัพเกรด 1 ระดับแล้วนั้นจะทำให้สามารถได้รับสกิลใหม่ได้อีก 1 สกิลอีกด้วย

ขอแต่งเท่านี้ก่อนแล้วกันนะครับ

เล่นเอาเหนื่อยไปเลยกับตอนนี้เพราะว่าต้องคอยคิดหาระบบเกมมาซะก่อน ตอนแรกผมก็จะแต่งแบบว่าแต่ง ๆ ไปก่อนแล้วค่อยอธิบายทีหลัง แต่เห็นแล้วอดไม่ได้ก็เลยมานั่งแก้ใหม่ กลายเป็นจาก 7 หน้าเอ4 ใน MS Word ลากยาวมาถึงเพียงนี้เลย

พระเอกยังโกงไม่หมดนะครับตอนหน้าได้รับชุดเกราะที่เป็นของขวัญตอบแทนเนี่ยโกงกว่านี้อีกนะเอ๊า~

ถ้าชอบก็ไม่ขออะไรมากครับ เพียงแค่คอมเม๊นท์ซักหน่อยก็พอแล้วครับผม

จะพยายามอัพให้ได้วันละตอนนะครับ

Share this post


Link to post
Share on other sites

ตอน2มาไว ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ แต่มาเร็วหน่อยก็ดีเหมือนกัน(จะเอายังไงกันแน่น่ะเรา) :emo (04):

Share this post


Link to post
Share on other sites

ตอนที่ 2.5 ของขวัญจากระบบ

“ไซเคิ้ลสแลช” พงตะโกนเรียกใช้สกิลของเขาออกมาซึ่งดาบลำแสงเล่มใหญ่ในมือนั้นส่วนคมดาบก็เปล่งแสงพลังงานสีเขียวออกมาสว่างวูบ แล้วทันใดนั้นเหล่า แร็บบิทเจล จำนวน 30 กว่าตัวที่ตอนนี้กำลังทั้งป้อมระดมกราดร่างของมันพุ่งเข้าชนเขานั้นก็ได้โดนคมดาบของพงผ่าร่างจนแตกกระจายกลายเป็นวุ้นเลยทีเดียว

“ผู้เล่นพงศธร ได้ผ่านการทดสอบใช้สกิลแล้วค่ะ”

“ดิชั้นจะรอผู้เล่นพงศธรเก็บไอเทมให้หมดก่อนนะค่ะแล้วจะวาปผู้เล่นพงศธรกลับมายังห้องรับรองผู้เล่นใหม่” เสียงของเอไอสาวแจ้งเตือนพงขึ้นมาในขณะที่พงนั้นกำลังยืนตาลายหลังจากใช้ทักษะเสร็จ

ก็จะอะไรซะอีกล่ะเนื่องจากสกิลที่พงเพิ่งใช้ออกไปนั้นมันเป็นสกิลสายจิตที่ต้องใช้ความเร็วสูงในการฟันหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ ซึ่งแน่นอนว่าเขานั้นก็ไม่รู้เลยตัดสินใจใช้สกิลนี้ออกมาโจมตีกวาดเหล่าแร็บบิทเจล ให้สิ้นชีพในครั้งเดียว โดยตอนแรกเขาก็เดินไปดึงหญ้าขึ้นมาจากพื้นในขณะที่พวกแร็บบิทเจลกำลังกินอยู่นั้นแหละ

พวกแร็บบิทเจลก็พากันคลั่งขึ้นมาแล้วตั้งป้อมพุ่งชนใส่เขาพร้อมกัน และในจังหวะนั้นเองพงก็ใช้สกิลนี้ออกมาจึงจัดการเหล่าแร็บบิทเจลที่เข้ามาโจมตีใส่เขาได้หมดไปในครั้งเดียวนั้นเอง

ซึ่งผลลัพธ์หลังจากใช้ทักษะนี้ออกมาแล้วนั้นได้ทำให้ตัวเขาเกิดอาการมึนหัวตาลายขึ้นมาเพราะร่างกายต้องหมุนรอบตัวเอง 1 รอบอย่างรวดเร็ว แถมเขานั้นยังขอรับการเจ็บปวดแบบสมจริงขึ้นมาซะด้วย จึงทำให้อาการเวียนหัวตาลายปรากฏขึ้นมานั้นเอง

5 นาทีต่อมา

“เสร็จแล้วล่ะคับ”

“วาปผมกลับไปได้เล.......”

“อ๊ะเดี๋ยวก่อนนะคับ” ในตอนแรกพงนั้นตัดสินใจที่จะกลับเลยแต่เมื่อเขาเห็นเจ้าแร็บบิทเจลสีชมพูที่เหลืออยู่ตัวเดียวในทุ่งหญ้าแห่งนี้นั้นก็เดินเข้าไปใกล้ ๆ มัน

“ขอโทษนะที่ฉันฆ่าฝูงของแกหมด”

“แต่ว่ามันจำเป็นจริง ๆ”

“แล้วนี่ก็เป็นหญ้าที่ฉันเผอิญถางมาได้โดยบังเอิญ........” พงพูดจบเขาก็เรียกหน้าจอช่องเก็บของออกมา แล้วนำกองหญ้า 20 กว่ากองที่โดนผลของสกิลไซเคิ้ลสแลชถางมันออกมาจากพื้นดินด้วยความบังเอิญวางเอาไว้ตรงหน้าของแร็บบิทเจลสีชมพู

แถมเขานั้นก็นึกขำอยู่ในใจว่าแค่ความบังเอิญต้น ๆ แบบนี้เนี่ยมันทำให้เขาได้รับสกิลใหม่มาอีก 1 สกิลนั้นก็คือสกิลหาสมุนไพรนั้นเอง

“ฉันไปแล้วล่ะนะรักษาตัวด้วยล่ะ” พงกล่าวลามันโดยที่มองแร็บบิทเจลสีชมพูเดินมาดม ๆ แถว ๆ กองหญ้าที่เขาวางไว้ ก่อนที่เขาจะบอกกับเอไอสาวอีกครั้งว่า

“ขอโทษนะคับเสร็จแล้วล่ะ”

“วาปผมกลับได้เลยคับ”

“ค่ะกำลังกำเนินการวาปให้ค่ะ” เอไอสาวพูดจบก็มีลำแสงสีขาวปรากฏมาจากใต้เท้าของพงขึ้นมา ก่อนที่อยู่ ๆ ลำแสงเหล่านั้นจะห่อหุ้มร่างของพงเอาไว้

และในระหว่างที่พงนั้นกำลังจะถูกวาปกลับไปนั้นเองเจ้าแร็บบิทเจลนั้นก็กระโดดเข้ามาหาเข้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับโดนวาปกลับไปยังห้องรับรองผู้เล่นใหม่ด้วย

เมื่อร่างของพงนั้นมาถึงห้องรับรองอีกครั้งเขาก้ต้องตกใจเล็กน้อยที่ตอนนี้เจ้าแร็บบิทเจลสีชมพูนั้นเกาะขาเขาอยู่

“อ่า...ตามฉันมาด้วยเหรอเนี่ย” พงหันไปพูดกับมันครู่นึงแหละเหมือนว่ามันจะเข้าใจที่เขาพูดมันก็กระโดดมาอยู่ด้านหน้าเขาด้วยร้องเสียงดังออกมาอย่างน่ารัก

“มิ๊ววววววววววว”

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นพงศธรด้วยนะค่ะ”

“ที่ทำให้ แร็บบิทเจล สีชมพูยอมรับได้”

“ผู้เล่นพงศธรได้รับแร็บบิทเจลสีชมพูเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วค่ะ” เอไอสาวเดินเข้ามาใกล้ ๆ พงก่อนที่จะเห็นร่างของแร็บบิทเจลสีชมพูชัด ๆ เธอก็ถึงกับชะงักกึกไป

“ผมเนี่ยนะได้เจ้าเมโล่เป็นสัตว์เลี้ยงน่ะ” แม้จะตอบด้วยอาการตกใจ แต่ตัวเขานั้นก็ตั้งชื่อให้มันไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีหน้าจอจากระบบเด้งขึ้นมาให้เขานั้นตั้งชื่อให้กับแร็บบิทเจลสีชมพู

“...................” แต่เหมือนเอไอสาวนั้นจะเหม่อลอยไปครู่นึงแถมยังจ้องร่างของเมโล่ไม่วางตาอีกซะด้วย

พงเมื่อเห็นอาการของเธอแล้วนั้นเขาก็ต้องอมยิ้มน้อย ๆ ออกมาก่อนที่จะพูดต่อขึ้นมาว่า

“จะอุ้มก็ได้นะคับพี่สาว” ทันทีที่พงพูดจบเอไอสาวก็มีสีหน้าแดงปรากฏขึ้นมานิด ๆ ที่พวงแก้มของเธอ

“ดะ.........ได้เหรอค่ะ........” เธอหันมาขอคำยืนยันจากเขาอย่างเกรงใจ

“ช่วยหน่อยนะเมโล่” เพียงแค่พงพูดออกไปเจ้าเมโล่ก็เหมือนจะรู้งานมันรีบกระโดดดึ๋ง ๆ ไปนั่งบนตักของเอไอสาวในระหว่างที่เธอกำลังนั่งย่อตัวก้มลงมา

“น่ารัก...........” เอไอหยิบร่างของเมโล่ขึ้นมาอย่างแผ่วเบาราวกับกลังว่าตัวมันนั้นจะแตกสลาย

“อ๊ะ !!!”

“นี่คือของรางวัลที่ทางระบบมอบให้กับผู้เล่น พงศธร ค่ะ” หลังจากรับเมโล่ขึ้นมาอุ้มแล้วนั้นเอไอก็เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองลืมบอกเรื่องสำคัญออกมาเธอจึงหยิบเอากล่องขึ้นมาให้เขา 2 กล่อง ซึ่งมีขนาดพอดีกับฝ่ามือของพง

“ขอบคุณคับ” พงรับมาอย่างว่าง่ายก่อนที่เขานั้นจะเปิดกล่องแรกออกมาเลย

และเมื่อเขาเปิดออกมาแล้วนั้นก็ได้มีชุด ๆ นึงปรากฏลอยขึ้นมาตรงหน้า ซึ่งชุดที่เขาเห็นนั้นมันเป็นแทบจะหมดทั้งตัวเลยทีเดียว ซึ่งประกอบไปด้วย

-ที่รัดผมหยกสีนิล

-เกราะแขนสีแดงดูทรงพลัง

-เสื้อโค๊ดแขนสั้นแบบสวมใส่ด้านนอกที่มีเกราะไหล่สีเงิน

-เสื้อยืดคอเต่าสีดำแขนยาวที่ดูแปลก ๆ ว่ามันจะหุ้มไปถึงมือของเขาแต่มีช่องให้ยื่นนิ้วโผล่ออกมาทั้ง 5 นิ้ว

-สร้อยคอที่มีสายสร้อยเป็นเงินแท้ และมีอัญมณีสีม่วงห้อยอยู่เป็นจี้

-เข็มขัดสีเงินที่มีหัวเข็มขัดเป็นรูปฟันเฟือง และสายรัดสีขาวที่ไขว้กันเป็นรูปกากบาท 2 เส้นล้อมรอบเข็มขัดอีกที

-กางเกงหนังรัดรูปสีดำ

-สนับแข้งสีเงิน ที่มีความยาวตั้งแต่หัวเข่าลงมาถึงข้อเท้า

-รองเท้าเกราะสีดำที่มีรวดลายสลักเอาไว้ตรงตาตุ่มเป็นรูปปีกทั้ง 2 ข้าง”

“อ่า.........แล้วผมจะใส่ยังไงล่ะนั้น” พงหันเกาหัวตัวเองก่อนที่จะหันไปถามเอไอสาวที่กำลังหยอกล้อเล่นกับเมโล่ด้วยท่าทางสนุก เพราะในตอนนี้ชุดที่เขาใส่อยู่นั้นมันเป็นเพียงชุดคนไข้ในโรงพยาบาลเท่านั้น

“หรือว่าต้องถอด..........” เพียงแค่พงพูดคำว่าถอดลอย ๆ ออกมาเท่านั้นชุดผู้ป่วยที่ตัวเขาสวมใส่อยู่ก็ถอดออกมาในทันที แต่ทางระบบของเกมนี้นั้นก็ไม่ได้โหดร้ายกับเขาจนเกิดไปนักเพราะมันยังมีกางเกงบ็อกเซอร์สีดำตัวหนึ่งสวมใส่อยู่ตรงท่อนล่างของเขา

“ถ้าหากผู้เล่นจะทำการสวมใส่ชุดใหม่นั้นให้ทำการสัมผัสกับ............”

“ว๊ายยยยยยยยยย” แต่ในระหว่างที่เอไอสาวกำลังอธิบายแล้วหันหน้าไปบอกกับพงนั้นเองอยู่ ๆเธอก็กรีดร้องสุดเสียงออกมาด้วยใบหน้าแดงจัดจนทำให้คนถูกมองนั้นก็อายแทนตามไปด้วยเขาจึงได้ใช้ 2 มือของเขามากุมของสงวนของตัวเองเอาไว่ทันที

“ขะขอโทษนะคับ”

“แต่พอผมพูดว่าถอดอยู่ ๆ ชุดที่ผมใส่มาตอนเข้าเกมก็..........”

“เดี๋ยวนะคับเมื่อกี้พี่สาวบอกผมว่าไงนะ”

“ให้เอามือไปสัมผัสกับชุดที่ใส่ใช่ไหม” แม้จะตกใจและประหม่ามากเพียงใดแต่เขาก็มีสติที่ดีอยู่ เขาจึงคว้าเอาชุดที่ลอยเด่นอยู่เบื้องหน้ามาบังร่างกายของเขาเอาไว้

“ผมจับชุด ๆ นี้แล้วล่ะคับ”

“แล้วให้ทำไงต่อคับพี่สาว” พงเอ่ยปากถามออกมาอย่างร้อนใจในทันที เพราะในสถานการณ์ที่ล่อแหลมเช่นนี้นั้นเขาก็ไม่อยากจะอยู่นาน ๆ เหมือนกัน

“ค่ะ”

“ผู้เล่นแค่พูดว่าสวมใส่ก็ใช้การได้แล้วค่ะ” เอไอสาวกล่าวเสร็จพงก็รีบทำตามในทันที

“สวมใส่” ทันใดนั้นชุดที่เขาถืออยู่ก็ส่องแสงจาง ๆ ครู่นึงแล้วก็หายเข้าไปในร่างกายของพงแล้วสวมใส่ใส่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว

“โล่งอกไป..........”

“หันมาได้แล้วล่ะคับผมใส่เรียบร้อยแล้วล่ะ” พงตะโกนเรียกให้เอไอสาวนั้นหันมาทางเขาซึ่งเธอก็ได้หันมามองเขาอีกครั้งนึง แต่ในครั้งนี้นั้นเธอกลับหน้าแดงวูบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุอีกครั้ง

เพราะเบื้องหน้าของเธอนั้นจากตอนแรกที่พงดูเหมือนคนโรคจิตผมฟูสวมใส่กางเกงตัวเดียวเหมือนคนโรคจิตนั้น กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะภาพของพงในตอนนี้นั้นเป็น ชายหนุ่มวัยรุ่นที่ส่วนสูงพอดี ร่างกายก็ไม่ถึงกับบึกบึนมากนักแต่ดูไม่ยอมมาก แล้วที่สำคัญผมเผ้าที่ยุ่งเหยองในตอนแรกนั้น กลับกลายเป็นผมสั้นธรรมดา ๆ ที่โดนหยกรัดผมนั้นรวมเอาไว้ไปด้านหลังจนยาวเหมือนกับผมที่ผูกเอาไว้ และยาวลงไปถึงกลางหลังอีกด้วย ใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ตอนแรกถูกผมรก ๆ นั้นปกปิดเอาไว้ก็เผยขับเด่นออกมาจนคล้ายกับเป็นชายหนุ่มหน้าใสคนหนึ่งที่มีผมสาวมัดเอาไว้เป็นเส้นเล็ก ๆ ยาวลงมาถึงเอว

“หว๋า............”

“ผมเราตอนแรกถึงจะดูฟูไม่เป็นทรงก็เถอะ”

“แต่ไหงพอรัดกับหยกรัดผมแล้วถึงยาวลงมาได้แบบนี้ล่ะเนี่ย” พงเองก็รู้ว่าส่วนที่งอกยาวลงมาจนผิดปกติของเขานั้นทำให้เขาต้องร้องเสียงหลง เขาจึงรีบเรียกเอาซีโร่เบลดออกมาแล้วใช้มืออีกข้างถือผมที่ยาวงอกมาจนผิดปกติแล้วทำท่าจะตัดมาออกไป

“เดี๋ยวค่ะ” แต่อยู่ ๆ เอไอสาวก็รีบวิ่งมาคว้ามือของเขาเอาไว้ แถมเจ้าเมโล่เองก็ทำเหมือน ๆ กับเอไอสาวด้วยเช่นกัน โดยที่มันนั้นกระโดดมากอดห้อยแขนของพงข้างที่กำลังจับเส้นผมเอาไว้อยู่

“มิ้วววววววววววว” แต่เจ้าเมโล่นั้นยังร้องห้ามเขาออกมาด้วยเสียงร้องของมันซะด้วย

“อ่า.............”

