Jump to content

sattawat100

Members
  • Content Count

    19
  • Joined

  • Last visited

Everything posted by sattawat100

  1. Part สุดท้ายแล้ว ต้อนรับเริ่มฉายอนิเมะสนุกๆ มากมายในฤดูใบไม้ผลิ สำหรับ 3 Part แรกถ้าคนไม่ดูแนว Robot, ไม่สน Light Novel และไม่อยากไปหาอนิเมะภาคแรกมานั่งดู ก็ยังจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของซีซั่นนี้ คือ แนวเรื่องที่มาสายบู๊เยอะและมีให้เลือกทั้งกลุ่มผู้ชมเพศชายและหญิง สังเกตว่าแนวอื่นๆ หดหายไปเยอะ ทั้งขายโมเอะเพียวๆ, Slice of Life, Comedy, หรือขายเซอร์วิส ถึงจะยังมีอยู่จัดว่าเป็นสัดส่วนน้อยกว่าซีซันก่อนๆ มาก ไปเน้นแนว Action ปน Adventure เพียบ แต่ถ้าใครชอบแนวฮาเร็ม, ยูริ, โลลิ แล้วผิดหวังกับฤดูนี้ล่ะก็ รอฤดูร้อน (เดือน 7) ไม่น่าจะผิดหวังมาไม่ต่ำกว่าสิบเรื่อง <a href="http://www.anime-th.com/2013/03/shingeki-no-kyojin-attack-on-titan-animation.html" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none;" target="_blank">Attack On Titan ผ่าพิภพไททัน (Manga) เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดกันมาก ถือเป็นเรื่องที่คาดหวังกันสูงมากเรื่องหนึ่ง ฉากใน Trailer ตัวแรกและตัวใหม่ก็ถือว่าทำได้ดีเรื่องหนึ่ง Devil Survivor 2 the Animaiton (Game) แนวต่อสู้กับปีศาจคล้ายกับ Persona 4 ยังได้ทีมงานชุดเดียวกัน น่าจะทำฉากต่อสู้ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ด้วยความยาวของเกมที่ค่อนข้างละเอียดพอสมควร และใช้ตัวละครเดินเรื่องหลักถึง 14 ตัว จะสื่อสารเนื้อเรื่องได้ดีแค่ไหน ก็ต้องดูกันต่อไปครับ Dansai Bunri no Crime Edge สายเลือดล่าสังหาร (Manga) เผย Art Work แรกได้ดูจืดๆ จนเหมือนแนวตัดผมหรือโรแมนติก แต่จริงๆ เป็นต่อสู้ด้วยอาวุธต้องคำสาป ถือว่าน่าสนใจ ก่อนฉายไม่ถึงสัปดาห์ก็เพิ่งปล่อยภาพที่ดูเหมือนแนวต่อสู้ขึ้นมาหน่อย แล้วค่อยปล่อยคลิปที่ดูทุ่มทุนตามมาทีหลัง Space Battleship Yamato 2199 (Original Anime – Remake) อนิเมะที่ดูจะนอกกระแสสำหรับคนไทยหน่อยและเป็นเรื่องรีเมคจากอนิเมะเก่า แต่ภาพทั้ง 2D กับ CG ดูทันสมัยมาก ทุ่มทุนเต็มที่เหมือนกับภาคที่ฉายในโรงภาพยนตร์ น่าจะถูกใจคนชอบแนวสงครามอวกาศที่ไม่ได้ใช้หุ่นยนต์รบกัน Mushibugyou หน่วยพิฆาตแมลงอสูร ภาคตั้งค่ายอาตมัน (Manga) สายการ์ตูนบู๊ในญี่ปุ่นย้อนยุคที่ต้องสู้กับพวกแมลงปีศาจ ช่วงแรกอาจดูเป็นการ์ตูนบู๊สายหลักโหลๆ ที่รับมือกับปีศาจเรื่อยๆ แต่พอความจริงบางอย่างเริ่มเปิดเผย จะสนุกขึ้นมาอีกระดับ เรื่องนี้ลงทุนฉายในช่วง Prime Time ในญี่ปุ่นทั้งที่ไม่ใช่เรื่องดังจากมังงะ ทางทีมงานคงมีความมั่นใจพอสมควร Arata Kangatari อาราตะตำนานเทพแห่งดาบ (Manga) เรื่องเก่าเรื่องหนึ่งที่ออกแนวผจญภัยระหว่างสองโลก มีฉากต่อสู้พร้อมผจญภัยปริศนา อาจไม่ดุเดือดเท่าเรื่องอื่น แต่ด้านเนื้อเรื่องที่แตกต่างจากหลายเรื่องโดยเฉพาะคนที่ไม่เคยอ่านมังงะมาก่อน ทำให้น่าติดตามทุกสัปดาห์ Karneval ล่าทรชน (Manga) ดีไซน์ภาพอาจจะดูขายกลุ่มผู้หญิงไปหน่อย แต่ความจริงออกแนวผจญภัยในโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยความลึกลับและปริศนามากกว่า ถ้า Hyakka Ryouran: Samurai Bride (Light Novel) ถึงจะเป็นเรื่องเดียวในซีซันนี้ที่ขายเซอร์วิสตรงๆ แต่ฉากต่อสู้ภาคแรกก็ถือว่าใช้ได้ ใครชอบแนว Senran Kagura ในภาคก่อน น่าจะชอบ เรื่องอื่นๆ ที่เคยกล่าวถึงไปแล้ว - กลุ่ม Robot 3 เรื่อง ก็ถือว่า Action เหมือนกัน - Date A Live แอ็คชั่นบู๊แบบแฟนตาซีผสมไซไฟ แล้วยังต้องเอาใจช่วยพระเอกให้พิชิตใจสาวๆ - To Aru Kagaku no Railgun S ขายตัวละครกับฉากสบายๆ แต่ฉากแอ็คชั่นในภาคแรกถือว่ามันส์พอตัว และบางฉากสนุกกว่าภาคหลักอีก - เรื่องอื่นๆ อย่างจอมมารรับจ๊อบ Hataraku Maou-sama! ก็มีฉากสู้บ้างเล็กน้อย, Leviathan เข้ากลุ่มแนวแฟนตาซีผจญภัย เพียงแต่เดินเรื่องด้วยสาวๆ โมเอะ, Saint Seiya Omega บท New Cloth ที่ใส่ชุดใหม่ ไม่ดูบอบบางเหมือนภาคแรก นอกจากเรื่องใน 4 Part ยังมีเรื่องอื่นๆ อย่างที่ไม่เข้าหมวดไหนและได้รับความสนใจจากผู้ชม มีเรื่องอีดอกนรก (Aku no Hana) อีกเรื่อง แต่น่าจะเข้ากลุ่มเดินเรื่องแปลกๆ มากกว่า กับเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง ลองตัดสินใจจากตารางรวมของ Spring 2013 ก็แล้วกันครับ Read more at http://www.anime-th.com/2013/04/spring-2013-focus-part-4-good-action-anime.html#oYcwHFBWS4jRMDem.99
  2. สมัยนี้ นิยายประเภท Light Novel อาจไม่ได้เป็นเกณฑ์ที่ใช้วัดความสนุกได้เหมือนเมื่อก่อน เพราะเอามาทำจนต้นฉบับเดิมเสียหายก็หลายค่ายอยู่ จนรู้สึกว่าแนวออริจินอลน่าจะคาดหวังได้มากกว่า แต่ก็มีหลายค่ายที่เคยทำแล้วดังเปรี้ยงในช่วงหลายปีก่อน อย่าง Ore no Imouto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai. และ Haiyore! Nyaruko-san บางเรื่องก็น่าจะมีสิทธิ์ลุ้นว่าจะดังขึ้นมาในซีซันนี้ได้เช่นกัน <a href="http://www.anime-th.com/2013/02/date-a-live-story-and-characters.html" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; font-family: Arial, Helvetica, sans-serif; font-size: 13px;" target="_blank">Date A Live พิชิตรัก พิทักษ์โลก เรื่องนี้คงไม่ต้องวิจารณ์มาก เพราะเป็นเรื่องที่คาดหวังกันสูง รวมทั้ง PV ที่ปล่อยมาแต่ละตัวก็ดูเร้าใจทั้งนั้น ไม่เพียงแค่คนที่ชอบแนวฮาเร็ม น่าจะได้ใจฐานคนที่ต้องการดูแนว Action ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในช่วงต้นปี ด้าน Staff ก็ถือว่าคุณภาพพอตัว ถ้าไม่พลาดบางจุดเองน่าจะเป็นเรื่องมาแรงในซีซันนี้ได้สบาย เรื่องนี้มี Pre-Air สำหรับตอนแรกเช่นกัน แต่เลื่อนฉายจากกลางเดือนไปวันที่ 30 มีนาคม Hentai Ouji to Warawanai Neko องค์ชายจิตป่วน กับน้องแมวยิ้มยาก