“ทำไมเหรอคับ” พงหันไปถามด้านซ้ายขวาของเขาอย่างแปลกใจขึ้นมา

“ปล่อยเอาไว้ดิชั้นว่าจะดูดีกว่านะค่ะ” เพียงเอไอสาวพูดออกมาเจ้าเมโล่ที่เกาะแขนเขาห้อยโตงเตงอยู่นั้นก็พยักหน้าเห็นด้วยคอแทบหลุด

“ก็ได้คับ” พงเลยเก็บดาบกลับเข้าไปแต่ทว่ามันกลับไม่ได้หายเข้าไปในช่องเก็บไอเทม

แต่แล้วก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นมาเมื่อด้ามดาบลำแสงของเขานั้นเกิดมีแสงสว่างขึ้นมาแล้วเกิดแยกเป็น 2 อัน ก่อนที่จะลอยกลับเข้าไปในเกราะแขนทั้ง 2 ข้างของเขา

“เอ๋”

“อย่าบอกนะคับว่าชุดเกราะของผมนั้นมันกินอาวุธได้ด้วย”

“แถมยังแยกเป็น 2 ชิ้นได้อีก” พงพูดขึ้นมาติดตลกเพราะดูเหมือนว่าเอไอสาวนั้นก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้เช่นกัน เขาเองก็รู้คำตอบอยู่แล้วว่าถ้าหากจะทราบถึงไอเทมที่ตัวเองสวมใส่อยู่นั้นควรทำอย่างไร เขาจึงเปิดหน้าต่างสถานะตัวละครขึ้นมาแล้วก็พบว่าส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของเขาที่ตอนแรกมีเพียงดาบเซโร่เบลดใส่อยู่นั้นกลายเป็นว่ามีอุปกรณ์ต่าง ๆ สวมใส่ร่างกายของเขาเต็มไปหมด

แต่พงก็หาได้สนใจไม่เขาเลยรีบเรียกดูข้อมูลไอเทมที่เขาสวมใส่ดูนั้นก็พบว่ามีข้อมูลดังนี้

อุปกรณ์สวมใส่

ชื่อ เกราะแห่งผู้ครอบครอง (1 ใน 3 พลังสูงสุดของนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบGOD สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ต้านทานพลังของ GOD) ภายในชุดจะประกอบไปด้วย

-หยกรัดผม อีโวลูชั่น แห่งผู้ครอบครอง

-เสื้อคลุม เอมพริเบียส แห่งผู้ครอบครอง

-เสื้อ ดาร์ดสปิริท แห่งผู้ครอบครอง

-เกราะแขน ทรานซ์มูท แห่งผู้ครอบครอง

-เกราะไหล่ ทรานซ์เฟอร์ แห่งผู้ครอบครอง

-จี้อัญมณี แมกซิมั่ม โปรเซสซิ่ง แห่งผู้ครอบครอง

-กางเกง ดาร์ค สปีริทแห่งผู้ครอบครอง

-สนับเท้า ซิลเวอร์ รัช แห่งผู้ครอบครอง

-รองเท้าวิงโรดแห่งผู้ครอบครอง

ประเภท

-ชุดป้องกัน+อาวุธ

เลเวล

-0

พลังป้องกันรวม (ป้องกันพลังกายภาพ จิต เวท)

-1

ชนิด

-ไอเทมส่วนบุคคล

คุณสมบัติ

-ไม่มีวันเสียหาย

ความสามารถพิเศษ+ข้อจำกัด

-สามารถใช้แร่ขั้นสูง อาลูก้อน ในการอัพเกรดได้เท่านั้น โดยการอัพเกรดนั้นจะเพิ่มเลเวลเกราะให้สูงสุดที่ 7 โดยแต่การอัพเกรด แต่ละเลเวลนั้นจะใช้แร่ตามจำนวนของเลเวลในการอัพเกรด เช่น อัพเกรดไปเป็นเลเวล 1 ใช้ 1 ก้อน ไปเลเวล 2 ใช้ 2 ก้อนเป็นต้น และ การอัพเกรดแต่ละเวลนั้นจะเพิ่มพลังป้องกันรวม 10 เท่า และ ถ้าอัพเกรดไปเป็นเลเวล 7 สุดท้ายแล้วนั้นจะเพิ่มค่าพลังป้องกันรวมเป็น 999,999 (เป็นค่าสูงสุดในเกม)

-สามารถใช้ แร่ผลึก พลอย เพชร อัญมณี ในการเพื่อเสริมความสามารถให้กับเกราะได้ไม่จำกัด

***ด้วยที่ไม่อยากจะอธิบายย้อนจึงขออธิบายวัตถุดิบในการเสริมความสามารถ หรือ ออฟชั่น ได้ดังนี้ โดยไอเทมต่าง ๆ ในเกมนั้นจะมีระดับ (เลเวล) เพียง 7 ระดับเท่านั้น

แร่ผลึก ใช้ในการ เพิ่มพลังป้องกัน และโจมตีทางกายภาพ

พลอย ใช้ในการเพิ่งพลังโจมตี และ ป้องกัน เวทมนต์

เพชร ใช้ในการเพิ่มพลังโจมตี และ ป้องกัน จิต

อัญมณี เป็นไอเทมล้ำค่า ที่จะสุ่มตกจากบอสเท่านั้น ซึ่งจะเพิ่ม ค่าพลัง จิต กาย เวท มหาศาล และยังได้รับสกิลลับ และ สกิล พิเศษต่าง ๆ และออฟชั่นแบบพิเศษอีกด้วย

อาลูก้อน แร่ที่ล้ำค่ามากที่สุดในเกมเช่นเดียวกับอัญมณี ถ้าหากนำมาอัพเกรตไอเทมแล้วนั้นจะเพิ่มเลเวลของไอเทมเป็น 1 เลเวลทันที***

สกิลที่ติดมากับชุด

ประจุศาสตรา ขั้นสูงสุด (แบบเรียกใช้)

-เสริมใส่พลังออฟชั่นของเกราะแห่งผู้ครอบครองลงในอาวุธชั่วคราวขณะใช้อยู่ ทำให้สกิลสนับสนุนของเกราะนั้นเป็นการใช้โจมตี

ผนึกศาสตรา (กึ่งอัตโนมัติ)

-เรียกเก็บอาวุธลงในช่องเก็บอาวุธของเกราะแขนได้ทันทีและบังคับโดยหากทำการจัดเก็บครั้งแรกนั้นจะทำให้เพิ่มอาวุธ เป็น 2 ชิ้นในทันที ซึ่งไอเทมนั้นหลังจากทำการผลึกลงไปในเกราะแขนแล้วนั้นจะกลายเป็นไอเทมส่วนบุคคลในทันที ยกเว้นเงื่อนไขพิเศษ (ช่องเก็บอาวุธในเกราะแขนนั้นสามารถเก็บได้ไม่จำกัด)

แบล็คโฮล (สกิลติดตัว)

-เมื่อสังหารสัตว์กลายพันธุ์ และ มีไอเทมดร็อปออกมานั้นจะเข้าไปยังช่องไอเทมในทันที โดยจะมีเสียงแจ้งเตือนจากเอไอส่วนตัวอีกที

มือแห่งผู้ครอบครอง (สกิลติดตัว)

-สามารถอัพเกรดไอเทมได้เลยโดยไม่มีเงื่อนไข (เพราะต้องใช้สกิลของอาชีพช่างทำอาวุธ)

-สามารถทำการ สร้าง ดัดแปลงแก้ไข ซ่อมแซม แยกชิ้นส่วน ไอเทมได้ทันที โดยใช้ค่าพลัง ปัญญา ได้เลยโดยไม่มีเงื่อนไข (เพราะต้องใช้สกิลของอาชีพนักพัฒนาไอเทม) และ จะทำได้สำเร็จ 100 % ด้วย

-ในขณะที่ถืออาวุธอยู่นั้นจะได้รับการซ่อมแซมอัตโนมัติ โดยที่ไม่มีวันพัง

ปัญญาแห่งผู้ครอบครอง (สกิลติดตัว)

-เข้าใจถึงโครงสร้างของไอเทมทันทีที่สัมผัส

-วิเคราะห์การ บัญชาการ เคลื่อนไหวของผู้เล่น และสัตว์กลายพันธุ์ได้ด้วยความเข้าใจเพียงการมองเห็นเพียงครั้งเดียว

-มีความชำนาญในการใช้อาวุธสูงสุด โดยไม่มีเงื่อนไข (เพราะต้องใช้สกิลของอาชีพนักรบ)

-สามารถเข้าใจในสกิลต่าง ๆ ได้ทุกสกิล และใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถจดจำสกิลได้ด้วยการมองเห็นเพียงครั้งเดียว

-หลังจากต่อสู้ชนะหรือสังหารฝ่ายตรงข้ามได้แล้วนั้นจะปรากฏข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาทันที (โปรดเรียกหน้าจอพิเศษ ปัญญาแห่งผู้ครองครองเพื่อเรียกดู)

พรสววรค์ประดิษฐ์ (สกิลติดตัว)

-หลังจากทำการเพื่อออฟชั่นให้กับอาวุธแล้วชุดป้องกันด้วยอัญมณีแล้ว จะสามารถสร้างสกิลโจมตีได้ 1 สกิล โดยต้องใช้สกิลทั้งหมดในตัวในการเรียบเรียงและสร้างใหม่ขึ้นมา

ท่าร่างของผู้ครอบครอง (สกิลติดตัว)

-เพิ่มความเร็วในการการโจมตี และเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ โดยถ้าหากต้องการเคลื่อนไหวบนอากาศนั้น วิงโรดจะทำการเรียกปีกแห่งผู้ครอบครองออกมาและลดพลังแห่งปัญญา 1 จุดทุก ๆ 1 วินาทีในขณะที่เรียกปีกแห่งผู้ครอบครอง

“หือออออออออ”

“เราเองก็ฟื้นฟูระบบให้กับบริษัทผู้ให้บริการเกม ๆ นี้แล้วก็ได้เงินเดือนอยู่แล้ว”

“ไม่น่ามาตอบแทนให้กันแบบนี้เลยแฮะ” พงเกาแก้มตัวเองก่อนที่จะย่อยลายละเอียดของเกราะที่เขาได้รับมาลงไปในสมอง แล้วหันไปมองอีกกล่องนึงใกล้ ๆ แล้วเขาก็ทำการเปิดมันขึ้นมา

“วิ้งงงงงงงงงงงงง”

“แว่บบบบบบบบบบบบบบบบ” ทันทีที่พงเปิดกล่องออกมาแล้วนั้นเขาก็ต้องพบกับแสงสว่างสีทองสว่างวูบขึ้นมาจาก อัญมณีชิ้นหนึ่งที่มีรูปร่างคล้าย ๆ กับ รัศมีของพระอาทิตย์สีส้มลอยออกมาจากกล่องแล้วตกลงสู่มือของพง เขาก็รีบเปิดดูค่าความสามารถของไอเทมชิ้นนี้ในทันที

อัญมณีดาวสุริยะ (Sun Jewel)

- 1 ในอัญมณีแห่งระบบสุริยะจักรวาลอันมีด้วยกัน 9 ชิ้นได้แก่

อัญมณีดาวสุริยะ (Sun Jewel), อัญมณีดาวอังคาร (Mars Jewel), อัญมณีดาวพุธ(Mercury Jewel),อัญมณีดาวพฤหัสบดี( Jupiter Jewel), อัญมณีดาวศุกร์ (Venus Jewel), อัญมณีดาวเสาร์ (Satuen Jewel),อัญมณีดาวโลก(Earth Jewel),อัญมณีดาวยูเรนัส(Uranus Jewel),อัญมณีดาวพลูโต(Pluto Jewel)

-อัญมณีดาวสุริยะ (Sun Jewel) มีพลังแห่งการ ฟื้นฟู เพิ่มพูน และ ธาตุไฟผสมธาตุแสง ซึ่งหากหล่อหลอมเข้ากับอาวุธจะได้รับพลังโจมตีรวมและอาวุธจะกลายเป้นธาตุแสงและไฟธาตุไฟ และ หากใช้หล่อหลอมกับเครื่องป้องกันจะได้รับ การปกป้องจากธาตุไฟ และเพิ่มค่าพลังชีวิต ซึ่งออฟชั่นพิเศษ และ สกิลลับหลังจากหล่อหลอมนั้นทางระบบจะประมวลผลจากผู้ใช้เองอัตโนมัติ หากผู้ถือครองตายจะทำการดร็อปไอเทมชิ้นนี้ออกจากร่างโดยอัตโนมัติ

“ดีขนาดนี้เลยแฮะ”

“แต่พอตายแล้วก็เสียมันไปซินะ” พงพูดกับตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจหยิบเอา อัญมณีดาวสุริยะขึ้นมาแล้วลองใช้สกิลติดตัวของเขาคือ มือของผู้ครองครองทำการยัด อัญมณีชิ้นนี้ลงไปในชุดของเขา

“วิ้งงงงงงงงงงง”

“แว่บบบบบบบบบบ” ทันที่เขาใส่มันลงไปแล้วนั้นก็เกิดมีแสงสว่างสีทองสว่างวูบไปทั่วทั้งชุดก่อนที่อยู่ ๆ มันจะดับวูบลงไป

“อ้าวอลังการแค่ตอนยัดลงชุดเกราะแค่นี้เองเหรอ”

“ไม่เห็นมีอะไรเลยแฮะ” พงสำรวจร่างกายของเขาก็ไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลง จนเอไอสาวนั้นต้องเดินมาบอกเหตุผลกับเขาว่า

“เนื่องจากผู้เล่นพงศธรยังไม่มีเอไอส่วนตัวค่ะจึงยังไม่มีเสียงแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา”

“ถ้าไม่รบกวนดิชั้นจะขอแจกแจงสิ่งที่ผู้เล่นพงศธรได้รับมาแล้วกันนะค่ะ” เอไอสาวถามจบก็รอพงที่กำลีงหมุนตัวไปมาราวกับกำลังสำรวจร่างกายของเขาดู

“อ๊ะ”

“อ๋อ เชิญเลยคับ” เหมือนจะรู้ว่าปล่อยให้เอไอสาวคอยพูดอยู่เขาจึงรีบตอบรับทันที

“ค่ะ”

“ผู้เล่นพงศธรได้รับสกิล ร่างสุริยัน / สกิล สุริยันสาดส่อง ค่ะ /สกิล สุริยะจักรวาล”

“และเนื่องจากความสามรถของเกราะผู้ครอบครอง ผู้เล่นสามารถสร้างสกิลโจมตีได้อีก 1 สกิลค่ะ” หลังจากเอไอสาวกล่าวจบเขาก็ลองเปิดหน้าจอขึ้นมาดูอีกครั้งนึง ก็มีรายละเอียดสกิลมาใหม่ 4 สกิล

ร่างสุริยัน เลเวล 0 (แบบเรียกใช้)

-หลังจากใช้สกิลนี้ขึ้นมาแล้วร่างกายของผู้ใช้นั้นได้รับ การฟื้นฟูค่าพลังต่าง ๆ จนเต็ม และ ได้รับ ออร่า แห่งสุริยัน พร้อมกับใช้ใช้สกิล แฟลช (ทำให้ตาบอด) โดยอัตโนมัติ ผลของสกิลนี้ จะ เพิ่มอัตราการฟิ้นฟูพลังพิเศษต่าง ๆ วินาทีละ 100 จุด ยกเว้นพลังแห่งปัญญา เพิ่มพลังโจมตีรวม (กาย จิต เวท) ขึ้นอีก 1000 จุด ในขณะที่ยังอยู่ในผลของ ร่างสุริยัน โดยจะลดพลังแห่งปัญญาลงทุก ๆ 100 จุด ในเวลา 1 นาที

สุริยันสาดส่อง (แบบนับจำนวนการใช้ต่อวัน)

-ส่องส่องออร่าแห่งสุริยันไปทั่วเพื่อเพิ่มพลังโจมตี และอัตราการฟื้นฟูค่าพลังต่าง ๆ อีก 50 % ให้แก่ตนเอง เป้าหมาย และ สมาชิกในทีม (ปาร์ตี้) หากใช้กับสมาชิกในทีมนั้นจะไม่จำกัดระยะอีกด้วย

สุริยะจักรวาล

-เตือนผู้ใช้ให้ทราบถึงการคงอยู่ของอัญมณี จักรวาลชนิดอื่น ๆ

สกิลประดิษฐ์ (รอการสร้างจากผู้เล่น)

-สามารถนำสกิลต่าง ๆ ทั้งหมดมาสร้างเป็นสกิลโจมตีได้

“นั้นไง”

“ดูท่าจะดีจริง ๆ ด้วยแฮะ” พงมองดูสกิลของเขาจบลงไปแล้วนั้นก็ต้องทำหน้าเหวออกมาเพราะเขานั้นมีเจตนาเพียงแค่มาพักผ่อนไม่ได้อยากจะไปต่อสู้อะไรกับใคร แถมเขานั้นยังได้ใช้ อัญมณี ดาวสุริยะไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย สงสัยว่าคนที่อยากได้มันมาเพื่อทำให้ตัวเองเก่งขึ้นนั้นคงจะพากันอยากจะด่าเขาเป็นแน่นอน

“ผู้เล่นพงศธรผ่านการทดสอบก่อนเข้าเล่นเกมทั้งหมดแล้วค่ะ”

“หากเข้าไปในเกมแล้วกรุณาไปยังอาคารแนะนำผู้เล่นภายในเมืองบอร์นทาวน์ด้วยน่ะค่ะ”

“เพื่อเข้าไปรับเอไอระบบเป็นของตัวเองแล้วก็เข้ารับไอเทมช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยค่ะ”

“ไม่ทราบว่าผู้เล่นจะทำการเข้าไปเล่นเกมในทันทีหรือไม่ค่ะ”

“ดิชั้นจะได้ทำการวาปผู้เล่นไปในทัน.....ที” ในระหว่างที่เอไอสาวกำลังพูดอยู่นั้นเองพงสังเกตได้ว่าตัวเธอนั้นเกิดนิ่งสงบลงเล็กน้อยแถมแววตานั้นยังแสดงออกมาได้ถึงความเศร้าสร้อยอีกต่างหาก ใช่แล้ว.........มันเป็นแววตาแบบเดียวกันกับที่เขาเจอเจ้าเมโล่ตอนแรกก็ไม่ปาน

“อ่า.........โน.........”

“คือว่าตัวผมเองก็อาจจะเข้ามาเล่นเกมเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อพักผ่อนก็ได้อ่ะคับ”

“ถ้าเกิดว่าไม่กลัวว่าจะเบื่อจะตามผมมาไหมคับ” อยู่ ๆ พงกลับเอ่ยปากชวนเธอให้ไปกับเขา ที่เขาทำแบบนี้นั้นก็เพราะว่า ในตอนที่เขากำลังฟื้นฟูระบบให้กับเกมอยู่นั้นเขาก็ต้องพบว่า ทางบริษัทมีนโยบาย เปลี่ยนเอไอแนะนำผู้เล่นใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเอไอนั้นติดบัคของระบบเนื่องจากเป็นข้อมูลเก่าที่เก็บเอาไว้เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร

แล้วไอนโยบายที่ว่านี้ก็คือหากเอไอแนะนำผู้เล่นนั้นเสร็จหน้าที่แล้วก็จะทำการวาปส่งผู้เล่นไปยังเมืองแรกเริ่ม และตัวของพวกเธอนั้นก็จะถูกลบออกไปจากเกมในทันที พงที่รู้อยู่แล้วว่าไหน ๆ เธอก็จะโดนลบอยู่แล้ว แถมเขาเองก็ยังไม่ต้องลำบากไปอาคารแนะนำผู้เล่นใหม่อีก เนื่องจากตัวเธอนั้นพอจะแนะนำเขาได้อยู่แล้ว

แต่พงหารู้ไม่ว่าเขากำลังจะสร้างเรื่องยุ่งยากให้กับตัวเองขึ้นมา ซะแล้ว

“ขอดิชั้นติดต่อไปทางระบบซักครู่นะค่ะ” เอไอสาวขออนุญาตพงก่อนที่เธอจะหลับตาลงครู่นึงแล้วก็ลืมตาขึ้นมาแล้วบอกับเขาว่า

“ได้ค่ะ”

“ทางระบบอนุญาตให้ดิชั้นเป็นเอไอส่วนตัวของผู้เล่นพงศธรได้ค่ะ”

“ขอบคุณนะค่ะที่ไม่ทำให้ดิชั้นกลายเป็นข้อมูลที่ถูกลบ” เอไอสาวยิ้มขึ้นมาให้กับพงซึ่งทำให้เขานั้นเกิดอาการอึ้งไปซักครู่นึง เพราะว่าใบหน้านิ่ง ๆ ของเธอนั้นยามยิ้มกลับดูทำให้เธอนั้นงดงามราวกับเทพธิดาก่อนที่อยู่ ๆ ร่างของเอไอสาวตรงหน้าจะกลายเป็นละอองแสงสีฟ้าแล้วลอยเข้าหาตัวของพง

“นายท่านได้ดิชั้นเป็นเอไอส่วนตัวแล้วค่ะ”

“กรุณาตั้งชื่อให้ดิชั้นด้วยได้ไหมค่ะ”

พงเกิดอาการสะดุ้งอีกครั้งเพราะเขานั้นไม่เข้าใจว่าอลิซหายไปไหน แต่เขานั้นยังได้ยินเสียงของเธออยู่เหมือนกับการทดสอบการโจมตี

“อืมมมมมมมมม”

“งั้นเอาเป็นอลิซดีไหมคับ”

“ผมเอามาจากนิทานที่ฟังตอนเด็ก ๆ เรื่องอลิซกับดินแดนลึกลับน่ะคับ” พงลองถามเอไอสาวกลับไปดูก็เหมือนได้ยินเสียงแว่ว ๆ มาว่า

“ดีใจจังเรามีชื่อแล้ว..........”

“อะไรนะคับ”

“หรือว่าไม่ชอบ” พงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามเอไอสาวขึ้นมาอีกครั้งนึง

“ชอบซิค่ะ”

“เป็นชื่อที่นายท่านตั้งมาให้อลิซแล้วอลิซจะไม่ชอบได้ยังไงล่ะค่ะ” น้ำเสียงของอลิซที่พูดออกมาตอนนี้ดูสดใสและเป็นกันเองมากขึ้นจึงทำให้พงนั้นเผลอยิ้มออกมาเบา ๆ

“ถ้าเช่นนั้นตอนนายท่านไปถึงเมื่อบอร์นทาวน์แล้วขอให้ไปยังอาคารแนะนำผู้เล่นเพื่อรับโปรแกรมติดตั้งให้กับอลิซด้วยนะค่ะ” ทันทีที่อลิซกล่าวจบนั้นพงก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้งนึงแล้ว

“อ้าวก็อลิซออกจะรอบรู้ซะขนาดนี้ผมว่าไม่ต้องก็ได้มั้งคับ” พงลองถามออกไปดูก็ต้องพบกับคำตอบของอลิซที่ว่า

“ตอนนี้อลิซกลายเป็นเอไอส่วนตัวของนายท่านแล้วค่ะ”

“ทำให้ข้อมูลที่นอกจากที่เกี่ยวกับนายท่านแล้ว”

“อลิซไม่รู้อะไรเลยค่ะ” เสียงของอลิซฟังดูหม่นหมองลงอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรคับ” ๆ

“ผมเองก็แค่ขี้เกียจเดินไปเท่านั้นเองคับ”

“ถ้างั้นวาปผมไปในเกมได้เลยคับ” เมื่อเห็นเสียงของอลิซดูเศร้าลงไปแล้วนั้นเขาก็พยายามเปลี่ยนเรื่องทันที โดยที่ในตอนนี้มีแสงวาปสีขาวสว่างขึ้นมาคลุมร่างของเขาเอาไว้ก่อนที่จะทำการพาเข้าไปยัง บอร์นทาวน์เมืองแห่งการเริ่มต้น ของเกม God Penalize Online

ตอนนี้ก็เป็นอีกตอนที่เล่นเอาเหนื่อยเพราะพิมสกิลสุดโกงของชุดเกราะของพระเอก ตอนแรกก่ะจะให้เป็นตอนที่ 3 ไปเลยแต่เห็นว่ายังไงพระเอกมันยังไม่เข้าเกมเลยก็เลยให้เป็นตอนที่ 2.5 แล้วกันนะครับ

Share this post


Link to post
Share on other sites

ตอนที่ 3 - สู่เมืองบอร์นทาวน์

ณ ใจกลางเมืองบอร์นทาวน์

“แว่บบบบบบบบบบ” แสงแห่งการวาปแสงหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมายังกลางเมืองแห่งนี้ซึ่งเป็นปกติในสายตาผู้เล่นทั่วไปอยู่แล้ว หากเพียงแต่พอแสงสว่างแห่งการวาปจางหายไปแล้วนั้นเองพงก็มาปรากฏร่างอยู่ตรงกลางเมืองบอร์นทาวน์

“โห.........”

“ถึงว่าทำไมพี่แนนถึงได้อยากให้เรามาพักผ่อนในเกม.........” ทันทีที่สายตาของเขานั้นปรับโฟกัสได้หลังจากเบลอ ๆ ขึ้นมาที่ตอนวาปเขานั้นเผลอลืมตาขึ้นมาดู

พงมองไปรอบ ๆ ตัวเองอย่างตื่นเต้นเพราะไอเมืองที่เขาอยู่นั้นมันเหมือนอยู่ในอุโมงใต้ดินขนาดใหญ่ ซึ่งสภาพสิ่งก่อสร้างนั้นก็มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือนที่เป็นทรงจีนโบราณก็ดี ลานน้ำพุกลางเมืองที่มีรูปนางฟ้าแล้วมีสายน้ำพุ่งออกมาจากด้านหลังจนคล้ายกับปีกก็ดี พงลองออกเดินไปรอบ ๆ ตัวเพื่อดูสภาพโดยรอบของเมืองอย่างตื่นตาตื่นใจ เพราะปกติชีวิตทั้งชีวิตของเขานั้นก็ทำแต่งานอยู่แล้ว ไอครั้นจะให้ไปเที่ยวที่ไหนก็ไม่มีเวลามากขนาดนั้น (ตามจริงพงทำตัวให้ไม่ว่างเอง) เขาจึงถือโอกาสเข้ามาพักผ่อนยังสถานที่แห่งนี้ ซึ่งเหมือนเป็นอีกโลกนึงเลยนั้นเอง

“ตุ๊บ”

“โอ้ยยยยยยย” แต่ด้วยความเพลิดเพลินของเขาที่เดินไปไม่ดุทางแล้วนั้นก็ได้เผลอชนเข้ากับผู้เล่นหญิงคนหนึ่งเข้าจนตัวเธอนั้นล้มลงไปนั่งก้นกระแทกกับพื้น

“ขะขอโทษนะคับผมมั่วแต่เหม่อ” พงรีบกล่าวขอโทษคู่กรณีก่อนที่จะยื่นมือไปให้เธอจับเพื่อพยุงตัวขึ้นมา แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็น.........

“ลายลูกไม้สีดำ.....” นั้นคือสิ่งที่พงเห็นแทบเขานั้นยังเผลอพลั้งปากพูดออกมาเบา ๆ

“นอกจากซุ่มซ่ามแล้วยังโรคจิตอีกเหรอไงย่ะ”

“นี่แหนะ” ผู้เล่นหญิงที่พงเดินชนเธอนั้นรีบลุกขึ้นมาแล้วใช้ 2 นิ้วของเธอนิ่มเข้าใส่ลูกตาของพงทันที

“จึ๊กกกกกกก”

“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”

“ตาฉ๊านนนนนนนนนนน” แม้นี่จะเป็นความเจ็บ 10 % ก็เถอะแต่ว่าลองมาโดนทิ่มลูกตาแบบเขามั่งดูไหม แล้วจะรู้ว่ามันเจ็บปวดมากถึงเพียงใด เขาจึงล้มลงไปนอนดิ้นพล่านกับพื้นพักใหญ่ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าเกราะของเขานั้นเปล่งแสงสีทองอ่อน ๆ มาวูบนึงเขาก็รู้สึกว่าหายเจ็บไปซะแล้ว

“อย่ามาเวอร์น่านายน่ะ”

“การเจ็บปวดของเกม ๆ นี้ก็แค่สายลมพัดมาเฉย ๆ เท่านั้นเอง”

“เอ๊ะรู้ว่าแกล้งทำเป็นบาดเจ็บเพื่อที่จะก้มมามองใต้กระโปรงชั้นอีกน่ะ”

“ยี๊หน้าตาก็ดีนะนายน่ะไม่น่าทำตัวโรคจิตเลยให้ตายเถอะ” คู่กรณียืนกอดอกหันมามองเขาอย่างเอาเรื่องนี่ถ้าเกิดว่าเขาไม่บอกเธอไปตามตรงล่ะก็มีหวังเธอได้ร้องตะโกนขึ้นมาแน่ ๆ

“ขอโทษคับ”

“เรื่องทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุน่ะคับ”

“ถ้ามีอะไรที่ผมทำเพื่อชดใช้ได้ก็บอกมาเลยคับ” พงลุกขึ้นมาขอโทษอย่างสุภาพ แล้วเขารู้ตัวว่าหากเสนอตัวชดใช้ขึ้นมาล่ะก็แม่คุณตรงหน้ามีหวังร้องแหกปากกล่าวหาเขาแน่นอน

“หืมมมมมมมมมมมมม”

“ก็ดีนี่”

“ถึงชั้นไม่รู้ก็เถอะนะว่าผู้เล่นระดับสูงแบบนายมาทำอะไรที่เมืองเริ่มต้นอย่างบอร์นทาวน์ก็เถอะ”

“แต่ก็ดีชั้นจะได้ผู้เล่นระดับสูงทำภารกิจฆ่าราพานซะเลย” เธอยิ้มออกมาเจ้าเล่ห์แล้วหันมามองพงอย่างคาดหวัง แต่พงกลับเห็นว่าสายตาของเธอนั้นมันมองมาเพื่อทำการจิกหัวใช้ชัด ๆ

(เราผิดเองแหละที่เดินไม่ดูทาง)

(ยังไงก็ยอม ๆ สาวน้อยคนนี้ไปก่อนแล้วกันแฮะ) พงคิดในใจขึ้นมา เพราะที่เขาเรียกเธอแบบนี้นั้นเธอดูจะยังเป็นเด็กสาวม.ปลายอยู่เลย แม้ว่าการแต่งตัวของเธอจะดูล่อแหลมก็ตามที เนื่องจากชุดที่เธอใส่นั้นเป็นเสื้อกั๊กสีดำแบบเกาะอก ย้ำว่าเกาะแค่อกจริง ๆ เพราะช่วงท้องของเธอนั้นกลับไม่มีอะไรปกปิดเลยซักชิ้นเดียวเผยให้เห็นหน้าทองแบนราบขาวเนียน แล้วยังกระโปรงสีแดงเลือดหมูลายสก็อตอีกที่มีสายคาดไปถึงหัวไหล่ 2 เส้นซ้ายขวาอีก เขายังแทบนึกในใจเลยว่าถ้าเจ้าสายคาด 2 เส้นนี้ขาดเธอมีหวังไม่โป๊ช่วงล่างเลยเหรอไงกัน หรือว่าอาจจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิดก็ได้เพราะใต้กระโปรงของเธอนั้นนอกจาก กกน. ของเธอที่เขาบังเอิญเห็นแบบแจ็คพอตนั้นก็ยังพอดีถุงน่องสีน้ำตาลเข้มอยู่ด้วยเช่นกัน

“เงียบทำไมล่ะอิตาโรคจิต” เธอขยับหมวกแก็บที่มีสีและลายเดียวกันกับกระโปรงของเธอให้เข้าที่เข้าทาง เพราะดูเหมือนเจ้าหมวกใบนี้นั้นมันจะไปย่นลงมาปิดตาของเธอกับเส้นผมสีเงินที่ดูยุ่งเหยิง ให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขาแบบหาเรื่อง

ซึ่งนั้นเองได้ทำให้เธอดูน่ารักขึ้นมาเป็นกอง เพราะโดยรวมแล้วแม้เธอจะดูนิสัยห้าวนิด ๆ และไม่ยอมใครก็ตามแต่ท่าทางนั้นแหละที่เขาคิดว่ามัน ได้ทำให้เธอนั้นดูน่ารักในแบบฉบับของเธอ

“ผมไม่ใช่ผู้เล่นระดับสูงหรอกนะคับ”

“แล้วผมเองก็เพิ่งเข้าเกมเมื่อไม่นานมานี้เองคับ” พงตอบเธอกลับไปตามตรงเพราะว่าตัวเขานั้นไม่เคยเล่นเกมมาก่อนแล้วถ้าหากไปช่วยเธอไม่สำเร็จก็ผิดคำพูดซะเปล่า ๆ

“อย่ามาอำกันหน่อยเลยน่าพี่ชาย”

“แหม ๆ ๆ”

“รังเกียจหรือไงกันค่ะที่จะสละเวลาอันมีค่าของตัวเองมาช่วยผู้เล่นระดับต่ำ ๆ น่ะ”

“เฮะ ก็ว่าอยู่แล้วแหละว่า

พวกผู้เล่นระดับสูง ๆ เนี่ยมันหยิ่งกันทุกคนจริง ๆ” ท่าทีของผู้เล่นสาวเบื้องหน้าก็เปลี่ยนไปกับคำพูดเช่นกันนั้นเพราะว่าเธอนั้นมองเขาด้วยสายตาอันเย็นชา

“ไปกันใหญ่แล้วล่ะคับ”

“งั้นก็เอาอย่างงี้แล้วกัน” พงเมื่อเห็นว่าเรื่องราวชักจะบานปลายแล้วนั้นเขาก็ได้เปิดหน้าจอสถานะผู้เล่นของเขาให้เธอดูซะเลย

หลายนาทีต่อมาในร้านขายบะหมี่ข้างทางแห่งหนึ่ง พงยืนมองหาผู้เล่นหญิงคนเมื่อครู่ไล่สายตามองไปโต๊ะนั่งต่าง ๆ ก็พบกับเธอที่นั่งเขี่ยเส้นบะหมี่ในชามอย่างเหม่อลอย

“เสร็จแล้วล่ะคับ” พงเดินมาใกล้ ๆ เธอก่อนที่จะเรียกเธอขึ้นมา

“ห่ะ”