อีกเรื่องที่คาดหวังกันเยอะ ทั้งดีไซน์ตัวละครที่น่ารัก กับเนื้อเรื่องดูสนุกอยู่ ไม่ได้ถึงกับเรื่อยเปื่อย และไม่ได้เน้นปริมาณตัวละครแบบไลท์โนเวลหลายเรื่องปัจจุบัน ทำให้ตัวละครแต่ละคนดูมีมิติและมีความสำคัญกับเรื่องในแต่ละตอนมาก สิ่งเดียวที่ห่วง คือ ไม่รู้ J.C.Staff จะไปทุ่มกับ Railgun S ที่ฉายซีซันเดียวกัน มากไปหรือเปล่า เพราะ Staff ที่ดูแลเรื่องนี้ใช้คนใหม่หมด แต่บางทีอาจจะมีฝีมือกว่าที่คิดก็ได้ (ยังดีกว่าคนเก่าแก่บางคนที่ทำผลงาน Fail หลายเรื่อง) ทั้งนี้ เชื่อว่าไม่ว่าจะทำออกมายังไง ก็น่าจะยังมีคนติดตามเยอะอยู่ดี RDG: Red Data Girl เรื่องอาจจะไม่คุ้นชื่อสำหรับคนไทยนัก แต่ได้ระดับสตูดิโอ P.A. Work มาดูแล ทำให้ค่อนข้างมั่นใจเรื่องคุณภาพมากขึ้น (ถึงบางเรื่องจะเคยมีเผางานบ้างก็เถอะ) เปิดตัวมาด้วยการปล่อย Pre-Air ตอนแรก และตอนสอง (ฉายคืนวันที่ 23 มีนาคม) ด้านเนื้อเรื่องออกจะไปหนักทางดราม่ามากกว่าด้านแฟนตาซีเหนือธรรมชาติ น่าจะได้กลุ่มคนดูที่ต่างจากเรื่องอื่น Hataraku Maou-sama! ถึงมาแนวจอมมาร แต่เทียบกับจอมมารเศรษฐศาสตร์ในซีซั่นก่อนแล้วไปคนละแนวกัน ออกแนว Slice of Life มากกว่า แต่ถึงยังไงก็ยังเป็นเรื่องที่เคยชนะรางวัล Silver Prize ของ Dengeki Novel Prize ครั้งที่ 17 ในปี 2010 มาก่อนฉบับมังงะก็ถือว่าสนุกพอสมควร อีกทั้ง White Fox เป็นค่ายที่ทำผลงานน้อยแค่ด้านเนื้อเรื่องเมื่อเทียบกับต้นฉบับแล้วถือว่าดีทุกเรื่อง อย่าง Steins;Gate, Jormungand, Katanagatari น่าจะปรับรายละเอียดบางอย่างให้เหมาะกับผู้ชมอนิเมะแล้ว Yahari Ore no Seishun Love Come wa Machigatteiru. เป็นเรื่องที่แทบไม่เผยความคืบหน้า คาดเดาไม่ถูกเหมือนกันว่า Brains Base จะเต็มที่กับเรื่องนี้แค่ไหน หรือแค่ระดับโปรโมทนิยายกับเกม PS Vita ที่กำลังจะออกในปีนี้ ยิ่งมาแนวพวกชมรมคล้าย Haganai NEXT ที่เพิ่งจบไป แต่มาแนวค่อนข้างอิงกับสภาพแวดล้อมนักเรียนมัธยมปลายมากกว่า เท่าที่ดูจากมังงะกับนิยาย ถ้าทำออกมาดีก็น่าจะได้กลุ่มคนดูเยอะพอสมควร โดยเฉพาะด้านตัวละครที่มีเอกลักษณ์ไม่น้อยเหมือนกัน Read more at http://www.anime-th.com/2013/03/spring-2013-focus-part-3-funny-light-novel.html#2SxdJtilPlSSSL2E.99
  3. อนิเมะสนุกๆ ของเดือนเมษายน 2556 ลองแบ่งจุดที่น่าสนใจแยกได้หลายข้อมาก ขอประเดิมกันที่หัวข้อเด่นสุด (และผมเขียนข้อมูลครบแล้ว ดูได้ตาม Link) มาเริ่มกันที่สงครามโรบอตกันก่อน ปกติเราจะเห็นหุ่นยนต์โรบอตซีซันหนึ่งไม่บ่อยนัก ต่อให้มี 3 – 4 เรื่อง ก็มีเรื่องเด่นแค่เรื่องเดียวเท่านั้น อย่างมากก็ 2 เรื่อง แต่ซีซันนี้กลับมีถึง 3 เรื่อง ที่ทั้งบริษัทสร้างก็ถือว่าใหญ่และตัวบุคลากรที่คัดเลือกมาก็น่าสนใจ ไม่น่าจะมีปัญหาด้านเนื้อเรื่องแบบยุค Gundam AGE ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 30px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Suisei no Gargantia (Gargantia on the Verdurous Planet) <a href=" http://1.bp.blogspot.com/-115RBmEoxaY/USoGLOGyNbI/AAAAAAAAFEM/NgzqTubOVck/s1600/Gargantia-on-the-Verdurous-Planet-615.jpg" imageanchor="1" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; margin-left: 1em; margin-right: 1em;"> ดูแลบทโดย Urobuchi Gen (Madoka Magica, Fate/Zero) ดีไซน์ต้นฉบับ Naruko Hanaharu (คนวาด Kamichu และโดจินหลายๆ เรื่อง) ผลิต : Production I.G. ข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องย่อ และตัวละคร ดีไซน์หุ่น และสภาพแวดล้อมในเรื่อง ความน่าสนใจ เป็นเรื่องที่อาจไม่ใช่แนว Robot กันเต็มตัวนัก แต่สำหรับคนที่ชอบความแตกต่าง ก็รู้สึกฮือฮาที่ได้คุณ Urobuchi Gen มาแต่งบทที่น่าจะสดใสแบบนี้ ความจริง อุโรบุจิ ก็ไม่ใช่คนชอบคิดพล็อตอะไรแปลกใหม่ แต่ทำให้พล็อตเรื่องที่เคยมีอยู่แล้ว มืดมนยิ่งขึ้น ดำดิ่งไปในความมืดมากขึ้น ถึงบางทีจะทำให้รู้สึกว่าจงใจทรมานก่อนฆ่าตัวละครเกินไปหน่อย ดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่บางคนก็ไม่ได้สนรายละเอียดพวกนั้น ทำให้มีคนชอบผลงานของเขามากขึ้นเรื่อยๆ พล็อตเรื่องค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเริ่มต้นมาสื่อถึงคนที่เกิดในแดนสงคราม ต้องมาอยู่ในโลกที่สงบสุข ช่วงแรกคงมาแนวกึ่งๆ คอมเมอดี้อยู่บ้าง แต่คงมีอะไรให้ค้นหากันต่อไปบนดาวที่พระเอกไม่เคยเห็นมาก่อนที่สงบสุขแบบนี้ จะเชื่อมโยงกับสงครามของมนุษย์ได้อย่างไร ? คงมีอะไรให้ผู้ชมได้ลุ้นกับทุกสัปดาห์ ไม่รู้ว่าสุดท้าย อุโรบุจิ อยากเขียนแนวสดใจปนสงครามนิดๆ ตามที่เคยกล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ หรือจะ Troll เหมือนสมัยอยากทำเรื่องอบอุ่น จนตับอุ่นแบบตอนเขียน Madoka Magica แต่แนวโน้มน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ถ้าพลิกดาวที่สดใส เขียวขจีตามชื่อเรื่อง จนกลายเป็นเรื่องหักมุมปนปวดตับได้นี่ก็น่าติดตามอยู่เหมือนกัน แต่ถ้ามาบู๊กันครึ่งหลังอาจไม่ได้ใจแฟนอนิเมะแนว Robot นัก เพราะอีก 2 เรื่องดูจะเน้นบทชายแดนสงครามตั้งแต่ต้น ต้องรอดูล่ะว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ด้านดีไซน์ตัวละครได้คนวาดตัวละครสวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คงได้เห็น Art Work สวยๆ อีกหลายภาพ ส่วนคุณภาพของ Production I.G. ก็ถือว่าสูงครับ ถึงงานล่าสุดจะถี่เกินไปจนมีเผาบ้าง แต่งานบางชิ้นน่าจะยังเชื่อในคุณภาพได้อยู่ style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 30px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Kakumeiki Valvrave (Valvrave the Liberator) ดูแลบทโดย Okouchi Ichiro (Code Geass) ดีไซน์ต้นฉบับ Hoshino Katsura (คนวาด D.Grey Man) ผลิต : Sunrise ข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องย่อ และตัวละคร ความน่าสนใจ ด้าน Sunrise