“อ๋อ........อืม” เหมือนกับว่าตัวเธอนั้นจะไม่ได้สนใจที่เขาพูดเท่าไหร่นักเพียงแต่พยักหน้ารับรู้การมาของเขาเท่านั้นเอง

“แล้วจะไปกันหรือยังล่ะคับ” ตอนแรกพอเขาเปิดหน้าจอให้เธอดูนั้นเธอก็ถึงกับเกิดอาการค้างไปชั่วขณะก่อนที่จะมีท่าทางซึม ๆ อย่างเห็นได้ชัด

แต่ตัวเธอนั้นก็เห็นได้ไม่หมดซะทีเดียว เพราะทางระบบของเกมนั้นได้ป้องกันความลับของผู้เล่นรั่วไหลจึงได้เผยแค่ระดับเลเวล และ อาชีพของตัวละครออกมาเท่านั้นเอง

เมื่อเห็นว่าเธอนั้นไม่ได้ใส่ใจเขาเหมือนตอนแรก เขาจึงขอตัวไปยังอาคารแนะนำผู้เล่นเพื่อรับ โปรแกรมอัพเกรด อลิซ เบื้องต้น และในอาคารนั้นเขาก็ได้รับน้ำยาเพิ่มพลังชีวิต กับ พลังจิตอย่างละ 10 ขวดแล้วก็แผนที่เชื่อมต่อเมืองบอร์นทาวน์ ไปยังเมืองใกล้ ๆอีก 1 เมืองที่ชื่อว่า วอร์ทาวน์อีกด้วย

แถมพนักงานสาวที่เป็นผู้คนจริง ๆ ก็ดูเหมือนจะใจดีกับเขาอีกต่างหากเพราะพนักงานสาวผู้นี้นั้นยังสอนวิธีการใช้โปรแกรมอัพเกรดเอไอส่วนตัวให้กับเขาอีกด้วย แล้วทั้งนี้ทั้งนั้นพนักงานสาวก็ยังสอนพงเกี่ยวกับเรื่องการซื้อของแล้วก็ขายของอีกต่างหาก พงเองขอแค่เป็นข้อมูลเขาก็เข้าใจได้ง่าย ๆ ซึ่งเมื่อเวลาเขาออกมาจากอาคารแนะนำผู้เล่นแล้วนั้นเขาก็ได้ให้อลิซเปิดแผนที่ขึ้นมาเพื่อเขา เศษเจลลี่ไปขายที่ร้านขายไอเทมเพิ่มพลัง ก็ได้ทำให้ตัวเขานั้นมีเงินติดตัวมาถึง 1000 G แล้ว และเมื่อจัดการธุระของตัวเองเสร็จแล้วนั้นเขาก็ได้เดินกลับไปหาผู้เล่นหญิงตามที่ได้นัดกันเอาไว้

“เฮ้ออออออออออออออ” ผู้เล่นหญิงคนเมื่อครู่แหงนหน้ามามองดูพงแล้วถอนหายใจยาว ๆ ออกมา

“นายไม่จำเป็นต้องไปกับชั้นก็ได้นะ”

“เพราะแค่โดนเจ้าบอส ราพานสะกิดนายก็ไปเกิดใหม่แล้วล่ะ” เธอทำเหมือนกล่าวอย่างตัดใจออกมาแล้วก้มลงไปเขี่ยเส้นบะหมี่ต่อ พงที่เห็นเธอเข้าโลกส่วนตัวอีกครั้ง ก็เข้าใจเพราะตอนที่เขากำลังใช้สมาธิสุด ๆ นั้นก็มีอาการเข้าโลกส่วนตัวเช่นกัน โดยที่พงนั้นหารู้ไม่ว่าคงมีเขาคนเดียวที่แหละในโลกที่เป็นเช่นกันนั้น

“เอาเป็นว่าชั้นเลี้ยงบะหมี่นายก็แล้วกัน”

“นายเพิ่งมาเล่นเกมใหม่นี่คงไม่มีเงินติดตัวหรอกนะ”

“นี่ลุงขอบะหมี่น้ำชามนึง” เธอเห็นว่าพงกำลังจะกล่าวปฏิเสธด้วยความเกรงใจเธอจึงชิงตัดหน้าสั่งแทนเขาไปซะก่อน

“นั่งลงซิยืนแบบนั้นไม่เมื่อยเหรอยังไง”

“ขอบคุณคับ” แล้วพงก็นั่งลงอย่างว่าง่าย ซึ่งไม่ทันไรก็ได้มีบะหมี่น้ำกลิ่นหอมมาเซริฟถึงโต๊ะ พงเมื่อโดนผู้เล่นหญิงตรงหน้าสร้างให้กิน เขาก็ลงมือทานในทันที

“อร่อยมาก ๆ เลยคับ”

“โหไม่คิดว่าอาหารในเกมก็มีรสชาติเหมือนกันะเนี่ย” แล้วพงก็ตั้งใจทานบะหมี่น้ำตรงหน้าอย่างไม่รักษามารยาทเลยนั้นย่อมต้องทำให้ผู้เล่นสาวตรงหน้าขมวดคิ้วแล้วคิดในใจว่า

(หมอนี่ไปตายอดตายอยากมาจากไหนเนี่ย) ซึ่งเธอนั้นหารู้ไม่ว่า ในชีวิตของพงที่มีแต่การทำงานตลอดนั้น

เขาประทังชีวิตโดยการกินข้าวกล่องแช่แข็ง ไม่ก็ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่พงทำเช่นนี้ก็เพราะว่ามันใช้เวลาในการซื้อแล้วทานน้อยที่สุดเขาจะได้มีเวลากลับไปทำงานนั่นเอง แถมเขานั้นยังต้องเป็นหนูทดลองในการทำอาหารของแนนที่มีผลทำให้กระเพราะของเขาแทบทะลุไปบ่อยครั้งด้วย จึงทำให้ทั้งชีวิตของพงนั้นแถบจะไม่ได้กินอาหารอร่อย ๆ เลยแม้แต่น้อย และก็มีอีกเหตุผลหนึ่งนั้นก็คือตัวเขานั้นได้รับค่าความเจ็บปวด 10 % มาด้วย เลยทำให้ประสาทการรับรส ของบะหมี่น้ำที่จืดชืดสำหรับผู้เล่นทั่วไปนั้นกลับเผยมีรสชาติที่แท้จริงขึ้นมาแม้จะเป็นเพียง 10 % ก็ตาม

ดังนั้นบะหมี่น้ำธรรมดา ๆ ชามนี้จึงเป็นหนึ่งในเมนูอาหารอร่อยที่พงจดจำใส่หัวสมองเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าหากได้กลับมาที่เมืองนี้อีกเขาต้องแวะมากินเป็นแน่

แต่ในระหว่างที่เขากำลังกระซวกเส้นบะหมี่เข้าปากไปนั้นสมองของเขาก็เหมือนกับว่านึกได้ว่าลืมอะไรสำคัญ ๆ ไปอย่าง ซึ่งพอดีกับการที่มีผู้เล่นแตกตื่นแล้ววิ่งผ่านเขาไปแถมยังตะโกนกันเสียงดังว่า

“สัตว์กลายพันธุ์บุกเมือง”

“แถมยังเป็น แร็บบิทเจล สีชมพูอีกด้วย”

“พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” พอได้ฟังแค่นั้นแหละเขาก็คิดได้ว่าตัวเองนั้นลืมอะไรที่สำคัญไปซะสนิท แถมยังเกิดอาการตกใจกะทันหันพ่นเส้นบะหมี่ที่กำลังเคี้ยวอยู่นั้นออกไปจากปากอย่างลืมตัวอีกด้วย

“ยี๊”

“ทำอะไรของนายเนี่ยอิตาซกมก” แน่นอนว่าคนที่ได้รับกรรมย่อมไม่เป็นใครอื่นนอกซะจาก ผู้เล่นหญิงที่กำลังนั่งฝั่งตรงกันข้ามกับเขาอยู่นั่นเอง

“ดะเดี๋ยวผมนะนะคับ”

“อลิซเปิดแผนที่ขึ้นมาด่วนเลยคับ”

“แล้วช่วยสแกนหาตำแหน่งอของเมโล่ด้วยนะคับ” พงสั่งการออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่ร่างของเขานั้นจะวิ่งพุ่งไปตามทางของแผนที่ ที่ปรากฏจุดแสดงตำแหน่งว่าในตอนนี้เมลโล่อยู่ไหน

แต่ทว่าการพุ่งร่างของพงนั้นกลับเป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอย่างมากแม้แต่ตัวเขาเองนั้นก็ยังแทบตกใจเลยทีเดียว ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นสายตาของผู้เล่นหญิงคนเมื่อครู่ที่มองเขาแล้วเผยรอยยิ้มสดใสออกมาทันที

“หมอนี่เป้นพวกคมในฟักงั้นซินะ”

“ถ้าอย่างงั้นชั้นว่า มีคนล่อเป้าให้กับเจ้าบอสราพานแล้วล่ะ”

“วันนี้เป็นโชคดีอะไรอย่างงี้น๊ายัยสาเอ๋ย” เธอพูดกับตัวเองอย่างร่าเริงก่อนที่จะเรียกเด็กเซริฟมาเก็บเงินค่าบะหมี่แล้วค่อย ๆ เดินตามพงไปอย่างสบายใจ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะวิ่งตามไปก็คงไม่ทันพงที่ตอนนี้หายลับสายตาไปซะแล้ว

“มิ๊ววววววววววววววว” เมโล่ออกแรงกระโดดสุดตัวเพื่อหลบ ค้อนติดเครื่องยนต์ของผู้เล่นชายคนหนึ่งได้อย่างหวุดหวิด เพราะเมื่อหัวค้อนฟาดลงพื้นไปแล้ว พื้นกระเบื้องที่ปูอย่างสวยงามก็แตกละเอียดไปในทันที

“เหอะ”

“หลบเก่งนักนะไอสัตว์กลายพันธุ์” ผู้เล่นชายบ่นออกมาอย่างเสียดายแล้วก็มองไปยัง ร่างของเมโล่ที่ตอนนี้กำลังวิ่งกระโดดหลบการฟาดฟันอาวุธของเพื่อน ๆ ของเขาอีก 5-6 คน ได้อย่างรำคาญ ๆ

“หน่อยแหนะดูซิว่าถ้าโดนล้อมกรอบแบบนี้แล้วจะทำยังไง”

“แกเองก็เป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่พวกเราไม่เคยเห็นซะด้วย แถมยังซ่าส์มาบุกเมืองบอร์นทาวน์ด้วยตัวคนเดียวแบบนี้”

“คงต้องสิ้นใจตายภายใต้หัวค้อนของข้า กีรันผู้นี้แหละ”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ผู้เล่นชายชายประกาศชื่อออกมาเพื่อหวังโชว์พาวให้ทุกคนรู้จักชื่อเสียงของตนเอง โดนที่เขานั้นหารู้ไม่เลยว่าเขาและพรรคพวกนั้นได้ถูกสายตาประณามมามาจากเหล่าสาว ๆ ที่มองเห็นเหตุการณ์ว่าไปทำร้ายสัตว์น่ารัก ๆ ได้อย่างไรกัน

แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเมโล่เลยแม้แต่น้อยเพราะถ้าหากเข้ามาเล่นเกม ๆ นี้ครั้งนึงคงต้องย่อมรู้เป็นแน่นอนว่าอย่าประมาทสัตว์กลายพันธุ์เป็นอันขาด

“จนมุนแล้วล่ะซินะ”

“หึหึหึ”

“มาให้ข้าฆ่าซะดี ๆ” กีรันเดินลากค้อนอันใหญ่โตของเขาลากพื้นเข้าหาเมโล่ที่โดนเพื่อน ๆ ของมันยืนล้อมอยู่เพื่อไม่ให้หนีไปไหนได้อีก และในระหว่างที่กีรันกำลังง้างค้อนออกมาแล้วเตรียมฟาดลงใส่ร่างของเมโล่แล้วนั้นเอง ก็ได้มีเงาร่างของคนผู้ร่างวิ่งแทรงผ่านเพื่อน ๆ ของเขาขึ้นมาแล้วเจ้าของล่างนั้นก็กระโดดถีบใส่ยอดอกของกีรันจนมันต้องล้มหงายหลังไปนอนคลุกข้าวเม่าอย่างอับอาย

“อ่า......โน่”

“คือขอโทษนะคับ”

“แต่ตะโกนห้ามคงไม่ทันน่ะคับ”

“เพราะคุณกำลังจะทำร้ายเพื่อนของผม”

“ไม่เป็นไรใช่ไหมเมโล่” พงหันไปขอโทษกีรันอย่างสุภาพแล้วรีบหันกลับไปมองเมโล่อย่างเป็นห่วง

“มิ๊วววววววววววววววววว”

“ToT” ตาของเมโล่เป็นประกายแถมยังมีหยาดน้ำตาไหลซึมออกมาพร้อมกับกระโดดเข้ามาสู่อ้อมอกของพงในทันที

“โอ๋ ๆ ๆ ๆ”

“ไม่ต้องกลัวนะเมโล่”

“อุ๊กกกกกกกกกกก” แต่ยังไม่ทันไรเขาก็ต้องรู้สึกจุก ๆ ที่ท้องเนื่องจากเจ้าเมโล่นั้นได้พุ่งกระแทกใส่เขาแถมยังใช้สกิลแดชใส่เขาซะงั้น

“ฮิ” เหล่าเพื่อน ๆ ของกีรันที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นสาบานได้เลยว่าพวกมันนั้นเห็นเมโล่แสยะยิ้มออกมาครู่นึง ก่อนที่จะทำหน้าตาบ้องแบ๋วออดอ้อนพงต่อ

“สงสัยว่าต้องสอนให้เมโล่รู้จักวิธีการควบคุมพลังแล้วแฮะ” พงกุมท้องตัวเองหน้านิ่ว ก่อนที่อยู่ ๆ ชุดเกราะของเขานั้นจะเปล่าแสงสีทองจาง ๆ ขึ้นมาอีกครั้งอาการจุกที่ท้องของเขานั้นก็หายไปอย่างน่าอัศจรรย์

“เห้ยแกนะไอหน้าอ่อน”

“มาถีบข้ากีรันผู้นี้ล้มกลิ้งไปแล้วอย่างคิดว่าจะกลับไปได้ง่าย ๆ นะว้อย”

“รับมือ” กีรันลุกขึ้นมาแล้วหันไปมองพงอย่างอาฆาตก่อนที่ตะคอกใส่เขาขึ้นมา แถมยังพุ่งเข้าประชิดแล้วหวดค้อนของมันเข้าใส่หัวของพงในทันที

ภาพการโจมตีของกีรันนั้นได้ทำให้เหล่าสาว ๆ ต้องปิดตาลงในทันทีเพราะว่าพวกเธอนั้นต่างกันคิดว่าหัวของพงต้องเละคาค้อนของกีรันอย่างแน่นอน

“อย่างใช้กำลังเลย............ดีกว่า.........นะคับ............” แม้จะอยู่ในสถานะการณ์วิกฤติก็ตามแต่พงกลับแสดงสีหน้าสงบออกมา เพราะว่าเขานั้นลองตั้งสมาธิดูก็เห็นเพียงแค่ว่าค้อนของกีรันนั้นได้ลอยเข้ามาใส่เขาช้าเอามาก ๆ เท่านั้นเอง

“ฟุ่บ” พงเลยทำแค่โค้งตัวหลบค้อนของกีรันอย่างง่ายดายโดยมือข้างนึงอุ้มร่างของ เมโล่เอาไว้แล้วเรียกเอาเซโร่เบลดออกมา พร้อมกับเรียกคอมดาบออกมาในทันที

โดยเมื่อพงเรียกคมดาบลำแสงออกมาจากด้ามแล้วนั้นมันก็พุ่งความยาวของใบดาบลำแสงออกมาสุดด้ามซึ่งพอดีกับคอคอยของกีรันซะด้วย

“เหมือนที่พูดไปเมื่อกี้แหละคับ”

“เราเลิกแล้วต่อกันได้ไหมคับ” พงเอ่ยถามกีรันออกมาด้วยใบหน้าเย็นชา ราวกับว่าหากคำตอบกลายเป็นไม่นั้นคนของกีรันได้หลุดลงจากบ่าแน่นอน

แต่เจตนาของพงไม่ได้คิดแบบนั้นเลยสาบานได้ เพราะนี่เป็นเพียงใบหน้าของเขายามที่ต้องใช้สมาธิสูง ๆ เท่านั้นเอง ใบหน้าจะสงบนิ่งลงจนกลายเป็นเย็นชาคล้ายคนหน้านิ่งและเอาจริง ส่วนสาเหตุที่พงนั้นยังไม่คลายสมาธินั้นก็เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าเพื่อน ๆของกีรันนั้นจะคอยลอบเข้ามาโจมตีช่วยกีรันตอนไหน เขาจึงต้องมีสมาธิสูง ๆ เอาไว้เพื่อคอยรับมือนั้นเอง

“ขะข้ายอมแล้ว”

“น้องชายไว้ชีวิตด้วยเถอะ” กีรันยอมปล่อยค้อนติดเครื่องยนต์ของมันออกจากมือก่อนจะทำตัวว่าง่าย

“ขอบคุณนะคับ”

“คุยกันง่าย ๆ แบบนี้ผมก็โล่งอก” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมเลิกราพงก็ยิ้มกล่าวขอบคุณออกมา พอพอพงเก็บใบดาบลำแสงกลับไปนั้นกิรันก็วิ่งหนีจากไปแล้วทิ้งค้อนเอาไว้พร้อม ๆ กับเพื่อน ๆ ของเขาซะแล้ว

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”

“เท่ห์มาก ๆ เลยค๊า” ซึ่งยังไม่ทันไรเหล่าสาว ๆ ที่ดูเหตุการณ์อยู่นั้นก็วิ่งเข้ามารุมล้อมพงในทันที โดยที่พงนั้นก็เกิดอาการ งง ๆ ว่าเขาไปทำอะไรเอาไว้กันแน่

อึ๊บ ๆ ๆ รีบปั่นจนตอนที่ 3 ตามมาติด ๆ ถ้าไม่ต้องมัวแต่แต่งอธิบายเรื่องไอเทมล่ะก็ผมสบายขึ้นเยอะเลยล่ะคับ

ถ้าชอบที่แต่งก็ไม่ขออะไรมากนอกจากการคอมเม็นท์ก็พอครับผม

Share this post


Link to post
Share on other sites

ตอน2ยังอ่านไม่จบเลย ตอนที่3มาและมีตอน2.5ด้วย มาเร็วๆ :emoother_08:

Share this post


Link to post
Share on other sites

ตอนที่ 4 - อลิสาเพื่อนคนแรก กับ บอสราพาน

ณ เมืองวอร์ทาวน์ เมืองใต้ดินแห่งที่ 2 ที่มีเหล่าผู้เล่นผ่านมามากที่สุดในเกมหลังจากที่เริ่มเล่น ซึ่งเมืองแห่งนี้นั้นเป็นเมืองที่มีสมาคมแห่งนักรบตั้งอยู่เพื่อให้ผู้เล่นนั้นเปลี่ยนอาชีพกันด้วยนั้นเอง จึงไม่แปลกที่มีเหล่าผู้เล่นส่วนมากในเมืองแห่งนี้นั้นเล่นสายพลังกายกันมากเสียเป็นส่วนใหญ่

ณ ที่ทำการเปลี่ยนอาชีพนักรบ

“ลั่นล๊า”

“ฮึ่มฮึ้มมมมมมมมมม” ชายหนุ่มวัย 20 ต้น ๆ คนหนึ่งกำลังนั่งฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ตรงเคาน์เตอร์ของสมาคม ที่ใช้สำหรับลงทะเบียนเปลี่ยนอาชีพ

“ไม่รู้ว่าสาวน้อยคนสวยคนนั้นจะทำภารกิจจากเราไปได้หรือยังน๊า” เขาพูดออกมาอย่างเหม่อลอยราวกับเด็กหนุ่มในวัยกำลังมีความรัก

“โป๊กกกกกกกกกก” แต่แล้วกลับมีกำปั้นอันแข็งแกร่งเขกลงมาที่หัวของเขาอย่างแรงเพื่อไล่ความฟุ้งซ่านให้หายไป

“โอ้ยยยยยยยยย”

“ทำอะไรนะคร้าบบบ คุณอาไททัน ฉันเจ็บนะ” ตามจริงแล้วเขาก็เหมือนผู้เล่นทั่ว ๆ ไปที่โดนโจมตีแล้วก็จะรู้สึกเหมือนมีเพียงสายลมพัดผ่านไปเท่านั้น เขาจึงแกล้งร้องบอกว่าเจ็บแทบยังหันไปทำหน้าทะเล้นใส่ ชายวัยกลางนามไททันผู้มีศักดิ์เป็นอาของเขาและยังเป็นถึงหัวหน้าสมาคมนักรบในเมืองแห่งนี้ด้วย

“ไม่ฆ่าให้ตายก็ดีเท่าไหร่แล้วไอเจ้าชาง”

“แล้วก็ไม่ต้องมาทำเนียนเพื่อเปลี่ยนเรื่องเลย”

“รู้ไหมที่อาเขกหัวเจ้าแรง ๆ เมื่อกี้เพราะอะไร” ไททันเอ่ยถามหลานชายตัวแสบของเขาออกมาตาขวาง

“พูดเรื่องอะไรอ่ะอาไททัน”

“ฉานไม่เห็นรู้เรื่องเร๊ยยยย” เหมือนว่าชางจะรู้ความผิดของเขาอยู่แล้วจึงแกล้งตีหน้าไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับผิวปากไปมาอย่างคนไม่สำนึก

“หึ”

“ดูซิว่าหากข้าเอาของสิ่งนี้ออกมาแล้วเจ้าจะปากแข็งต่อไปอีกไหม” พูดจบไททันก็ยกชุดของผู้เล่นหญิงเริ่มต้นขึ้นมา

แถมยังถูกใส่ห่อพลาสติคซะอย่างดิบดีอีกด้วย ที่สำคัญนั้นยังได้มีรูปถ่ายใบหน้าของเจ้าของชุดแปะอยู่บนห่อ ซึ่งใบหน้าสวยผมสีเงินหน้าตาดูไม่ค่อยพอใจบ่งบอกว่าโดนแอบถ่ายแล้วรู้ตัวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นั้นมันคล้ายกับใบหน้าของผู้เล่นหญิงที่พงเจอที่เมืองบอร์นทาวน์ยังไงพิกล ๆ

“หง่ะ”

“คุณอารู้.............” ชางเริ่มกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก ก่อนที่จะค่อย ๆ ถอยร่างกายของเขาให้ห่างจากผู้เป็นอาเรื่อย ๆ

“หนีไปก็เท่านั้นหรือเจ้าไม่รู้ว่าน้องชายของพ่อเจ้าผู้นี้เคยสร้างฉายาอะไรให้กับในเกมเอาไว้” ไททันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทรงพลังราวกับว่าถ้อยคำที่ถูกพ่นออกมาจากปากของเขาที่ขยับเพียงเล็กน้อยนั้นมันมีพลังอันรุนแรงที่จะสะกดร่างของชางไม่ให้เคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อย

“อ้ากกกกกกกกกกกก”

“ขอโทษคร้าบบบบคุณอา”

“ป๋มผิดปายแร้ววววววววววววววว” ชางกล่าวอ้อนวอนพร้อมทั้งดัดเสียงให้ดูน่ารักน่าสงสารกับอาของเขาที่ดูท่าจะโกรธจัด

“โคร้มมมมมมมมมมมมม” แต่บาทาที่ไร้ความปราณีนั้นก็ได้กระทืบเข้าใส่กลางหลังของชางเต็ม ๆ จนทำให้ร่างของชางนั้นถูกแรงกดทับมหาศาลลงไปกับพื้นสมาคม พร้อมกับติดสถานะโคม่า (ใกล้ตาย) อีกด้วย

“จำเอาไว้ต่อให้เจ้าชอบทำตัวไม่ได้ความหรือว่าไปทำเจ้าชู้กับสาว ๆ ที่ไหน”

“อาก็ไม่สนใจแต่อย่ามาทำพฤติกรรมที่ทำให้สมาคมนักรบของเราที่ข้าเป็นผู้ก่อตั้งเสี่ยมเสียอีกเป็นอันขาด”

“เข้าใจไหม” ไททันตะโกนถามหลานชายอย่างเกรี้ยวกราดเนื่องจากว่า เจ้าชางหลานชายตัวดีของเขานั้นมันดันไปเอาเปรียบผู้เล่นสาวน้อยคนนึงเข้า

และการการะทำนี้เองที่ได้ทำให้ไททันโกรธจัดขึ้นมาเมื่อรู้ความจริงว่า ชางนั้นได้เอาชุดอาชีพมอบให้กับผู้เล่นสาวคนหนึ่งเข้า ซึ่งแน่นอนว่าสภาพของเธอตอนรับชุดไปนั้นอยู่ในสภาพเหงื่อท่วมตัวเพราะเนื่องจากความหนักหนาทางภารกิจที่เธอเพิ่งทำเสร็จแล้วรีบมาส่งเพื่อเปลี่ยนอาชีพ และได้รับชุดสำหรับอาชีพนักรบหญิงไปใส่

แต่แล้วชางกลับยึดเสื้อที่เธอใส่มาตอนแรกแล้วทำการใส่ห่อพลาสติคอย่างดีเอาไว้ (กันกลิ่นระเหย) โดยที่เขานั้นให้เหตุผลกับเธอแบบแถไปเต็ม ๆ ว่า ป้องกันการติดเครื่องดักฟังเพราะกลัวว่าเธอนั้นจะเป็นสายเอาความลับของสมาคม ไปขายนั้นเอง แถมยังออกภารกิจให้เธอมาอีกอย่างนึงก็คือให้รวบรวมผู้เล่นไปจัดการกับ ราพาน บอสที่ฝีมือโหดร้ายสำหรับผู้เล่นใหม่ ที่เผลอไปฆ่า แร็บบิตเจลจนครบ 100 ตัว และทางระบบก็ได้เรียกมันออกมานั้นเอง

แน่นอนว่าชางนั้นได้คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเธอคงทำไม่ได้แน่นอน เขาเลยออกภารกิจแบบโหดสุด ๆ มาให้กับเธอทำเพื่อแอบใช้อำนาจรองหัวหน้าสมาพันธ์นักรบ เพื่อหวังจะเจอกับเธออีกครั้งนั้นเอง

กลับมาที่เมืองเริ่มต้นแห่งแรกของเกม ๆ นี้ นามว่าบอร์นทาวน์กันต่อ

“ขออุ้มเจ้าแร็บบิตเจลสีชมพูได้ไหมค่ะ”

“นี่ชื่ออะไรของค่ะ”

“ไปเก็บเลเวลกับพวกเราไหมค่ะ”

“ขอถ่ายรูปคู่หน่อยได้ไหมค่ะ” เสียงเจี้ยวจ้าวของเหล่าสาว ๆ ที่กำลังรุมล้อมพงรอบ ๆ ทั้งถาม ชักชวน และขอถ่ายรูปคู่ด้วยนั้นดังขึ้นมาจนทำให้เหล่าผู้เล่นชายพากันมองแบบหน่าย ๆ ต่อให้พวกเขาอยากจะขอบคุณที่พงไล่ กีรัน ผู้เล่นระดับ 30 ที่มาทำตัวกร่างในเมืองบอร์นทาวน์เพราะเห็นว่าไม่มีใครสู้มันได้ก็เถอะ

แต่พอพงเด่นขึ้นมานั้นก็ได้ทำให้เหล่าสาว ๆ มารุมล้อมเขาแบบนี้เลยทำให้กลายเป็นว่าน่าหมั่นไส้แทนขึ้นมาซะอย่างนั้น

“วะว่าอะไรนะคับ” พงยืน งง ท่านกลางหมู่สาว ๆ เพราะเขาไม่คิดว่าตัวเองนั้นทำอะไรจนกลายเป็นคนดังขึ้นมา แถมคิดแล้วก็อยากจะหัวเราะเลยด้วยซ้ำ มีหรือที่นายบ้างานแบบเขานั้นจะกลายเป็นจุดสนใจกับเพศตรงข้ามได้ (พระเอกเรายังไม่เห็นหน้าตาตัวเองตอนนี้)

“มิ๊วววววววววววว” ส่วนเมโล่เองก็ลำบากไม่แพ้กับเพราะมือของสาว ๆ จากทั่วสารทิศนั้นก็พากันมาจับ จิ้มแก้ม หยิก ลูบหลัง ต่าง ๆ นา จนตัวมันนั้นก็แทบจะเฉามือตายอยู่แล้ว แถมแรงที่จะงับใส่นิ้วของเหล่า ๆ ก็ยังไม่มีอีกด้วย เพราะมันนั้นต้องเกาะแขนของพงแน่นเพราะบางครั้งยังมีมือของเหล่าสาว ๆ นั้นพยายามจะฉุดร่างมันเอาไปอุ้มอยู่คนเดียวเสียด้วยซ้ำ

“ขอโทษนะค่ะช่วยปล่อยพี่ชายของชั้นได้แล้ว” แต่แล้วท่ามกลางความวุ่นวายเหล่านั้นกลับมีร่างของผู้เล่นหญิงที่พงเจอตอนแรกตะโกนขึ้นมาพร้อมกับแหวกทางเหล่าสาว ๆ ที่รายล้อมเขาอยู่

“รอนานไหมค่ะพี่ชาย” ผู้เล่นสาวสวมบทน้องสาวจอมวีนกราดสายตามองไปยังเหล่าสาว ๆ จนพวกเธอเหล่านั้นเกิดอาการชะงักกึกขึ้นมา

“กะ.........ก็ไม่นานเท่าไหร่หรอกนะ”

“พี่เองก็เพิ่งมาถึงนี่แหละ”

“งั้นเราไปกันเลยไหม” พงเองก็อยากจะหลุดจากสถานการณ์แห่งนี้ไปเช่นกัน เพราะถึงตัวเขานั้นจะเป็นพวกบ้างานจนสาว ๆ ภายนอกเกมไม่แม้แต่จะชายตามองก็ตาม แต่การที่จะมาโดนรุมกรี๊ดแบบนี้เขาเองก็ไม่ชอบใจเช่นกัน ที่จะหากว่าเปลี่ยนจากพวกสาว ๆ เป็นพวกแร็บบิตเจลล่ะก็เขาคงใช้ สกิลไซเคิ้ลสแลชไปแล้ว

แถมเจ้าเมโล่เองก็ทำท่าจะเฉามือตายอยู่มะรอมมะร่อแล้วหากเขาไม่ทำอะไรซักอย่างมีหวังว่าตัวมันคงต้องตายคามือสาว ๆ แถวนี้ซักคนแน่นอน

พงเลยเออออห่อหมกพูดตามน้ำไปกับผู้เล่นสาวที่เข้ามาช่วยเขาแทน แถมยังกล่าวของทางสาว ๆ พวกนี้แล้วเดินจ้ำ ๆ ๆ ๆออกไปยังวาป เพื่อขึ้นไปยังพื้นโลกด้านบนของเมืองแห่งนี้ทันที

พอขึ้นมาสู่พื้นโลกแล้วนั้นสายตาของพงก็มองเห็นทุ่งหญ้าเช่นเดิมซึ่งไม่ต่างกับที่ห้องทดสอบผู้เล่นซักเท่าไหร่ แถมยังเห็นเมือง ๆ นึงอยู่ไกล ๆ อีกด้วย เขาจึงได้รู้ว่าตอนอลิซวาปเขามาทดสอบนั้น ก็คงจะวาปเขามาพื้นที่ใกล้ ๆ นี้เป็นแน่

“หน้าตาดีแถมยังฝีมือดีก็ไม่แปลกหรอกนะที่จะโดนสาว ๆ รุมกรี๊ดน่ะ” ผู้เล่นสาวที่วาปตามพงมาทีหลังพูดทักเขาขึ้นมา

“ผมเนี่ยนะน่าตาดี”

“ถ้าเป็นคุณน่ะใช่คับ” พงเกาหัวตัวเองอย่างไม่เข้าใจคำพูดของผู้เล่นสาวน้อยคนนี้

“อย่าเรียกชั้นว่าคุณเลยมันดูสุภาพไป”

“ชั้นชื่ออลิสา”

“เรียกชั้นว่าสาเฉย ๆ ก็ได้”

“ว่าแต่นายล่ะชื่ออะไร” เมื่อเห็นอีกฝ่ายแนะนำตัวแล้วพงก็ได้กล่าวแนะนำตัวเองบ้าง

“ผมชื่อพงศธร”

“เรียกผมว่าพงเฉย ๆ ก็ได้คับ” เมื่อพงกล่าวแนะนำตัวเองออกไปแล้ว อยู่ ๆ ก็มีหน้าจอคำเชิญเข้าทีมปรากฏขึ้นมาพร้อมกับเสียงประกาศของอลิซดังก้องอยู่ในหัวของเขา

“ผู้เล่นอลิสสา ได้ส่งคำเชิญเข้าร่วมทีมมาให้นายท่านค่ะ”

“นายท่านมีสิทธิยืนยอมหรือปฏิเสธไปก็ได้ค่ะ”

“ยืนยอม” พงตอบรับไปเสร็จก็มีหน้าจออีกหน้าจอเด้งขึ้นมา ซึ่งก็คือหน้าจอของทีมนั่นเอง โดยมีชื่อของเขา และ สาอยู่ในทีมเพียง 2 คน พงมองหน้าจอของระบบทีมอีกซักพักก็ปิดหน้าจอลงไปแล้วถามสาขึ้นมาทันทีว่า

“แล้วสาจะให้ผมช่วยอะไรล่ะคับ” ทันทีที่พงถามออกมา สาก็คลี่ยิ้มขึ้นมาในทันที

“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะพี่ชาย”

“น้องสาผู้น่ารักคนนี้เพียงแค่อยากจะให้พี่พง ช่วยฆ่าเจ้าราพานให้หน่อยเท่านั้นเอง” เธอพูดจบก็หยิบเอาไอเทมหน้าตาคล้าย ๆ ขลุ่ยขึ้นมาก่อนที่จะพูดต่อ

“พวกเราต้องจัดการกับพวก แร็บบิตเจลให้ครบ 100 ตัวซะก่อน”