ถือว่าเชื่ยวชาญอนิเมะหุ่นยนต์กว่าค่ายอื่นๆ ทำเรื่องใหม่มาน่าจับตามองอยู่เสมอ ได้คนวาด D.Grey Man มาออกแบบตัวละครให้ด้วย (แต่ผมรู้สึกคล้ายเรื่องอื่นมากกว่า D.Grey Man นะ) น่าสังเกตว่าพล็อตเรื่องนี้ เริ่มมาคล้ายกับ Gundam ภาคแรก ที่เกิดสงครามในประเทศฝั่งเป็นกลาง จนพระเอกได้พบหุ่นยนต์ น่าจะตั้งใจให้เหมือนอยู่แล้ว แต่นักเรียนคนหนึ่งมาขับหุ่นยนต์จะผู้เรื่องให้น่าติดตามได้อย่างไร ก็คงต้องไปดูต่อกันที่ผู้แต่ง ถึงคุณ Okouchi Ichiro จะเคยมีผลงานหลายเรื่องมากอย่าง Negima, Shigofumi, Angelic Layer, Azumanga Daioh และอีกหลายเรื่อง แต่ไม่ได้เป็นคนแต่งบทอนิเมะเองโดยตรง ทำให้แสดงฝีมือได้ไม่มากนัก มาดังเป็นพลุแตกตอนเขียนเรื่องแรก Code Geass: Lelouch of the Rebellion แต่ก็มีข่าวว่าไม่พอใจกับทางซันไรส์เรื่องการปรับเวลาฉาย จึงไม่ได้มีผลงานร่วมกันอีกและไม่ค่อยแต่งเรื่องให้กับอนิเมะบริษัทอื่น มีแค่เป็นผู้ช่วยตอนเขียน Guilty Crown เท่านั้น เรื่องนี้จึงเหมือนเป็นการพิสูจน์ฝีมืออีกครั้งของคุณ โอโคจิ ว่าเรื่อง Code Geass ดังได้ เป็นแค่ความบังเอิญหรือเปล่า ? ขาดผู้ช่วยอย่างคุณโยชิโนะ (Mai-Hime, Guilty Crown, Vividred Operation) จะเขียนบทได้ดีแค่ไหน ? ยิ่งมาเริ่มเรื่องคาแร็กเตอร์พระเอกที่ดูจะไม่มีความลับอะไรเลยเป็นพิเศษแบบลูลุชใน Code Geass น่าจะเป็นโจทย์ที่หนักอยู่ แต่เรื่องฆ่าตัวละครน่าจะหายห่วง เพราะมีแน่นอน ตอนเขียนบท Guiilty Crown 6 ตอน ก็มีแต่ตอนปวดตับทั้งนั้น อย่างตอน 7, 9, 11, 15, 17, 19 ดูจะเข้าสายนักฆ่าตัวละครอีกคน คงได้ลุ้นว่าใครจะตายเป็นความบันเทิงอีกอย่างหนึ่ง style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 16px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Ginga Kikoutai Majestic Prince ดูแลบทโดย Yoshida Reiko (Girls und Panzer, K-ON!, Tamako Market) ดีไซน์ Hirai Hisashi (Mobile Suit Gundam Seed, Heroic Age) ผลิต : Dogakobo ข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องย่อ และตัวละคร ดีไซน์หุ่นและ Wallpaper ความน่าสนใจ เรื่องนอกกระแสกว่าเรื่องอื่น จนน่าน้อยใจเลยทีเดียว บริษัท Dogakobo ก็ไม่เด่นเรื่องอนิเมะสายนี้ ผลงานล่าสุดก็ GJ-Bu กับ Mangirls ที่ไม่ดังมากนัก ให้หาข้อดีคงเด่นตรงลายเส้นแบบ Gundam Seed ที่เป็นเอกลักษณ์ คงต้องไปวัดกันตรงบท เรื่องนี้เคยมีมังงะมาก่อน แต่งโดยคนวาด GetBackers (อย่างนี้ต้องเอาคืน) ที่หันไปเป็นคนแต่งเรื่องแล้วให้คนอื่นวาดแทน พล็อตเรื่องเกี่ยวกับทีมที่รวมคนไม่ได้เรื่อง 5 คน ในแนวเขตแดนสงครามที่ต้องรบกับพวกศัตรู เพิ่งออกมาไม่กี่เล่ม แต่กระแสก็ไม่ได้ดีนัก นักเขียนบทหญิง Yoshida Reiko ถึงจะเคยดูแลเรื่องโมเอะแบบ K-ON! มาก่อน แต่ก็เป็นเรื่องที่ถูกเพิ่มเนื้อหาจากมังงะมาเกิน 50% จนมังงะโนเนมกลายเป็นอนิเมะดังระดับโลกไป เรื่องใหม่ที่แต่งสดสำหรับอนิเมะ อย่าง Tamako Market ก็ทำให้คนดูติดตามได้อย่างต่อเนื่องทั้งที่พล็อตเรื่องแทบไม่มีอะไร ยิ่งเรื่องสาวรถถังแบบ Girls und Panzer กลายเป็นอนิเมะเหนือความคาดหมาย จนเป็นม้ามืดของปี 2012 ทั้งที่มีบทต่อสู้ด้วย ก็นับว่าเขียนบทได้ไม่ธรรมดา กลายเป็นคนเขียนบทที่น่าจับตามองในรอบหลายปีนี้อีกคนหนึ่ง แต่เนื่อง Majestic Prince จากเรื่องนี้ไม่ได้ขายตัวละครหญิงเหมือน 3 ซีรีส์ดัง (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใช้ผู้ชายเด่นตามชื่อเรื่อง สาวๆ ก็น่ารักอยู่) คงต้องดูว่าจะแสดงฝีมือกับแนวนี้ได้มากแค่ไหน ซึ่งได้ผู้กำกับมีฝีมือจากเรื่อง Jormangand, Katanagatari มาดูแล น่าจะเสริมด้านบทต่อสู้ได้ดี อาจกลายเป็นม้ามืดอีกเรื่องของซีซันนี้แบบตอนทำ GuP ก็เป็นไปได้ สาเหตุที่ไม่กล่าวถึงผู้กำกับสองเรื่องแรก ไม่ได้หมายถึงไม่เด่น เป็นคนที่มากประสบการณ์ทั้งสองเรื่อง แต่คนเขียนบทกับออกแบบตัวละครถือว่าค่อนข้างเด่นกว่า ส่วนดีไซน์หุ่นเท่าที่สังเกตไม่ค่อยส่งผลต่อการติดตามมากนักเลยไม่ขอกล่าวถึงเช่นกัน สรุปว่าน่าติดตามทั้ง 3 เรื่อง คิดว่ามาคนละแนวกันแน่ๆ ถ้าชอบแนว Robot ซีซันนี้คงมีอะไรให้ดูกันเยอะกว่าทุกซีซันในรอบหลายปีนี้ แต่ละค่ายน่าจะกั๊กหมัดเด็ดทั้งข้อมูลและ PV มาปล่อยในเดือนมีนาคมนี้ รอติดตามความคืบหน้าของแต่ละเรื่องกันดีกว่า Read more at http://www.anime-th.com/2013/02/tv-anime-spring-2013-focus-part-1-big-3-robot.html#AoTKHypDw5f2xDOM.99
  4. อีกสิ่งหนึ่งที่แปลกสำหรับทีวีอนิเมะที่จะเริ่มฉายเดือนเมษายน 2556 คือ พวกซีรีส์ภาคต่อแรงๆ ของแต่ละซีซัน โคจรมาพบกันเยอะมาก นับเฉพาะเรื่องที่ขายได้ประมาณ 9 พันแผ่น จนถึงระดับเกือบ 3 หมื่นแผ่น (ใน Vol.1) นับได้ถึง 5 เรื่อง ใครเคยดูเรื่องพวกนี้แล้วยังชอบอยู่ คงได้รอดูแบบไม่ต้องคิดมาก สำหรับคนไม่เคยดู ถ้าเห็นมีคนกล่าวถึงเรื่องไหนบ่อยครั้ง จนรู้สึกว่าเรื่องนี้ฮิตจริง เดี๋ยวก็แสวงหามาดูทีหลังเพื่อเอามาพูดคุยกับคนอื่น จึงอยู่ในกลุ่มเรื่องที่มีอิทธิพลต่อผู้ชมสูง แบบไม่ต้องรอดู 3 - 4 ตอนว่าสนุกหรือเปล่า เรื่องที่เป็นภาคต่อ ได้เปรียบเรื่องซีรีส์ใหม่ตรงไม่ต้องปูเนื้อเรื่องและแนะนำตัวละครมากนัก อย่างตอนช่วง Baka to Test to Shoukanjuu Ni! ฉายพร้อมกับ Mayo Chiki! และ Yuru Yuri ในเดือน 7 ปี 2011 ช่วงฉายไปไม่กี่ตอน เคยมีคนตั้งกระทู้โหวตว่า เรื่องไหนฮากว่า ? เรื่องที่ได้เปรียบตกเป็นของเรื่อง Baka to Test (Season 2) เพราะเริ่มมาก็เล่นมุกกันได้ทันที ส่งผลให้มีบางคนดรอปแนวเดียวกันบางเรื่องไป ในญี่ปุ่นที่มีธรรมเนียม ซื้อภาคต่อแบบแทบจะไม่ต้องคิด ตามที่เห็นได้จากเกมภาคต่อต่างๆ กับอนิเมะสนุกๆ หลายเรื่อง จึงทำให้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า 5 เรื่องนี้น่าจะขายดีแน่นอน อาจยอดดรอปลงมานิดหน่อยซึ่งเป็นเรื่องปกติของอนิเมะซีซัน 2 และ 3 แต่ไม่น่าจะมากเกินไปนัก ถ้าใครเคยซื้อสัก 3 - 5 เรื่องนี้ ก็แทบจะไม่ต้องซื้อเรื่องอื่นเพิ่มแล้ว ส่งผลกระทบต่อยอดของเรื่องอื่นในแนวเดียวกันพอสมควร style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 30px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Ore no Imouto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai. (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 28,350แผ่น OreImo 2 เป็นเรื่องแนวชีวิตประจำวันที่สอดแทรกข้อคิด ทั้งปัญหาระหว่างพี่กับน้องและสภาพสังคมในญี่ปุ่น รวมทั้งด้านตัวละครก็มีเอกลักษณ์ ทำให้เป็นเรื่องขายดี ยิ่งซีซัน 2 นับเป็นภาคสุดท้ายที่จะดำเนินเรื่องจนอวสานเท่ากับฉบับนิยายที่กำลังจะจบลง น่าจะเป็นเรื่องมาแรงเรื่องหนึ่งแบบทิ้งทวน ทั้งนี้คงขึ้นกับว่าจบได้ดีแค่ไหน ถ้าไม่เข้าไปแก้บทมากเกินไปคงไม่ทำให้แฟนๆ เคืองหรอก <a href=" http://1.bp.blogspot.com/-M6aeNrw_ipo/UTNx0h4yKMI/AAAAAAAAFYU/MRhTwFJis9U/s1600/Ore-no-Imouto-Season-2.jpg" imageanchor="1" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; margin-left: 1em; margin-right: 1em;"> style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 20px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> To Aru Kagaku no Railgun S (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 24,495 แผ่น เป็นภาค Spin Off ที่ขายดีกว่าภาคหลักแบบ Index เสียอีก ไม่รวม Box Index SS1 ขายได้เพียง 12,000 แผ่น และ Index SS2 ขายได้ประมาณ 16,000 แผ่น (บางเว็บบอกยอดรวม SS2 ได้ 18,791 แผ่น) ด้วยทีมงานฝีมือดี เสริมบทให้แข็งกว่ามังงะ ด้านตัวละครกับบท Comedy ก็น่าติดตามอยู่แล้ว แถมฉาก Action ที่แม้จะมีไม่มากแต่ทำได้น่าประทับใจ ก็ดึงดูดให้คนติดตาม ยิ่งเข้าช่วง Sister Arc ด้วยก็น่าจะเป็นบทที่ดึงอารมณ์คนดูได้ดีระดับหนึ่ง น่าจะเป็นเรื่องที่มาแรง style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 20px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Uta no Prince-sama 2000% (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 24,685 แผ่น UtaPri 2 เป็นเรื่องที่ทำยอดขายแบบไม่น่าเชื่อ ถึงเจาะกลุ่มสตรีแต่ถ้าไม่อคติกับเรื่องที่ผู้ชายหล่อเยอะเกินไป ผู้ชมที่เป็นสุภาพบุรุษก็ดูได้ครับ ไม่ค่อยมีกลิ่น Y มารบกวนมาเกินไป ด้านดีไซน์ตัวละครก็ดูดีทั้งชายหญิง เนื้อเรื่องก็สนุก ปนทั้งแนวโรแมนติกกับคอมเมอดี้กับเสียงดนตรีเข้าด้วยกัน style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 20px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Haiyore! Nyaruko-san W (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 9,200 แผ่น เพิ่งผ่านไปปีเดียวหลังฉายซีซันแรก กระแสยังคงแรงอยู่ ถึงเรื่องจะออกซีเรียสจนไม่น่าติดตามในช่วงท้ายซีซันแรก แต่ซีซันใหม่ มีการเพิ่มตัวละครสายพี่สาวอย่าง Kuune ที่ส่งผลต่อตัวละครอื่น น่าจะกระตุ้นความสนุกของเรื่องนี้ยิ่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ส่วนด้านการล้อจะฮาขึ้นหรือเปล่าคงต้องวัดกันตรงฝีมือผู้กำกับ style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 16px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Yondemasu yo, Azazel-san. Z (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 9,643 แผ่น เป็นแนว Comedy ที่เห็นไม่ค่อยบ่อยนัก อิงทั้งเรื่องราวเหนือธรรมชาติ แต่อธิบายให้กลายเป็นเรื่องตลกบ้าบอคอแตกได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่อาจมีเซอร์ไพรส์ได้เหมือนกัน หมายเหตุ : ยอดเหล่านี้ไม่ใช่ยอด BD + DVD ล่าสุด แต่เป็นยอดประมาณการในช่วงที่ขายจนตกชาร์ตไป ส่วนใหญ่ทางบริษัทในญี่ปุ่นก็จะไม่บอกยอดเหล่านี้ตรงๆ เลยไม่ทราบว่ายอดปัจจุบันเพิ่มถึงระดับไหนแล้ว แต่คงบวกแค่หลักพันเท่านั้น นอกจากนี้ยังมี Hyakka Ryouran: Samurai Girls (6,451 แผ่น, ภาคใหม่ชื่อ Samurai Bride) อีกซีรีส์ภาคต่อที่ถึงจะขายได้ไม่เวอร์มาก แต่ในระดับแนว Fan Service ก็ถือว่าเยอะอยู่ น่าจะมาแย่งยอดเรื่องแนวเซอร์วิสเรื่องอื่นได้อีก ส่วนภาคต่อเรื่องอื่นๆ แบบ Pretty Rhythm Rainbow Live ไม่น่าจะมีผลกระทบกับยอดขายหรือผู้ชมมากนัก สำหรับคนที่ยังไม่เคยดูภาคแรกของ 5 เรื่องที่กล่าวถึงในบทความนี้ ก็น่าจะลองหามาชมดูครับ เรื่อง OreImo, Nyaruko-san และ Railgun มีลิขสิทธิ์ในไทยแล้ว ส่วนสองเรื่องยังพอหาชมจากเว็บ Download อนิเมะต่างๆ กว่าจะเริ่มฉายก็เดือนเมษายน Read more at http://www.anime-th.com/2013/03/tv-anime-spring-2013-focus-part-2-big-5-second-season.html#4ZWgCEThptuMCOTP.99
  5. ภายในงานกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า Earth Star Anime Matsuri ที่จัดขึ้นในงาน Anime Contents Expo 2013 ได้ประกาศแล้วว่าอนิเมะดัดแปลงจากมังงะแนวสยองขวัญของ Mogi Sayaka ที่ชื่อ Pupa กำลังจะได้เป็นอนิเมะ เรื่องนี้ตีพิมพ์ในนิตยสาร Comic Earth Star ตั้งแต่ปี 2011 และ Earth Star Enterainment เป็นผู้จัดจำหน่าย จนถึงเดือนมกราคมที่ผ่นามา ได้วางจำหน่ายฉบับมังงะไปแล้ว 3 เล่ม ส่วนชื่อเรื่องตั้งขำๆ นะครับ ไม่ใช่ชื่อฉบับมังงะในไทย เนื้อเรื่องย่อของเรื่อง Pupa (ピューパ) กล่าวถึงสองพี่น้องตระกูล Hasegawa คนพี่ Utsutu และคนน้อง Yume ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง Yume ได้เห็นผีเสื้อสีแดงบินผ่านต่อหน้า แล้วก็เกิดความเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของเธอ จนกลายสภาพร่างกายเปลี่ยนเป็นปีศาจที่ร่างอัปลักษณ์พร้อมความกระหายเนื้อคน ทำให้ชายผู้เป็นพี่ต้องพยายามหาวิธีลดความต้องการอาหารของเธอ และหาวิธีทำให้เธอกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง <a href=" http://1.bp.blogspot.com/-T_cbSFKWZCk/UVfugx1HwmI/AAAAAAAAGtk/tQqn0pi2hKU/s1600/pupa-manga-sample.jpg" imageanchor="1" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; margin-left: 1em; margin-right: 1em;"> ยังไม่มีการประกาศความคืบหน้าอื่น ไม่ว่าจะ Studio ที่รับผิดชอบ, ทีมงานหลัก-นักพากย์, ภาพตัวอย่างหรือ Promotion Video รวมทั้งกำหนดการฉาย แต่คิดว่าถ้าตอนนี้ไม่มีความคืบหน้า คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ อย่างเร็วคงเดือนตุลาคมหรือต้นปีหน้า แล้วก็ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะทำในรูปแบบไหน ซึ่งแนวสยองขวัญเลือดสาดไม่ค่อยเหมาะกับทาง TV สักเท่าไหร่ด้วย แต่ถ้าทำทางทีวีก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากชมอนิเมะ Horror ที่ไม่ได้พบเห็นกันบ่อยนักในอนิเมะที่ฉายทางทีวี ทั้งนี้ในญี่ปุ่นเอง อนิเมะแนว Horror ถือเป็นแนวที่ไม่ประสบความสำเร็จมากทั้งข้อจำกัดความรุนแรงและการเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดกว่าที่คนไทยคิด ทำให้ยอดขายแผ่นไม่ดีเท่าที่ควร จนทำให้ไม่ค่อยปรากฏอนิเมะแนวนี้บ่อยนัก ส่วนใหญ่จะทำเป็น Movie หรือ OVA อย่างพวก Corpse Party , Gyo เป็นต้น Read more at http://www.anime-th.com/2013/03/pupa-horror-manga-get-anime.html#MUF88QaK6Gmvsbfz.99
  6. หลังเกม Sword Art Online : Infinity Moment วางจำหน่ายไปเมื่อ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เห็นมีคนเข้าบทความเกมที่เกี่ยวกับระบบต่อสู้กันเยอะ ทั้งที่ไม่มี CG หรือตัวเกมใน PSP ให้ Download ในบทความนั้น ไปหารูป Complete CG ของเกมมาให้ชมกัน Download ได้ที่นี่ : <a href="http://www.mediafire.com/?908vefufb98cue5"'>http://www.mediafire.com/?908vefufb98cue5" rel="nofollow" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; font-family: Arial, Helvetica, sans-serif; font-size: 13px;" target="_blank">http://www.mediafire.com/?908vefufb98cue5 Credit ภาพ : คุณ dreammeen เว็บบอร์ด Tirkx.com รูปจากในเกม Sword Art Online Complete CG Read more at http://www.anime-th.com/2013/03/complete-cg-sword-art-online-infinity-moment.html#OSFoxKyxRC4OzdWG.99
  7. ป็นผลจากในนิตยสารเล่มหนึ่ง ถึง "คู่" ตัวละครที่ผู้อ่านรู้สึกชื่นชอบมากที่สุด ไม่จำกัดเพศ ซึ่งผลก็ไม่พลิกโผล ตรงคู่อวยอย่างหนุ่มทึ่มหัวเม่น กับสาวซึนบิริบิริ ได้อันดับ 1 กันตามคาด ทิ้งห่างนางเอกตามชื่อเรื่องอย่าง Index ไป 3 อันดับ และคะแนนห่างกันเกิน 4 เท่าตัว ส่วนคู่อื่นๆ ก็น่าสนใจตามลำดับเหมือนกัน อันดับ 2 เป็นของคู่ตัวเอกและผู้ร้ายที่กลายเป็นคนดีในภายหลัง น่าจะหมายถึงเป็นคู่กัดที่เท่ดี แต่อีกส่วนคงจะมีโหวตเพราะจิ้น Y กันบ้าง (สังเกตจาก Fan Art บางรูป) ตามมาด้วยคู่หงอกกับโลลิ ที่เข้าคู่กันดี จนถึงกับมีนิยาย Spin Off อีกเล่ม แต่ก็แพ้คู่หนุ่มฮอตไปหลายคะแนน ถึงยังไงก็ยังดีกว่าคู่ที่น่าจะเป็นพระนางของเรื่องแต่ดันได้ที่ 4 ตั้งแต่อันดับ 5 ลงมาก็ตามที่คนดูชอบ น่าจะมาจากด้านบทและฉากต่างๆ ภายในเรื่องเป็นหลัก style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 30px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> อันดับคู่ขวัญใจ 1. Touma x Misaka 932 คะแนน 2. Touma x Accelerator 781 คะแนน 3. Accelerator x Last Order 411 คะแนน 4. Touma x Index 215 คะแนน 5. Misaka x Accelerator 213 คะแนน 6. Index x Misaka 176 คะแนน 7. Misaka x Last Order 159 คะแนน 8. Index x Last Order 100 คะแนน 9. Misaka x Misaka Imouto 98 คะแนน 10. Misaka x Kuroko 86 คะแนน <a href=" http://3.bp.blogspot.com/-EmeLIh8RV2s/USneFocI_uI/AAAAAAAAFDs/UZfEwzkWVS0/s1600/top-10-to-aru-majutsu-no-index-poll-2013.jpg" imageanchor="1" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; margin-left: 1em; margin-right: 1em;"> สำหรับนิยายเรื่อง To Aru no Majutsu no Index (A Certain Magical Index) เคยมีอนิเมะ 2 ภาคแล้ว ภาคละ 24 ตอน และมีภาค Spin Off มังงะของฝั่งมิซากะจนได้มาทำอนิเมะ ในชื่อ To Aru Kagaku no Railgun (A Certain Scientific Railgun) อีก 1 ภาค จำนวน 24 ตอนเช่นกัน อนิเมะทุกภาคผลิตโดยบริษัท J.C.Staff และทุกภาคมีลิขสิทธิ์ในประเทศไทยโดยบริษัท DEX ในชื่อ อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม และ เรลกัน แฟ้มลับคดีวิทยาศาสตร์ สำหรับ To Aru Kagaku no Railgun S ซึ่งเป็นซีซัน 2 ของภาค Railgun จะฉายในเดือนเมษายนนี้ โดยจะกล่าวถึงบทของของสาว เนื้อหาเกี่ยวกับผู้ที่เก่งที่สุดในบรรดากลุ่มผู้ใช้พลังพิเศษระดับ Level 5 ด้วยกัน Accelerator ที่ต้องฆ่าพวกร่างโคลนของ Misaka เพื่อพัฒนาระดับ Level ให้ถึงระดับ 6 ตามที่พวกนักวิทยาศาสตร์ต้องการ ภาคนี้เคยกล่าวถึงในเรื่อง To Aru no Majutsu no Index ไปตั้งแต่ซีซันแรก แต่บทนี้จะเป็นมุมมองและความรู้สึกของมิซากะต่อร่างโคลนที่ถูกฆ่าแทน Read more at http://www.anime-th.com/2013/02/to-aru-majutsu-no-index-top-10-couple-poll.html#jSC7hLl68mqPML4A.99