“เจ้าราพานถึงจะยอมเกิดออกมาน่ะ”

“แล้วนี่ก็คือ ไอเทมขลุ่ยเรียกสัตว์สัตว์กลายพันธุ์ ที่ระดับต่ำกว่า 10 ออกมา ได้จำนวน 100 ตัวพอดี”

“โห”

“สะดวกจังนะคับไอเทมแบบนี้” พงเมื่อรู้สรรพคุณของไอเทมที่สาถืออยู่นั้นมองอย่างทึ่ง ๆ ก่อนที่อยู่ ๆ เขาเกิดมีข้อมูลของไอเทมชิ้นนี้แว่บขึ้นมาในหัว

“ขอโทษนะคับสา”

“ผมว่าสาไม่ต้องจำเป็นใช้ขลุ่ยอันนั้นก็ได้”

“ราคามันตั้ง 1 หมื่น จีนะคับ” ทันที่พงพูดจบเธอก็แสดงสีหน้าเศร้า ๆ ออกมาก่อนที่จะเผยความในใจออกมาให้เขาได้ฟัง

“ก็ใช่น่ะซิปกติแล้วชั้นเองก็เก็บเงินมานานมากอยู่เหมือนกันถึงได้ซื้อไอเทมชิ้นนี้มา”

“แต่ชั้นก็รีบจริง ๆ นะ ถ้าเกิดว่าสายเกินไปไม่รู้ว่าไอเจ้ารองหัวหน้าสมาคม โรคจิตนั้นมันจะทำอะไรกับ............” สาพูดมาถึงตรงนี้ก็ต้องส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปก่อนที่เธอจะเกิดเอะใจขึ้นมาแล้วเท้าสะเอวมองพงอย่างจับผิด

“เดี๋ยวนะ”

“นายบอกชั้นว่านายเพิ่งเข้ามาเล่นเกมเองไม่ใช่เหรอไงค่ะ”

“แล้วทำไมถึงได้รู้ราคาของไอเทมชิ้นนี้กันล่ะ”

“หรือว่านายแกล้งใช้สกิลปกปิดฐานะตัวเองอยู่กันแน่” สาถามพงอย่างเอาเรื่องขึ้นมาทันที

“ไม่ใช่แล้วล่ะคับสา”

“แต่ผมมีวิธีดี ๆ อยู่นะคับ” พงเมื่อเห็นว่าขืนเขาบอกเธอไปก็คงไม่เชื่ออยู่ดี ว่าที่เขามีข้อมูลของไอเทมที่เธอถืออยู่นั้นก็มาจาก สกิลจากเกราะผู้ครองครอง ที่เขายัง งง เลยว่าทางบริษัทผู้ให้บริการเกม ๆ นี้นั้นให้เขามากมากเกินไปหรือเปล่า

ว่าแล้วพงก็วางเมโล่เอาไว้ใกล้ ๆ ตัวของสาก่อนที่เขานั้นจะเคลื่อนร่างออกไปอย่างว่องไวตรงเขาหาฝูงแร็บบิทเจลฝูงนึงที่มีอยู่รวม ๆ กันแล้ว 50 ตัวเห็นจะได้

แล้วพงก็ลงมือทำการถอนต้นหญ้าที่พวกมันกำลังกินกันอยู่ขึ้นมาจึงทำให้เหล่าแร็บบิทเจง 50 กว่าตัวนั้นมองเขาตาขวางด้วยแววตาสีแดงก่ำ

“เข้ามาเลยคับ” เมื่อเห็นว่าทำตัวเป็นเป้าล่อการโจมตีได้ผลแล้วนั้นเขาก็กล่าวท้าทายเหล่า แร็บบิทเจลออกมา พร้อมกับเรียกเอาดาบเซโร่เบลดออกมาทั้ง 2 เล่ม

“เอ๋”

“ทำไมถึงได้............” แต่ทว่าพงกลับรู้สึกแปลก ๆ ในตอนที่เขาถือดาบทั้ง 2 ข้างอยู่ เพราะดูเหมือนว่าตัวเขานั้นจะคุ้นเคยกับมันแบบแปลก ๆ ราวกับว่าดาบลำแงที่ถืออยู่ทั้ง 2 มือนั้นเป็นส่วนนึงกับร่างกายของเขา

“อ๋อ”

“สกิลของเกราะนี้นี่เอง” แต่เพียงไม่นานเขาก็ลองไตร่ตรองดูดี ๆ ก็พบกับคำตอบ ซึ่งนั่นเป็นจังหวะที่เหล่าแร็บบิทเจลทำการโจมตีใส่เขาในทันที

“ฟ้าว ๆ ๆ ๆ ๆ” ร่างของเหล่าแร็บบิท เจล50 กว่าตัวได้กระโดดพุ่งเข้าหาพงราวกับกราดยิงกระสุนปืนกลใส่เขา

“ฟุ่บ”

“ฉับ !!!” แต่พงที่รู้รูปแบบการโจมตีของพวกแร็บบิทเจล ก่อนอยู่แล้วนั้นเขาก็เบี่ยงตัวหลบเพียงเล็กน้อยแล้วฟันดาบลำแสงในมือเพียงฉับเดียวก็จัดการกับแร็บบิทเจล 2 ตัวที่พุ่งโจมตีเข้ามาลองเชิงเขาก่อนได้อย่างง่ายดาย

“ถ้าเรารู้ก่อนอยู่แล้วว่ารูปแบบการโจมตีเป็นยังไงเราก็ค่อย ๆ ตั้งรับ หลบ แล้วโจมตีกลับไปก็พอแล้ว” พงพยายามตั้งสมาธิลงทำจิตใจให้สงบเพื่อมองดูการเคลื่อนไหวของเหล่าแร็บบิทเจลที่ตอนนี้พวกมันกำลังกระโดดไปรอบ ๆ ตัวของเขาอย่างเป็นระเบียบ

“มาแล้ว” พงพูดออกมาก่อนที่จะโยกตัวหลบแล้วฟันดาบในมือใส่ร่างของ แร็บบิทเจล 5 ตัวที่ดีดตัวเข้ากระแทกใส่เขาขาด 2 ท่อนด้วยการฟันที่เร็วกว่า จนทำให้พวกมัน 5 ตัวกว่ารู้ตัวว่าตายไปนั้นก็ได้ร่างขาดเป็น 2 ท่อนแล้ว

“หมอนั้น”

“สู้กับสัตว์กลายพันธุ์ 50 ตัวแล้วยังไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลยงั้นเหรอ” สามองการกระทำของพงอย่างทึ่ง ๆ เพราะหากมีผู้เล่นคนใดที่เรียกได้ว่ากล้าและบ้าระห่ำพอที่จะรับมือกับ แร็บบิทเจลที่แม้จะเป็น สัตว์กลายพันธุ์ระดับต่ำที่สุดของเกม แต่ด้วยจำนวนที่มีมากถึง 50 ตัวแล้วนั้นต่อให้เก่งแค่ไหนก็ต้องแสดงสีหน้าร้อนลนออกมาบ้างนั้นแหละ

แต่ชายตรงหน้าของเธอนั้นกลับแสดงสีหน้าราบเรียบออกมาราวกับว่าเขานั้นสามารถจัดการได้อย่างไร้กังวล โดยที่เธอนั้นไม่ได้รู้จักกับพงนอกเกม เลยไม่รู้ว่าทุกครั้งที่พงมีสมาธิมากที่สุดเขาจะแสดงสีหน้าราบเรียบ และ ดูเย็นชาออกมา เพราะตอนนี้เขากำลังเอาจริงแล้วนั้นเอง

“ดึ๋ง ๆ ๆ ๆ ๆ” เมื่อเหล่าแร็บบิทเจลเห็นว่าพากันวนไปรอบ ๆ แล้วพลัดกันโจมตีใส่พงพวกของมันนั้นก็ได้ตายและลดจำนวนลงไปเรื่อย ๆ พวกมันจึงพร้อมใจกัน กระโดดพุ่งเข้าหาพงพร้อมกันด้วยจำนวนที่เหลือมากถึง 39 ตัวเลยทีเดียว

“ระวัง !!!” แม้จะดูอยู่ห่าง ๆ ก็ตามแต่สาเองก็อดลุ้นราวกับว่าตัวเธอนั้นเข้าไปร่วมวงต่อสู้ด้วย และเมื่อเห็นว่าพวกแร็บบิทเจลพร้อมใจกันโจมตีใส่พงแล้วนั้นเธอก็เรียกเตือนเขาขึ้นมาด้วยความตกใจ

“กำลังรออยู่เลยคับ”

“หา ?” เมื่ออยู่ในคราววิกฤตินั้นพงกลับพูดออกมาราวกับว่าตัวเขานั้นหาหนทางจัดการได้แล้ว ซึ่งทำให้สาเกิดความแปลกใจมากขึ้นไปอีกแล้วจ้องมองดูการกระทำของพงชัด ๆ

ทันทีที่เหล่าแร็บบิทเจลพุ่งเข้าใกล้ร่างของพงแล้วนั้นเขาก็กระโดดถีบตัวเพื่อหลบไปด้านบนจนทำให้เหล่าแร็บบิทเจลนั้นพุ่งชนกันเองจนมีแตกระเบิดไปบ้างราวกับลูกแตงโมถูกทุบ แต่ก็ยังมีอีก 10 กว่าตัวที่ยังตายในทันทีแต่กำลังพากันยืนมึนอยู่บนพื้นเบื้องล่าง ซึ่งพอดีกับร่างของพงนั้นตกลงมาถึงพื้นแล้วเขาก็เรียกใช้สกิลออกมา

“ไซเคิ้ลสแลช”

“ฟิ้ว ๆ ๆ ๆ ๆ” พงหวดดาบออกไปใส่เหล่าแร็บบิทเจลที่เหลืออยู่พร้อมกับหมุนตัวรอบหนึ่งอย่างรวดเร็วร่างของเหล่าแร็บบิทเจลที่เหลืออยู่นั้นก็ถูกฟันกระจุยหายไปในทันที

โดยที่เขาหารู้ไม่ว่าพื้นที่ ๆ ที่เขายืนอยู่นั้นได้มีเหล่าแร็บบิทเจลที่เหลืออยู่อีก 20 ตัวที่คอยซุ่มดูอยู่ตรงพงหญ้าใกล้ ๆ กลับต้องโดนรัศมีดาบของสกิลของพงที่เขาใช้ดาบลำแสงสองเล่มทำให้รัศมีการทำลายของไซเคิ้ลสแลชนั้นเพิ่มไปอีก 1 เท่านั้น ส่งพวกมันกลับบ้านเก่าไปได้อย่างง่ายดาย

“ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน” สาอึ้งกับการโจมตีของพงได้ไม่นานอยู่ ๆ ผืนแผ่นดินกลับสั่นไหวขึ้นมาราวกับมีแผ่นดินไหวกำลังเกิดขึ้นครู่นึงก่อนที่เศษเจลจากศพของของพวกแร็บบิทเจล นั้นจะไหลไปรวมกันที่พื้นดินด้านหน้าของพง แล้วซึมลงไปในพื้นดินที่มีรอบแยกจากการเกิดแผ่นดินไหว

“บรึมมมมมมมมมมมมมมมมม” ยังไม่ทันไรพื้นดินด้านหน้าของพงนั้นกลับเกิดระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยที่ตัวเขานั้นยังอยู่ในสถานะมึน งง หลังจากใช้สกิลอยู่

เมื่อพื้นดินระเบิดออกมาก็ปรากฏร่างสีขาวขนาดใหญ่เหมือนกับหมีกระโดดออกมาจากการระเบิด แล้วหยุดลงตรงหน้าของพง

เจ้าของร่างอันใหญ่โต ซึ่งมีกรงเล็บอันแหลมคมและคมเคี้ยวของสัตว์ป่ากระหายเลือด จ้องมาทางร่างของพงเขม็งด้วยแววตาสีแดงก่ำราวกับเคียดแค้นเขาเป็นอย่างมาก หากเพียงแต่ตัวมันยังมีหูกระต่ายอยู่นั้นเลยทำให้ผู้ที่พบเห็นคงคิดว่ามันเป็นหมีไปซะแล้ว

“ถึงว่า.......นอกจาทำให้ว่าที่ราชินีของ เผ่าแร็บบิทเจล ยอมรับในตัวเจ้าได้แล้ว”

“ยังสังหารพวกลูกน้องของข้าได้โดยง่ายดายแม้จะโดนพวกมันรุมก็ตาม”

“ความสามารถเช่นนี้เจ้าย่อมต้อง เป็น ผู้ครอบครอง 1 ใน 3 พลังของพวกมนุษย์ที่มีวิวัฒนากรเท่าเทียมกับพวกเราที่มีพลังมหาศาลพอที่จะต่อต้านท่านก็อตเป็นแน่”

สาบานได้ว่าตั้งแต่เล่นเกมมานั้น สาไม่เคยเห็นสัตว์กลายพันธุ์พูดเลยซักครั้ง ซึ่งเธอนั้นก็เคยเห็นบอสในเกมมาบ้าง แต่ก็ไม่เห็นพวกมันพูดออกมาแม้แต่น้อย แต่นี่ราพาน บอสระดับ 35 แห่งทุ่งหญ้าแห่งนี้นั้นมันยอมปริปากพูดออกมาราวกับว่าเจอคู่ปรับที่คู่ควรแล้วยังไงอย่างงั้น

“เพื่อไม่ให้เจ้าเป็นภัยต่อท่านก็อตผู้ซึ่งมอบโอกาสการแก้แค้นเหล่ามนุษย์ ให้กับพวกเรา”

“คงจ้องจัดการกับเจ้าขั้นเด็ดขาดซะแล้ว”

“โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” อยู่ ๆ ราพานกลับกู่ร้องอย่างคลุ้มคลั่งขึ้นมา ซึ่งร่างกายของมันนั้นก็ได้มีออร่าสีน้ำตาลแห่งผืนปฐพีครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างกายของมัน

“นายท่านระวังตัวด้วยค่ะ”

“ราพานได้ใช้สกิลลับ สัญชาติญาณของสัตว์ป่าทำให้ระดับของมันเพิ่มไปเป็น 70 แล้วค่ะ” เสียงของอลิซ และเอไอส่วนตัวของสานั้นแจ้งเตือนพวกเขาขึ้นมา

โดยที่พงในตอนนี้กำลังยืนมึน ๆ อยู่แม้จะเห็นร่างกายของราพานปรากฏออกมาแล้วก็ตาม

“นับว่าเป็นโชคดีของตัวข้าแล้วที่เจ้ายังไม่เก่งเลยแม้แต่น้อย”

“แถมยังติดสถานะมึน งง ซะอีก”

“ตายซะเถอะผู้ครองครอง” ราพานหวดกรงเล็บอันทรงพลังของมันเข้าใส่พงในทันทีเพื่อหวังจะจัดการกับเขาให้แหลกไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“ตูมมมมมมมมมมมม”

จบตอนแบบนี้ผมจะโดนวูดู (ตุ๊กตาสาปแช่ง) ไหมคับเนี่ย >o<

ส่วนบอสราพานนั้น หน้าตาพี่ทั่นก็น่ารักประมาณนี้แหละครับ

2132429194.jpg?t=1300395474

Share this post


Link to post
Share on other sites

2.5ยังไม่ได้อ่านเลยตอนที่4มาและ ไวจังมีภาพด้วยดีแฮะ :emoother_08:

อ่านจบซักทีกำลังสนุกเลย อยากอ่านตอนที่5แล้วแต่ไม่ต้องรีบก็ได้ :emoother_08:

(อยากเห็นอิมเมจเอไอของพงษธรแฮะ ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไรคับ)

Edited by GTTK

Share this post


Link to post
Share on other sites

ตอนที่ 5 ปะทะราพาน

“ฟ้าววววววววววววววว”

“โคร้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม” กรงเล็บของราพานได้ฟาดเข้าใส่ร่างของพง แถมความรุนแรงนั้นยังทำให้ดินดินตรงจุดที่เขายืนอยู่นั้นระเปิดกระจุยจนเกิดควันขโมงขึ้นมาอีกด้วย

“เก่งเกินไป..........” สาที่มองการต่อสู้แบบปิดเกมของราพานนั้นก็กล่าวออกมาลอย ๆ อย่างท้อแท้ใจ แค่ไอตอนปกติเธอก็ไม่มีปัญญาสู้ด้วยอยู่แล้ว แถมพงที่เพิ่งเล่นเกมใหม่ ๆ นั้นมีหรือที่จะสู้กับเจ้าราพานที่ระดับดันเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวได้

“แต่หมอนั้นก็ตายอย่างไม่ทรมานแล้วล่ะ...........” สาส่ายหน้าปลง ๆ ขึ้นพร้อมกับกำลังจะใช้ไอเทมวาปกลับเมือง ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ หินขนาดเท่ากำมือมีสีขาวเข้มขึ้นมาก่อนที่จะหันไปมองดู เมโล่ที่ยังยืนอยู่นิ่งไม่ขยับไปไหนจนเธอนั้นเกิดความตกใจร้องอุทานออกมา

“แปลก.......”

“ปกติถ้าเกิดว่าเจ้าของตายไปแล้วสัตว์เลี้ยงก็จะถูกวาปตามไปด้วยไม่ใช่หรือไง”

“แล้วทำไมแกถึงยังไม่ตามเจ้านายของแกไปล่ะ” สารีบหันมาถามเจ้าเมโล่อย่างสนใจซึ่งเธอลืมตัวเพราะความแปลกใจนั้นเอง เมโล่มันคงจะตอบเธอได้หรอกมั้ง

“มิ๊ว” แต่ยังไงทันไรเมโล่ก็ร้องขึ้นมาราวกับเรียกเจ้านายของมันทำให้สาพยายามเพ่งสายตามองเข้าไปในกลุ่มควันดูก็พบว่ายังร่าง ๆ หนึ่งกำลังอยู่ในกลุ่มควันนั้นด้วยนอกจากร่างอันใหญ่โตของบอสราพาน

“เกือบไปแล้วซิเรา”

“ดีนะที่หายจากสถานะมึนทัน” ในตอนนี้พงเรียกเอาดาบเซโร่เบลดขึ้นมาอีกด้ามนึงแล้วและกำลังจ้องมองไปยังร่างของใหญ่โตของราพาน ซึ่งมันก็หยุดนิ่งลงแล้วมองเขาเช่นกันราวกับว่าทั้งคู่นั้นกำลังประเมินซึ่งกันและกันอยู่

“สายจิตงั้นหรือ.......” น้ำเสียงของราพานคล้ายบ่นออกมาอย่างไม่พอใจครั้งหนึ่งก่อนที่มันจะพุ่งเข้ามาตะบบกรงเล็บทั้ง 2 ข้างใส่ร่างของพงอีกครั้งนึง

“เมื่อกี้เราหลบได้ซินะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็”

“ควับ” พงเพียงก่ะระยะในจังหวะที่กรงเล็บของราพานฟาดเข้ามาใส่เขาประมาณ 10 เซนติเมตรเขาก็พุ่งตัวไปด้านหน้าเข้าหามันในทันที ซึ่งได้ทำให้เขาหลบการโจมตีของมันได้อีกครั้ง และยังทำให้เขานั้นเข้าประชิดร่างกายของมันอีกด้วย

เมื่อมีโอกาสพงก็ไม่ปล่อยให้ผ่านไปเปล่า ๆ ดาบใหญ่ลำแสงทั้ง 2 มือนั้นได้ตวัดฟันใส่ช่วงท้องของราพานอย่างคล่องแคล่วในทันที

“ฉั๊วะ ๆ ๆ” พงตวัดดาบลำแสงทั้ง 2 มือเข้าฟันใส่ร่างของราพานเพียง 4 ครั้ง ซึ่งราพานนั้นมีศักดิ์เป็นถึงบอสในเกมแห่งนี้มันก็ไม่ปล่อยให้พงโจมตีใส่อีกแล้ว เมื่อดาบที่ 5 ของพงกำลังจะฟันออกใส่ร่างของมันนั้นเอง เจ้าบอสราพานก็ได้ออกแรงถีบขายันพื้นให้ลอยตัวขึ้นไปเหนือร่างของพงอย่างว่องไว เพื่อหลบการฟันครั้งที่ 5 ของเขาไปได้ ก่อนที่มันจะพุ่งทะยานร่างมาจากบนฟ้าทิ้งตัวดิ่งร่างกายอันใหญ่โตของมันหวังจะเข้ากระแทกร่างอันทับพงให้แหลกคาพื้น

“ตูมมมมมมมมมมมมมมมมม” ร่างของราพานเข้ากระแทกอัดใส่พื้นจนเกิดเป็นหลุมกว้างลึกลงไปพอสมควรแต่ว่ามันก็ทราบว่าการโจมตีของมันนั้นพลาดเป้าหมายไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเมื่อทันทีที่พงเห็นมันดิ่งลงมาจากกลางอากาศนั้นเขาก็เคลื่อนร่างถอยออกไปอย่างรวดเร็วในทันที

แต่เพียงครู่นึงเจ้าบอสาราพานก็ได้กระโดดขึ้นมาจากหลุมแล้วเพ่งเล็งสายตาไปมองพงตรงหน้าที่ตัวเขานั้นอยู่เฉย ๆ ไม่คิดที่จะเข้ามาโจมตีซ้ำแม้แต่น้อย มันจึงแยกเขี้ยวคำรามออกมาแล้วพูดขึ้นมา

“นี่เจ้าเก่งแค่หลบอย่างเดียวเหรอไงกัน”

“ก็ไม่เชิงหรอกคับ”

“เพียงแต่ว่าตัวผมนั้นยังเลเวลน้อยกว่าคุณเยอะ แล้วผมเองก็มีดีที่แค่พลังปัญญา กับ ว่องไวนี่แหละคับ”

“ซึ่งเมื่อกี้ผมลองโจมตีใส่คุณดูแล้วก็ทำได้แค่เพียงสร้างแผลตื้น ๆ ตรงท้องของคุณเท่านั้นเอง”

“แถมถ้าเกิดว่าผมยังฝืนโจมตีไปซุ่มสี่สุ่มห้าผมก็โดนคุณฆ่าตายน่ะซิคับ” พงตอบกลับไปตามตรงจนทำให้สานั้นเกิดอาการอยากจะด่าพงขึ้นมาจริงเธอจึงตะโกนไปว่า

“นายเซ่อซ่าเอ๋ยยยยยยยยย”

“แล้วนายจะไปบอกจุดอ่อนให้กับมันทำไมไม่ทราบย่ะ”

“หึ............”

“น่ารำคาญจริง ๆเจ้าพวกมนุษย์” ราพานสบถออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งเข้าไปโจมตีใส่สาแทน

“ไม่น่าตะโกนเลยชั้น”

“งานมาหาเลยแล้วไหมล่ะ” สาต้องลอบด่าตัวเองขึ้นมาเพราะไอการตะโกนของเธอเมื่อครู่นั้นมันได้ไปเรียกให้เจ้าบอสราพานหันเป้ามาทางเธอแทนนั่นเอง เธอจึงเรียกอาวุธดาบใหญ่ติดเครื่องยนต์ของเธอออกมาก่อนที่จะกดปุ่มไปยังด้ามดาบครั้งนึงเครื่องยนต์ตรงตัวดาบก็ทำงานขึ้น โดยที่ทันนั้นพับใบดาบให้หักงอลงมาก็เผยปากกระบอกปืนใหญ่ออกมา

“กระสุนสายฟ้า”

“ธันเดอร์ช็อต"

“เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงง” แล้วสาก็ลั่นไกออกมาทำให้มีลำแสงสายฟ้าสีทองแล่นพุ่งออกไปจากปากกระบอกเข้าช็อตใส่ร่างของราพานในทันที จนทำให้การเคลื่อนไหวของมันนั้นช้าลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว

“ยุ่งยากน่าคิดหรือว่าแค่อาการชาจากการโจมตีของเจ้าจะหยุดข้าได้น่ะ” ราพานขู่คำรามออกมาแล้วพยายามเร่งร่างกายที่เคลื่อนไหวได้ลำบากของมันเข้าหาสาอย่างแค้นเคือง

“หยุดไม่ได้แต่ทำให้เคลื่อนไหวช้าลงก็ดีมากแล้วล่ะคับ” เป็นอีกครั้งที่พงเข้ามาประชิดร่างของราฟานพร้อมกับฟาดฟันดาบลำแสงทั้งคู่ออกไปใส่ข้อเท้าของมัน

“ฉั๊วะ ๆ” คมดาบลำแสงทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดีซึ่งการฟันโจมตีครั้งนี้ของพงนั้นได้ทำให้ข้อเท้าของราพานนั้นเกิดแผลลึกลงไปหลายเซนติเมตรเลยทีเดียว

“หนอยเจ้าผู้ครอบครอง !!!” ราพานหันมาแยกเขี้ยวใส่พงอย่างโกรธเกรี้ยวก่อนที่ตัวมันจะตะบบกรงเล็บอันแข็งแกร่งใส่ร่างของเขา แต่ในเมื่อการเคลื่อนไหวของมันดูช้าลงมากกว่าตอนแรกนั้น พงที่มีดีเรื่องความเร็วอยู่แล้วก็ถอยตัวหลบไปได้อย่างง่ายดายจนทำให้ราพานนั้นทำได้เพียงแค่ฟาดกรงเล็บของมันลงบนพื้นที่พงเคยยืนอยู่เพื่อระบายโทสะออกมาเท่านั้น

และเมื่อบอสราพานโจมตีพลาดแล้ว พงก็ฉวยโอกาสฟันดาบใหญ่ลำแสง ทั้ง 2 มือใส่ใบหน้าของมันทันที

“ฉั๊วะ ๆ”

“โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ใบหน้าของราพานปรากฏแผลโดนฟันจากหน้าผากลากยาวมาจนถึงมุมปากบน 2 แผลขึ้นมาทำให้มันคำรามออกมาอย่างเจ็บปวด

“ใบหน้าคับสา”

“จุดอ่อนของมัน”

“หว๋า” พงตะโกนบอกสาออกไปก่อนที่เขานั้นจะตีลังกาหลบกรงเล็บของมันไปได้อย่างหวุดหวิด

“เข้าใจแล้วย่ะ” สารับคำด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเพราะจากตอนแรกที่เธอเกิดสิ้นหวังและไม่คิดจะต่อกรกับราพานอีกต่อไปนั้น ในตอนนี้เธอกลับมีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นมา ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพงด้วย และ อีกส่วนนึงก็คือเห้นว่ากระสุนของอาวุธของเธอนั้นได้ผล

สาจึงรีบหยิบเอากระสุนขนาดใหญ่เท่ากำปั้นสีแดงออกมาใส่ในรังกระสุนของอาวุธของเธอแล้วทำการโหลดกระสุนเข้าไป และเล็งไปยังศรีษะของราพานที่กำลังตามเอากรงเล็บของมันไล่ฟาดฟันใส่พงที่หลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่วราวกับว่ากำลังหยอกล้อกันอยู่ก็ไม่ปาน

“เหอะ ๆ”

“นี่ถ้าเกิดเอาไปเล่าให้ใครฟังก็”

“คงไม่มีใครเชื่อแน่นอน” สาส่ายหัวไปมาอย่างปลง ๆ ก่อนที่จะพยายามเล็งเป้าไปยังศรีษะของราพานที่กำลังไล่ฆ่าพงอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย

ซึ่งพงเองก็เห็นว่าสากำลังเล็งเป้ามาทางราพานเช่นกัน และเขาก็สังเกตได้อีกอย่างนึงก็คือว่าดูเหมือนว่าสานั้นจะใช้อาวุธของเธอในโหมดการยิงได้ไม่ค่อยถนัดเท่าใดนัก และตัวเขาเองต่อให้เคลื่อนไหวได้รวดเร็วดังใจนึกยังไงก็ตามแต่ว่าตัวเขานั้นก็เป็นมนุษย์ แถมไอการสแกนข้อมูลผู้เล่นนั้นก็ได้ส่งผลกระทบตามมาแล้วอีกอย่างนึง

เนื่องจากพงนั้นวัน ๆ เอาแต่ทำแต่งาน ๆ ๆ ๆ เขาจึงไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าใดนัก ซึ่งนั้นเองได้เป็นผลร้ายมาถึงเขาในตอนนี้ เพราะใบหน้าและตามร่างกายนั้นได้เกิดเหงื่อท่วมขึ้นมาซะแล้ว แถมไอเจ้าความเจ็บปวด 10 % นั้นก็ได้ทำให้เขาเริ่มที่จะหายใจหอบออกแล้วเช่นกัน

“เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่มีหวังเราได้หมดแรงจนพลาดท่าก่อนพอดี”

“ดูจากที่สาโจมตีราพานได้ผลแล้วต้องล่อให้มันเข้าไปใกล้ในระยะยิงของสามากกว่านี้ซินะ” คิดได้ดังนั้นพงก็รีบกระโดดถอยไปด้านหลังของเขาในจังหวะที่ราพานฟาดกรงเล็บใส่เขาแต่พลาดไปตะบบพื้นแทน และในระหว่างที่มันกำลังถอนกรงเล็บออกมาจากพื้นดิน พงก็ฉวยโอกาสวิ่งเข้าไปหาสาในทันที

“อิตาบ้านายจะล่อมันมาทางชั้นทำไมกันย่ะ” สาแทบอยากจะร้องไห้ออกมาดัง ๆ เมื่อพงนั้นดันไปล่อให้เจ้าราพานวิ่งไล่กวดเขามาทางเธอ

“ยิงเลยคับ !!!” พงตะโกนออมกาอย่างยากเย็น เพราะเขานั้นเริ่มที่จะเหนื่อยขึ้นมามากแล้ว แถมยังต้องใช้สมาธิอย่างมากในการหลบหลีกการโจมตีของราพานที่โจมตีใส่ด้วยกรงเล็บของมันอย่างบ้าคลั่งซะอีก

“ถึงนายจะย่นระยะการยิงของชั้นมาก็ตามเถอะนะ”

“แต่ว่าก็ใช่ว่าการโจมตีของชั้นจะจัดการมันได้ซักหน่อย” สาบ่นออกมาอย่างไม่พอใจเพราะนอกจากกระสุนนั้นนี้ของเธอจะทำให้ราพานเกิดสถานะผิดปกติอีกอย่างนึงแล้วเธอก็ไม่เห็นว่าจะทำให้ช่วยจัดการเจ้าราพานตัวนี้ได้เลยแม้แต่น้อย

“=[]=”

“อ้าวงั้นเหรอคับ”

“งั้นก็แย่แล้ว” พงทำหน้าอึ้งขึ้นมาทันทีเพราะเขาคิดว่ากระสุนอีกนัดของสานั้นจะปิดเกมได้ซะอีก

“อิตาบ้าอย่ามาทำหน้าอย่างงั้นเลยนะ”

“ไม่รู้ไม่ชี้ด้วยแล้ว” แล้วสาก็ลั่นไกออกไปทำให้ปากกระบอกนั้นมีกระสุนสีแดงพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วตรงอัดเข้าใส่ใบหน้าของราพานจัง ๆ

“บรึมมมมมมมมมม” เมื่อกระสุนสีแดงถูกเป้าหมายก็เกิดระเบิดขึ้นมาจนทำให้ใบหน้าของราพานมีเปลวเพลิงลุกไหม้ออกมามันจึงได้ใช้มือของมันรีบตบใส่ใบหน้าของตนเองเพื่อหวังจะดับไฟ แต่ก็ไร้ผลเพราะดูเหมือนว่าเปลวเพลิงนั้นจะลุกท่วมใบหน้าของมันต่อไป

“อย่างน้อยก็ก่อกวนมันได้พอสมควรนะคับ”

“ผมว่าพวกเราฉวยโอกาสหนีไปก่อนดีกว่า” พงเมื่อเห็นว่าเจ้าราพานนั้นเลิกสนใจพวกเขาเพราะมัวแต่สนใจดับไฟที่ลุกไหม้ใบหน้าของมันก็รีบวิ่งเข้ามาใกล้ ๆ สาแล้วกล่าวออกมาด้วยท่าทางหอบ ๆ

“ชั้นก็ว่างั้นแหละ”

“หนีไปกันก่อนดีกว่า” แต่แล้วในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังจะตัดสินใจวิ่งหนีไปนั้นเองอยู่ ๆ บอสราพานกลับตะโกนกู่ร้องออกมาเสียงดัง ราวกับใช้สกิลอะไรซักอย่างทำให้ไฟที่ลุกไหม้ใบหน้าของมันนั้นดับลงไป แถมยังมีเหล่า แร็บบิทเจลลอยออกมาจากทั่วทั้งสารทิศพุ่งเข้าหาร่างของมัน

“มิ๊ววววววววว” ซึ่งเมโล่เองก็ กลับถูกเสียงคำรามอันกึกก้องนั้นดูดร่างของมันให้ลอยไปหาเจ้าบอาราพานอีกด้วย

“หมับ” พงที่แม้จะเหนื่อยอยู่แต่เขาก็เอื้อมมือไปคว้าร่างของเมโล่มากอดเอาไว้ได้ทันท่วงที

“อ้าว”

“นี่นายทำไมไม่ผนึกสัตว์เลี้ยงล่ะ”

“ดูเหมือนว่าเจ้าราพานนั้นจะใช้สกิลดูดพวกแร็บบิทเจลเข้าหามันนะ” ทันทีที่สาถามเขาออกมาแล้วนั้นพงก็ได้ทำหน้าเอ๋อ ๆ ออกมาเพราะไม่เข้าใจที่เธอพูด จึงได้ทำให้สาเข้าใจเลยว่าพงได้รับเมโล่มาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่เขานั้นไม่มีไอเทมผนึกสัตว์เลี้ยงตัวเองแน่นอน

“ช่วยไม่ได้นะ”

“เอ๊า เอาไปซะ” แล้วสาก็ยื่นไอเทมแหวนชิ้นหนึ่งออกมาให้เขาไป

พงก็รับมาอย่างว่าง่าย แต่เพียงแค่เขาสัมผัสแหวนวงที่สายื่นมาให้นั้นเขาก็ทราบการใช้งานของมันได้ทันที