  8. อีกสิ่งหนึ่งที่แปลกสำหรับทีวีอนิเมะที่จะเริ่มฉายเดือนเมษายน 2556 คือ พวกซีรีส์ภาคต่อแรงๆ ของแต่ละซีซัน โคจรมาพบกันเยอะมาก นับเฉพาะเรื่องที่ขายได้ประมาณ 9 พันแผ่น จนถึงระดับเกือบ 3 หมื่นแผ่น (ใน Vol.1) นับได้ถึง 5 เรื่อง ใครเคยดูเรื่องพวกนี้แล้วยังชอบอยู่ คงได้รอดูแบบไม่ต้องคิดมาก สำหรับคนไม่เคยดู ถ้าเห็นมีคนกล่าวถึงเรื่องไหนบ่อยครั้ง จนรู้สึกว่าเรื่องนี้ฮิตจริง เดี๋ยวก็แสวงหามาดูทีหลังเพื่อเอามาพูดคุยกับคนอื่น จึงอยู่ในกลุ่มเรื่องที่มีอิทธิพลต่อผู้ชมสูง แบบไม่ต้องรอดู 3 - 4 ตอนว่าสนุกหรือเปล่า เรื่องที่เป็นภาคต่อ ได้เปรียบเรื่องซีรีส์ใหม่ตรงไม่ต้องปูเนื้อเรื่องและแนะนำตัวละครมากนัก อย่างตอนช่วง Baka to Test to Shoukanjuu Ni! ฉายพร้อมกับ Mayo Chiki! และ Yuru Yuri ในเดือน 7 ปี 2011 ช่วงฉายไปไม่กี่ตอน เคยมีคนตั้งกระทู้โหวตว่า เรื่องไหนฮากว่า ? เรื่องที่ได้เปรียบตกเป็นของเรื่อง Baka to Test (Season 2) เพราะเริ่มมาก็เล่นมุกกันได้ทันที ส่งผลให้มีบางคนดรอปแนวเดียวกันบางเรื่องไป ในญี่ปุ่นที่มีธรรมเนียม ซื้อภาคต่อแบบแทบจะไม่ต้องคิด ตามที่เห็นได้จากเกมภาคต่อต่างๆ กับอนิเมะสนุกๆ หลายเรื่อง จึงทำให้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า 5 เรื่องนี้น่าจะขายดีแน่นอน อาจยอดดรอปลงมานิดหน่อยซึ่งเป็นเรื่องปกติของอนิเมะซีซัน 2 และ 3 แต่ไม่น่าจะมากเกินไปนัก ถ้าใครเคยซื้อสัก 3 - 5 เรื่องนี้ ก็แทบจะไม่ต้องซื้อเรื่องอื่นเพิ่มแล้ว ส่งผลกระทบต่อยอดของเรื่องอื่นในแนวเดียวกันพอสมควร style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 30px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Ore no Imouto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai. (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 28,350แผ่น OreImo 2 เป็นเรื่องแนวชีวิตประจำวันที่สอดแทรกข้อคิด ทั้งปัญหาระหว่างพี่กับน้องและสภาพสังคมในญี่ปุ่น รวมทั้งด้านตัวละครก็มีเอกลักษณ์ ทำให้เป็นเรื่องขายดี ยิ่งซีซัน 2 นับเป็นภาคสุดท้ายที่จะดำเนินเรื่องจนอวสานเท่ากับฉบับนิยายที่กำลังจะจบลง น่าจะเป็นเรื่องมาแรงเรื่องหนึ่งแบบทิ้งทวน ทั้งนี้คงขึ้นกับว่าจบได้ดีแค่ไหน ถ้าไม่เข้าไปแก้บทมากเกินไปคงไม่ทำให้แฟนๆ เคืองหรอก <a href=" http://1.bp.blogspot.com/-M6aeNrw_ipo/UTNx0h4yKMI/AAAAAAAAFYU/MRhTwFJis9U/s1600/Ore-no-Imouto-Season-2.jpg" imageanchor="1" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; margin-left: 1em; margin-right: 1em;"> style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 20px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> To Aru Kagaku no Railgun S (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 24,495 แผ่น เป็นภาค Spin Off ที่ขายดีกว่าภาคหลักแบบ Index เสียอีก ไม่รวม Box Index SS1 ขายได้เพียง 12,000 แผ่น และ Index SS2 ขายได้ประมาณ 16,000 แผ่น (บางเว็บบอกยอดรวม SS2 ได้ 18,791 แผ่น) ด้วยทีมงานฝีมือดี เสริมบทให้แข็งกว่ามังงะ ด้านตัวละครกับบท Comedy ก็น่าติดตามอยู่แล้ว แถมฉาก Action ที่แม้จะมีไม่มากแต่ทำได้น่าประทับใจ ก็ดึงดูดให้คนติดตาม ยิ่งเข้าช่วง Sister Arc ด้วยก็น่าจะเป็นบทที่ดึงอารมณ์คนดูได้ดีระดับหนึ่ง น่าจะเป็นเรื่องที่มาแรง style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 20px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Uta no Prince-sama 2000% (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 24,685 แผ่น UtaPri 2 เป็นเรื่องที่ทำยอดขายแบบไม่น่าเชื่อ ถึงเจาะกลุ่มสตรีแต่ถ้าไม่อคติกับเรื่องที่ผู้ชายหล่อเยอะเกินไป ผู้ชมที่เป็นสุภาพบุรุษก็ดูได้ครับ ไม่ค่อยมีกลิ่น Y มารบกวนมาเกินไป ด้านดีไซน์ตัวละครก็ดูดีทั้งชายหญิง เนื้อเรื่องก็สนุก ปนทั้งแนวโรแมนติกกับคอมเมอดี้กับเสียงดนตรีเข้าด้วยกัน style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 20px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Haiyore! Nyaruko-san W (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 9,200 แผ่น เพิ่งผ่านไปปีเดียวหลังฉายซีซันแรก กระแสยังคงแรงอยู่ ถึงเรื่องจะออกซีเรียสจนไม่น่าติดตามในช่วงท้ายซีซันแรก แต่ซีซันใหม่ มีการเพิ่มตัวละครสายพี่สาวอย่าง Kuune ที่ส่งผลต่อตัวละครอื่น น่าจะกระตุ้นความสนุกของเรื่องนี้ยิ่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ส่วนด้านการล้อจะฮาขึ้นหรือเปล่าคงต้องวัดกันตรงฝีมือผู้กำกับ style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 16px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Yondemasu yo, Azazel-san. Z (Season 2) ยอดขายแผ่นแรก (season 1) : 9,643 แผ่น เป็นแนว Comedy ที่เห็นไม่ค่อยบ่อยนัก อิงทั้งเรื่องราวเหนือธรรมชาติ แต่อธิบายให้กลายเป็นเรื่องตลกบ้าบอคอแตกได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่อาจมีเซอร์ไพรส์ได้เหมือนกัน หมายเหตุ : ยอดเหล่านี้ไม่ใช่ยอด BD + DVD ล่าสุด แต่เป็นยอดประมาณการในช่วงที่ขายจนตกชาร์ตไป ส่วนใหญ่ทางบริษัทในญี่ปุ่นก็จะไม่บอกยอดเหล่านี้ตรงๆ เลยไม่ทราบว่ายอดปัจจุบันเพิ่มถึงระดับไหนแล้ว แต่คงบวกแค่หลักพันเท่านั้น นอกจากนี้ยังมี Hyakka Ryouran: Samurai Girls (6,451 แผ่น, ภาคใหม่ชื่อ Samurai Bride) อีกซีรีส์ภาคต่อที่ถึงจะขายได้ไม่เวอร์มาก แต่ในระดับแนว Fan Service ก็ถือว่าเยอะอยู่ น่าจะมาแย่งยอดเรื่องแนวเซอร์วิสเรื่องอื่นได้อีก ส่วนภาคต่อเรื่องอื่นๆ แบบ Pretty Rhythm Rainbow Live ไม่น่าจะมีผลกระทบกับยอดขายหรือผู้ชมมากนัก สำหรับคนที่ยังไม่เคยดูภาคแรกของ 5 เรื่องที่กล่าวถึงในบทความนี้ ก็น่าจะลองหามาชมดูครับ เรื่อง OreImo, Nyaruko-san และ Railgun มีลิขสิทธิ์ในไทยแล้ว ส่วนสองเรื่องยังพอหาชมจากเว็บ Download อนิเมะต่างๆ กว่าจะเริ่มฉายก็เดือนเมษายน Read more at http://www.anime-th.com/2013/03/tv-anime-spring-2013-focus-part-2-big-5-second-season.html#lCuJr766RZacQJJT.99
  9. ฮาเร็มกู้โลก Date A Live อนิเมะสนุกๆ อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นไฮไลท์เด่นของซีซันหน้า กำหนดฉาย 5 เมษายนนี้ ที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ไลท์โนเวลติด Top 20 Light Novel ขายดีในปีก่อน มีลิขสิทธิ์ฉบับภาษาไทยโดยสนพ.รักพิมพ์ในชื่อ พิชิตรัก พิทักษ์โลก และมีฉบับมังงะออกมาบ้าง อนิเมะมีกำหนดฉายล่วงหน้าตอน 1 ในวันที่ 30 มีนาคมนี้ เวลา 24.00 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น (หรือ 22.00 น. บ้านเรา) เรื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่สาวๆ เยอะ แต่ด้านฉากต่อสู้ก็ดุเดือด ทีมงานยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าคุณภาพระดับอนิเมะชั่นฉายโรง style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 30px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> Date A Live (デート・ア・ライブ) Director : Motonaga Keitaro (Majestic Prince, School Days, Jormungand) Series Composition : Shirane Hideki (Hayate the Combat Butler, Queen's Blade: Rebellion) Character Design : Ishino Satoshi (Excel Saga, Nogizaka Haruka no Himitsu) Mecha Design : Akitaka Mika (Martian Successor Nadesico, Galaxy Fraulein Yuna) Visual Director : Saito Hisashi (Boku wa Tomodachi ga Sukunai, Sora no Otoshimono) World Setting Advisor : Suzuki Takaaki (Strike Witches, Last Exile) Original Creator : Tachibana Koushi (Story), Tsunako (Illustration) Studio : AIC PLUS+ Aired : 5 เมษายน 2013 [Pre-Air 30 มีนาคม 2013] Opening Theme (OP 1) : Save the World โดย Nomizu Iori Ending Theme (ED 1) : ยังไม่ประกาศ <a href=" http://3.bp.blogspot.com/-MbtweUJiJiU/UTx_lSumwYI/AAAAAAAAFk8/asdNXImUgjo/s1600/date-a-live-anime-newtype-magazine.jpg" imageanchor="1" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; margin-left: 1em; margin-right: 1em;"> style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 20px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> เนื้อเรื่องย่อ เมื่อ 30 ปีก่อนปรากฏการณ์เกิดการสั่นไหวในอากาศจนทำลายทุกสิ่งเป็นวงกว้างในอากาศ เรียกว่า Spacequake สร้างความสูญครั้งใหญ่แก่เหล่ามนุษย์ หลังจากนั้นก็เกิด Spacequake ขนาดย่อมขึ้นหลายจุดทั่วโลกจนกลายเป็นเรื่องปกติไป ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน Itsuka Shidou ที่ได้พบกับหญิงสาวที่ถูกเรียกว่า Spirit จากต่างมิติ เธอนั้นมีพลังมหาศาลพอจะทำลายทุกสิ่งได้ภายในพริบตา แล้วการปรากฏตัวของเธอจากต่างมิติ ยังเป็นต้นเหตุของการเกิดปรากฏการณ์ Spacequake ในพื้นที่นั้น วิธีที่จะยุติหายนะนอกจากจากกำจัดเธอโดยกลุ่มนักฆ่าสปิริต อย่างหน่วย AST (Anti-Spirit Team) ยังมีอีกหนทาง คือ เจรจากับพวกเธอ ทำให้อิตสุกะที่ตัดสินใจเข้าร่วมกับองค์กรที่ต้องการเจรจากับสปิริต Ratatoskr แต่สิ่งที่อิตสุกะต้องทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน คือ ต้องจีบ Spirit ตนนั้น ด้วยการออกเดทกับเธอ (ตามชื่อไทย พิชิตรัก พิทักษ์โลก จริงๆ) style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 16px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> ตัวละคร Itsuka Shido พากย์ : Shimazaki Nobunaga นักเรียนมัธยมปลายโรงเรียน Raizen เด็กหนุ่มธรรมดาที่ไม่ได้สนใจผู้หญิงอื่นเป็นพิเศษ จนมีเหตุให้ต้องมาเดทกับพวก Spirit ที่รุกรานโลก เขาอาศัยกับน้องสาว โคโตริ ความจริง เขามีความสามารถพิเศษที่พิเศษกว่าคนทั่วไป (Spoil) Show/hide Yatogami Tohka พากย์ : Inoue Marina Code Name “Princess” / Sephira ลำดับที่ 10 สปิริตตนแรกที่ปรากฏตัวในเรื่อง เธอดูเกรี้ยวกราดในตอนแรก แต่ความจริงเพราะถูกโจมตีโดยกลุ่ม AST ตัวจริงของเธอกลับเหมือนเด็กที่ไร้เดียงสาที่ไม่รู้จักทั้งด้านอารมณ์และไม่มีแม้แต่ชื่อ จึงตั้งชื่อให้ตามวันและเดือน (10 เมษายน) เมื่ออยู่ในสภาพนักเรียน เธอก็เป็นคนร่าเริงที่สนิทกับอิตสุกะ Tobiichi Origami พากย์ : Togashi Misuzu เพื่อนร่วมชั้นของชิโดที่เด่นในโรงเรียน ที่ดูเย็นชาเหมือนตุ๊กตา แต่ความจริงเธอเป็นสมาชิกของหน่วย AST ซึ่งพ่อแม่ของเธอตายเพราะพวก Spirit ทำให้เธอแค้นต่อพวก Spirit เหล่านั้น Itsuka Kotori พากย์ : Taketatsu Ayana น้องสาวที่ดูสนิทกับอิตสุกะ ความจริงเป็นผู้บัญชาการของยานบน Fraxinus หน่วย Ratatoskr บุคลิกจะเปลี่ยนไป ไม่ได้เคารพพี่ชาย Yoshino พากย์ : Nomizu Iori Code Name “Hermit” / Sephira ลำดับที่ 4 Spirit ลำดับที่ 2 เด็กสาวขี้อายใจดี ถือตุ๊กตาที่เรียกว่า Yoshinon ไว้ตลอดเวลา และจะพูดผ่านตุ๊กตาแทนตัวเอง ความสามารถของเธอ เป็นการควบคุมน้ำในสถานะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของเหลว, แข็ง หรือ ไอน้ำรอบบริเวณ Tokisaki Kurumi พากย์ : Sanada Asami Code Name “Nightmare” / Sephira ลำดับที่ 3 Spirit ลำดับที่ 3 ดูโหดกว่า Spirit ตนอื่นๆ ตอนแสดงพลังสปิริตจะใส่ชุด Astral Dress เป็นชุดแบบ Gothic Lolita ในช่วงแรกเธอจะปรากฏตัวในบุคลิกที่ดูเหมือนเด็กสาวทั่วไป ผมบังตาซ้าย ดูอ่อนโยน เป็นนักเรียนที่ย้ายมาเรียนห้องเดียวกับอิตสุกะและบอกเรื่องที่เธอเป็น Spirit ตั้งแต่แรกต่อหน้าคนอื่น แต่เมื่อเธอแสดงพลังจะดูเป็น Spirit ที่ดุร้ายราวกับนักฆ่า Murasame Reine พากย์ : Endo Aya สาวอัจฉริยะที่อยู่หน่วยวิเคราะห์ข้อมูลของ Ratatoskr และจะรับบทบาทเป็นครูห้องพยาบาลในภายหลัง Okamine Tamae พากย์ : Sadohara Kaori อาจารย์สาวประจำชั้นเรียน Takamiya Mana พากย์ : Misato เด็กสาวที่ไม่มีความทรงจำในอดีต เหลือเพียงจี้ห้อยคอที่มีรูปเธอและพี่ชายของเธอ เธออยู่ตำแหน่ง DEM Wizard และทำงานร่วมกับพวก AST Tonomachi Hiroto พากย์ : Katsu Anri เพื่อนร่วมชั้นของอิตสุกะ Kannaduki Kyouhei พากย์ : Koyasu Takehito ชายผู้เป็นรองผู้บัญชาการของยานบิน Fraxinus องค์กร Ratatoskr ถึงจะตำแหน่งสูงและหน้าตาดูดี แต่ความจริงกลับเป็นพวกมาโซ และติงต๊องเหมือนกับลูกเรือส่วนใหญ่ Read more at http://www.anime-th.com/2013/02/date-a-live-story-and-characters.html#ZdVVHxgZcqoMMroy.99