แหวนผนึกสัตว์เลี้ยง

ไอเทมเลเวล 1

-ใช้ทำการผนึกสัตว์เลี้ยงที่มีเลเวลต่ำกว่า 10 ได้ 1 ตัว ในแหวนสามารถเก็บอาหารของสัตว์เลี้ยงได้เพียง 1 ชนิด และจำกัดจำนวน 100 ชิ้น ไอเทมมีวันเสียหายซึ่งหากเสียหายแล้วจะทำให้สัตว์เลี้ยงออกมาจากแหวนโดยอัตโนมัติ หากใช้งานให้เอ่ยคำว่าผนึก แล้วตามด้วยชื่อของสัตว์เลี้ยง และ หากทำการปลดปล่อย ก็ให้เอ่ยคำว่า ปลดผนึก ออกมาแล้วตามด้วยชื่อสัตว์เลี้ยง

“ขอบคุณนะคับ”

“ผนึกเมโล่” พงรีบสวมใส่แหวนลงไปที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างเร่งรีบ ซึ่งไอเทมเร่งรีบนั้นแหละได้ทำให้ สาเกิดความคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาน้อย ๆ แต่เอฟเฟคของแหวนวงนี้นั้นก็ได้ทำงานขึ้น เมื่อร่างของเมโล่นั้นได้กลายเป็นสีชมพูอ่อน ๆ แล้วลอยเข้าไปยังตัวแหวนสีเงิน ซึ่งได้เกิดเป็น อัญมณีชิ้นเล็ก ๆ สีชมพูอ่อน ๆ ขึ้นมาที่กลางวงแหวนรอบนอก

“นี่เจ้ากระต่ายวุ้นของนายมันเป็นสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 7 เลยเหรอไงย่ะ” ที่สาถามออกมาเช่นนี้นั้นก็เพราะว่า เราสามารถรู้ระดับสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงของเราได้ด้วยวิธีเดียวก็คือการผนึกมันลงไปในไอเทมที่ใช้ผนึกมัน

ซึ่งระดับของสัตว์เลี้ยงนั้นก็จะเป็น 7 ระดับ เช่นเดียวกับไอเทม นั้นก็คือระดับต่าง ๆ ของสัตว์เลี้ยงจะปรากฏเป็นแร่ขึ้นมาที่อุปกรณ์ที่ใช้ในการผนึก

และระดับของสัตว์เลี้ยงจะปรากฏดังนี้

ระดับ 0-2 จะเป็นแร่ธรรมดา ๆ

ระดับ 3-4 จะเป็น พลอย

ระดับ 5-6 จะเป็นเพชร

ระดับ 7 จะเป็นอัญมณีนั่นเอง

แต่สาก็รู้ว่าตังเองคงไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด ซึ่งพงเองนอกจากไอเทมแล้วนั้นก็ไม่มีความสามารถที่จะตรวจสอบพวกสัตว์กลายพันธุ์ได้เช่นกัน

“นายท่านระวังตัวด้วยค่ะ”

“ราพาน ได้ทำการใช้สกิล จ้าวชีวิต สังเวยร่างของพวกแร็บบิทเจลทำให้พลังโจมตีและความแม่นยำเพิ่มขึ้นอีก 10,000 จุดแล้วค่ะ”

เสียงของอลิซ และ เอไอส่วนตัวของ สา นั้นได้แจ้งเตือนพวกเขามาจนทำให้สีหน้าของทั้งคู่นั้นดูซีด ๆ ลงไปทันที

“ดูซิว่ายังจะหลบพ้นอีกไหม”

“ซูมมมมมมมมมมมม” ราพานแสยะยิ้มออกมาเผยให้เห็นคมเขี้ยวที่เรียงกันอย่างน่ากลัวของสัตว์ร้าย และในตอนนี้มันก็ได้ทำการฟาดกรงเล็บลงพื้นดิน แต่ทว่ากลับเกิดขึ้นพลังระเบิดจากพื้นดินลากยาวขึ้นมาแล้วก็ได้พุ่งเข้าหาทั้ง 2 คนอย่างรวดเร็วอีกด้วย

“ตูมมมมมมมมมมม” คลื่นพลังของราพานได้กระแทกเข้าใส่ร่างของทั้ง 2 อย่างแม่นยำแล้วรุนแรงจนทำให้สานั้นกระเด็นไปนอนฟุบอยู่ห่างออกจากร่างของพงไม่กี่เมตร ซ้ำร้ายเธอยังติดอาการโคม่า (ใกล้ตาย) ทำให้ร่างกายขยับไปไหนไม่ได้อีกด้วย

ส่วนทางด้านของพงนั้นก็หนักหนาไม่แพ้กันเพราะตัวเขาในตอนนี้ ได้นอนเลือดท่วมอยู่กับพื้น แม้จะยังมีสติอยู่ก็ตามแต่ทว่า เจ้าราพานนั้นก็ได้เดินเข้ามาใกล้ ร่างของ สา แล้วก็ได้ง้างกรงเล็บของมันขึ้นมาราวกับว่าเป็นมัจจุราชกำลังใช้เคียวเกี่ยวพรากชีวิตของสาก็ไม่ปาน

“กรอดดดดดดดดดดด” พงกัดฟันแน่นพยายามแบกรับความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาไปทั่วร่างแล้ว รีบปาดาบลำแสงเล่นหนึ่งออกไปเข้าใส่ดวงตาของราพานที่กำลังยืนแสยะยิ้มอย่างพอใจที่กำลังจะปิดบัญชีกับสาที่นอนขยับไปไหนไม่ได้

และในความประมาทเหล่านั้นได้ทำให้กว่าเจ้าราพานจะรู้ตัวก็ได้ถูกโจมตีไปซะแล้ว

“ฉึกกกกกกกกกกกก” คมดาบใหญ่ลำแสงไปพุ่งเข้าไปปักตาด้านขวาของมันจนมืดบอดลงทันที ก่อนที่ตัวมันจะร้องคำรามออกมาอย่างเจ็บปวดแล้วพุ่งเข้าหาพงอย่างคลุ้มคลั่ง แล้วง้างกรงเล็บของมันเข้าฟาดใส่เขาร่างของเขาที่ยืนยังไม่ค่อยจะไหว

“ตูมมมมมมมมมมมมม” แม้จะเจ็บปวดไปทั้งร่าง แต่เขาในตอนนี้ต้องใช้สมาธิอย่างมากจึงทำให้พอจะหลบหลีกการโจมตีของราพานได้ แม้จะถอยออกไปได้ไม่ไกลเท่าใดนักก็ตาม

“ต้องล่อให้ไปไกล ๆ จากสา.............” ในตอนนี้พงเริ่มรู้สึกว่าสติของตัวเขานั้นเริ่มจะเลือนรางขึ้นมาเต็มที แต่ไม่ว่ายังไงเป้าหมายของราพานก็คงเป็นเขาแน่นอน พงเลยฝืนร่างกายของตนเองออกวิ่งล่อราพานให้ห่างจากสามากที่สุด

ราพานที่ตอนนี้ตาบอดไป 1 ข้างเมื่อเห็นว่าเหยื่อคู่อาฆาตของมันวิ่งหนีไปแล้วมันก็แสยะยิ้มออกมาราวกับว่าการกระทำของพงนั้นเปล่าประโยชน์มันจึงฟาดกรงเล็บลงพื้นเบื้องหน้าก็เกิดคลื่นพลังตรงดิ่งเข้าไปหาพงอย่างรวดเร็ว

“บรึมมมมมมมมมม”

“อ้ากกกกกกกกกก” คลื่นพลังจากกรงเล็บของราพานแล่นไปตามพื้นเข้าใส่ร่างของพงจนเกิดเป็นเสียงระเบิดดั่งสนั่นพร้อมกับร่างของพงที่หมดแรงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง กระเด็นกลิ้งไปกับพื้นหลายตลบเลยทีเดียว

“น่าจะห่างมาจากสาได้พอสมควรแล้วแฮะ”

“อ๋อย ~”

“แรงจะขยับตัวก็แทบจะไม่มีเลยเรา” พงในสภาพหมดแรงร่อแล่ใกล้ตาย เขาลองขยับตัวดูก็ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้อีกต่อไปแล้ว แถมเขายังสังเกตร่างกายของตนเองที่นอกจากจะโชกไปด้วยเลือดแล้วเปื้อนเปราะไปด้วยเศษดินตามร่างกายแล้วนั้น ร่างกายของเขายังมีแสงสีแดงล้อมรอบไปทั่วทั้งร่างกายเช่นเดียวกับสา นี่ย่อมแปลว่าตัวเขาติดสถานะโคม่าแล้วนั่นเอง

ราพานค่อย ๆ เดินมาหยุดลงตรงหน้าของโอคก่อนที่จะดึงเอาดาบลำแสงที่ปักอยู่ที่ตาของมันโยนทิ้งไป แล้วก้มลงยื่นหน้ามามองเขาที่หายใจรวยริน

“อันตรายมาก”

“ขืนปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปรับรองว่าเป็นภัยต่อตัวข้า และ ท่านก็อดแน่นอน”

“ยังดีนะที่ต่อให้ตาข้าบอดแต่สกิลสังเวยที่ใช้ไปเมื่อครู่นั้นฟื้นฟูให้กับร่างกายข้าไม่”

“ไม่เช่นนั้นแผลตรงดวงตาของข้าคงจะเน่าเฟะไปแล้ว” ราพานสบถออกพร้อมกับแผลที่ดวงตาของมันนั้นสมานสนิทกันอย่างรวดเร็ว เพราะร่างของมันยังอยู่ในผลของสกิลสังเวยนี่เอง

“ใช่แล้ว.........”

“ฟื้นฟูยังไงล่ะ !!!” แต่แล้วในระหว่างที่พงนอนรอความตายอยู่นั้น คำพูดของราพานก็ได้ไปสะกิดความคิดนึงแล่นผ่านเข้าไปยังสมองของเขาในทันที แถมเมื่อพงเห็นหนทางรอดและพอจะสู้กับราพานได้อย่างสูสีแล้วเขาก็แทบอยากจะเอาหัวโขกพื้นตายจริง ๆ

“เราเองก็มีสกิลดี ๆ อยู่ใกล้ ๆ”

“แต่ทำไมคิดไม่ออกกันนะ” เหมือนราพานจะได้ยินเสียงของพงพูดขึ้นมาด้วยมันจึงรีบลงมือจัดการกับเขาขั้นเด็ดขาดในทันที

“โทษทีนะคับ”

“ไม่มีครั้งที่ 2 อีกแล้วที่ผมจะพลาดท่า”

“ร่างสุริยัน”

“วิ้งงงง”

“แว่บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ” ในระหว่างที่กรงเล็บของราพานกำลังจะพุ่งลงมาทิ่มแทงไปยังร่างของพงนั้น เขาก็รีบเรียกใช้สกิลเพียงอย่างเดียวที่ทำให้รอดได้ในตอนนี้ขึ้นมา ซึ่งพอพงเรียกใช้สกิลนี้ออกมาแล้ว ก็เกิดสว่างสว่างสีทองเจิดจ้าไปทั่วทั้งทุ่งหญ้าแห่งนี้ จนทำให้เจ้าราพานถึงกับรีบเอามืออีกข้างมาปิดตาของมันพร้อมกับกระโดดถอยร่างกายของมันไปด้านหลัง 2- 3 เมตรอย่างระวังตัว

“หายไปไหนแล้ว............” เมื่อแสงสว่างอันเจิดจ้าที่เป้นสกิลแฟลชดับลงไปแล้ว ราพานก็หันมามองพงแต่ก็พบว่าตัวเขานั้นไม่อยู่ยังจุดเดิมแล้ว

“สุริยันสาดส่อง”

“วิ้งงงงงงงงงงงงงงง” ที่แท้พงอาศัยช่วงที่สกิลแฟลชทำงานเขารีบเคลื่อนร่างตัวเองไปเก็บดาบ และมาอยู่ใกล้ ๆ สาในทันที แถมเขานั้นยังใช้สกิลฟื้นฟูพลังให้กับสาอีกด้วย

“นายท่านค่ะสกิลที่นายท่านเพิ่งจะใช้ไปเมื่อครู่นั้น ใช้ได้แค่วันละครั้งเท่านั้นนะค่ะ” แล้วก็มีเสียงของอลิซแจ้งเตือนเขามาทันทีหลังจากที่เขาใช้สกิลออกไปเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้สา

“อืมมมมม”

“นับจำนวนการใช้ต่อวันเป็นแบบนี้เองซินะ”

“ขอบคุณมากคับอลิซ”

“และสาล่ะคับ”

“พอขยับตัวเองไหวไหม” พงหันมาถามใกล้ ๆ เพราะดูเหมือนว่าจะหายจากอาการโคม่า และเริ่มพยุงตัวไหวแล้ว

“= =”

“เห้”

“พงนายน่ะ”

“เป็นผู้เล่นใหม่จริง ๆ หรือเปล่า”

“ทำไมถึงได้มีสกิลฟื้นฟูร่างกายระดับสูงได้กันล่ะ”

“แล้วยังออร่าของ อัญมณีในตำนานอีก” แม้เธอจะอึ้งกับสกิลฟื้นฟูที่พงใช้ใส่ร่างของเธอก็ตาม แต่ที่เธออึ้งกว่าก็คือในตอนนี้ ทั่วทั้งร่างของพงนั้นได้มีออร่าสีส้มสดใสห่อหุ้มร่างกายของเขาอยู่ราวกับว่าคนตรงหน้านั้นเป็นเสมือนกับ ดวงอาทิตย์ที่ไม่ได้แผดแสงอันแรงกล้าแต่อย่างใด แต่ออร่าสีส้มที่เปล่งออกมาจากร่างของพงในตอนนี้นั้นกลับทำให้รู้สึกว่าอบอุ่นปลอดภัยมากกว่า

“อ่า............”

“เดี๋ยวค่อยอธิบายดีกว่าไหมคับสา”

“เพราะผมเพิ่งคิดสกิลใหม่ได้มาแต่ถ้าเกิดว่าผมลองใช้ดูผมกลัวว่า.........” พงพูดออกมาอย่างเกรงใจเพราะเขาไม่แน่ใจว่าสกิลใหม่ที่เขาเพิ่งจะคิดได้สด ๆ เมื่อครู่นั้นมันจะกินรัศมีเท่าไหร่ ซึ่งสาก็รู้ดีว่าคนตรงหน้าคงมีสกิลที่มีการโจมตีอันรุนแรงจนทำให้เธอพลอยโดนลูกหลงไปด้วยแน่นอน

“ก็ได้ขืนชั้นอยู่ก็คงจะเกะกะนายเปล่า ๆ ซินะ”

“ถ้างั้นก็เจอกันในเมืองวอทาวน์ก็แล้วกัน”

“แล้วอย่าลืมเก็บ ขมเขี้ยวของสัตว์ร้ายที่ดร็อปจากราพานมาให้ด้วยแล้วกันนะค่ะพี่ชาย”

“ไปล่ะ” สาพูดออกมาราวกับว่าเธอเชื่อมั่นคนตรงหน้าก่อนที่เธอจะเอาไอเทมสำหรับวาปไปยังเมืองวอร์ทาวน์ออกมาแล้วใช้ขึ้นมาทันที

“วิ้งงงง” ลำแสงวาปสีขาวสว่างขึ้นมาจากใต้เท้าของเธอก่อนที่ร่างของสาจะถูกวาปไปนั้นอยู่ ๆ เธอก็พูดออกมาดัง ๆ ว่า

“ชั้นก็ไม่ได้เป็นห่วงนายหรอกนะ”

“แต่ถ้าตายขึ้นมาล่ะก็............ชั้นไม่ยอมจริง ๆ ด้วย”

“ดูแลตัวเองด้วยล่ะ” แม้น้ำเสียงแรงจะพูดเสียงดังราวกับคนที่พูดออกมานั้น ไม่ได้ใส่ใจคนฟังเลยก็ตาม แต่ไอ 2 ประโยคหลังที่สาพูดออกมาแผ่วเบานั้น ได้ทำให้พงจับน้ำเสียงอันอ่อนโยนของสาวน้อยตรงหน้าได้ เขาจึงยิ้มออกมาอย่างผ่อนคลายแล้วพูดขึ้นมาว่า

“คับ”

“ผมจะไม่ตาย”

“และกลับไปหาสาแน่นอนคับ” พอพงพูดเสร็จร่างของสาก็หายไปในทันที โดยที่สาต้องแอบขอบคุณการวาปกลับเมืองของเธอจริง ๆ เพราะถ้าหากช้ากว่านี้ล่ะก็รับรองว่าพงต้องได้เห็นใบหน้าของเธอที่ตอนนี้แดงก่ำไปถึงหูซะแล้ว

อาการของสานั้นออกแนวสาวซึนป่าวหน๊อ~

อ๊ะอย่าเพิ่งอวย สาเป็นนางเอกนะคร้าบ เพราะนิยายเรื่องนี้ออกแนว ฮาเร็ม 60 % เลยทีเดียวจากพล็อตเรื่องที่ผมวางเอาไว้

Share this post


Link to post
Share on other sites

สนุกดีจะรอลุ้นตอนที่6 พยายามเข้าครับเป็นกำลังใจให้ :emo (56):

Share this post


Link to post
Share on other sites

:emo (12): ตอนที่6รออยู่นะครับอย่างทรมานใจ :emo (12): ( :emoother_07: อยากอ่านต่ออ๊ากกกกก :emoother_07: )

Share this post


Link to post
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
Sign in to follow this  

×
×
  • Create New...