  10. เป็นการโหวตในหัวข้อ “อนิเมะที่อยากให้มี Season 2” นับเฉพาะเรื่องที่จบภาคแรกไป แต่ยังไม่มีวี่แววของภาคต่อ บางเรื่องถึงอวสานตามนิยายไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนอยากเห็นภาคต่อ ผลโหวตนี้ มีคนลงคะแนนไปร่วม 5, 646 โหวต ปิดไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 30px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> อันดับที่ 1 - 10 1. Hyouka 450 คะแนน เรื่องของชมรมวรรณกรรมโบราณที่ต้องพัวพันกับปริศนาต่างๆ ในโรงเรียน ถึงปริศนาจะเรื่องดูเรียบง่ายแต่ก็ทำให้คนดูสนใจและติดตามชมได้เรื่อยๆ ถ้าจะทำต่อคงต้องเขียนนิยายเพิ่ม หรือทำฉบับ Original ต่อ วันนี้ เพิ่งมีประกาศ LC จากทาง Rose ในไทย <a href=" http://2.bp.blogspot.com/-5mNd48tRfZo/URdU7d4vm2I/AAAAAAAAD4I/l8SFsmCzSpg/s1600/01-hyouka.jpg" imageanchor="1" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; margin-left: 1em; margin-right: 1em;"> 2. Sword Art Online 437 คะแนน มาตามกระแส ซึ่งก็ยังมีคนต้องการภาคต่ออยู่ ซึ่งยังเหลือเนื้อหานิยายอีกค่อนข้างเยอะเหมือนกัน และนิยายยังไม่จบ เพิ่งมีกำหนดวางขายนิยายเล่ม 12 มีกำหนดวางขายในญี่ปุ่น 10 เมษายน ภาค 2 มีอยู่แล้ว แต่ประกาศเมื่อไหร่ ก็ไม่ทราบเหมือนกัน 3. Inu x Boku SS 366 คะแนน ฉบับมังงะ “คุณหนูปากร้าย X จิ้งจอกปีศาจ” เป็นเรื่องราวของพวกสืบสายเลือดปีศาจที่มาอาศัยในแมนชั่นอายาคาชิ แต่ละคนจะอยู่ภายใต้การคุ้มกันของกลุ่มบอดีการ์ด SS ป้องกันศัตรูจากโลกภายนอก ถ้าต่ออีกซีซันจะเริ่มส่วนหักมุมของเรื่องตอนท้ายมังงะเล่ม 4 พอดี เป็นเรื่องที่น่าจะทำต่ออยู่แล้ว เพราะทำกำไรให้กับบริษัท David Production จนกลายเป็นเรื่องสร้างชื่อไป (หลังไม่ค่อยกำไรกับเรื่อง Level E กับ Ben-To) แต่คงต้องรอคิวอีกหลายเรื่อง วันนี้ เพิ่งมีประกาศ LC จากทาง Rose ในไทย 4. Chuunibyou demo Koi ga Shitai! 295 คะแนน กล่าวถึงตัวเอกที่ตัดขาดจากอาการ Chuunibyou แต่ต้องมาพบเพื่อนร่วมชั้นม.ปลาย ที่ยังมีอาการนี้อยู่ เริ่มด้วยคอมเมอดี้แต่ก็จบด้วยโรแมนติกปนดราม่าไปได้ด้วยดี ทำให้กลายเป็นเรื่องขายดีอีกเรื่องของทาง Kyoto Animation แต่มีการแต่งบทจากนิยายค่อนข้างเยอะ และแทบไม่กล่าวถึงตัวละครในนิยายเล่ม 2 สักนิด ทำให้คนดูยังคาใจ อยากดูต่อ แต่ไม่รู้จะต่อยังไงให้สนุกเหมือนภาคแรก 5. Tonari no Kaibutsu-kun 291 คะแนน ฉบับมังงะ “หวานใจนายตัวป่วน” เรื่องของเด็กสาวเย็นชาสนใจแต่การเรียน ที่ต้องมารู้จักกับหนุ่มที่ดีดูภายนอกเหมือนอันธพาล แต่ภายในกลับอินโนเซ็นส์และบ้าบอแบบสุดๆ อีกเรื่องที่มาแรงในเดือนตุลาคมแบบคาดไม่ถึง ทั้งไทยและญี่ปุ่นกล่าวถึงกันเยอะ มังงะก็พอทำต่ออีกภาคได้สบาย แต่ยอดขายไม่ได้แรงตาม อาจเพราะเป็นซีซันที่มีการแข่งขันเยอะเกินไป แนวโน้มทำภาคต่อดูจะยากน่าดู 6. Jinrui wa Suitaishimashita 270 คะแนน อนาคตอันไกลโพ้น โลกที่มนุษย์มีประชากรลดลง จนพวกคุณภูติตัวจิ๋วมีจำนวนมากกว่า ตัวเรื่องกล่าวถึงตัวเอกของเรื่องที่ต้องมาประสานความสัมพันธ์ระหว่างคุณภูติและมนุษย์ แต่เรื่องวุ่นวายหลายๆ อย่างก็เริ่มขึ้น ค่อนข้างได้รับความนิยมในญี่ปุ่น พอมีแนวโน้มทำภาคต่อบ้าง 7. Nichijou 252 คะแนน ฉบับมังงะ “สามัญขยัญรั่ว” เรื่องชีวิตประจำวัน ของ 3 สาว 1 หุ่นยนต์ ที่ผสมมุกฮาปนมุกแป๊ก กระแสไม่ค่อยดีเพราะครึ่งแรกถูกดัดแปลงจากมังงะเยอะเกินไป เพิ่มบทโมเอะเพื่อดันตัวละครก่อนมาเริ่มเรื่องจริงๆ ครึ่งหลัง ภาคต่อเรื่องนี้คงจะยากเพราะแม้จะขายพอได้ แต่ทางอนิเมเตอร์ ยังบ่นว่าขาดทุนเลย แต่ถ้าทำแค่ 12 – 13 ตอนจบ และทำตามมังงะตรงๆ อาจพอมีลุ้นบ้าง 8. Joshiraku 214 คะแนน กลุ่ม 5 สาวที่แสดงตลกแบบสไตล์ญี่ปุ่น มีเรื่องราวทั้งเดี่ยวไมโครโฟนหน้าเวที และเปิดประเด็นคุยกันหลังเวที เต็มไปด้วยมุกเสียดสีตามสไตล์คนแต่งเรื่อง “ซาโยนาระ คุณครูผู้สิ้นหวัง” ถือเป็นแนว Comedy ที่ตลกเรื่องหนึ่ง เรื่องทำต่อคงไม่ยากเพราะเสริมมุกจากมังงะเยอะมาก แต่รู้สึกยอดขายภาคแรกจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ 9. Sket Dance 196 คะแนน สร้างจากมังงะกระแสดีในจั๊มป์ เรื่องของชมรมที่รับช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่างๆ ภายในโรงเรียน คุณภาพฉบับอนิเมะอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นของจั๊มป์ที่ทำเป็นอนิเมะ น่าจะทำภาคต่อได้ไม่ยาก *อนิเมะทำไปถึง 77 ตอน แบ่งเป็น 2 ซีซัน แต่เนื่องจากฉายต่อเนื่องกันทำให้บางคนรู้สึกว่าเคยทำแค่ซีซันเดียว 10. Girls und Panzer 185 คะแนน กล่าวถึงโลกที่การควบคุมรถถัง (Sensha-do) กลายเป็นกีฬาและการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หญิง กล่าวถึงตัวเอกจากตระกูลที่เลื่องชื่อเรื่องการขับรถถัง Panzer แต่กลับไม่ต้องการขับอีก จนถูกบังคับให้เข้าร่วมการแข่งในชมรม เป็นเรื่องมาแรงในช่วงปลายปีก่อนและขายดีจนแผ่นขาดตลาด และยังคงกล่าวถึงต่อเนื่องเพราะ 2 ตอนสุดท้ายยังไม่ฉาย รอฉายปลายเดือนมีนาคมนี้ ดูแล้วคงมีต่อค่อนข้างแน่นอนเรื่องหนึ่ง (อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ไม่ค่อยโหวต) ในไทยประกาศลิขสิทธิ์ไปเมื่อเดือนก่อน style="margin-bottom: 16px; font-weight: normal; line-height: 1; font-size: 20px; color: rgb(0, 0, 0); font-family: Arial, Helvetica, sans-serif;"> อันดับที่ 11 - 20 Binbougami-ga! ไม่ติด top 10 11. Binbougami-ga! 12. Papa no Iu Koto 13. Kami-sama Hajimemashita 14. Ouran High School Host Club 15. Ano Natsu de Matteru 16. BTOOOM! 17. Acchi Kocchi 18. Ben-To 19. Mayochiki 20. Pandora Hearts ในโพลยังขาดบางเรื่องไป ที่ไม่มีใน 50 ตัวเลือก อย่าง Danshi Koukousei no Nichijou หรือเรื่องที่ยังไม่จบหลายๆ เรื่อง Read more at http://www.anime-th....39ZwzQKjVrZW.99
  11. บางคนติดนิสัยตัดสินอนิเมะเพียง 1 – 2 ตอนแรก พอเห็นว่าเปิดตัวธรรมดาหรือพล็อตเรื่องคล้ายกับอนิเมะที่เคยดูก็เลิกดู-ลบไฟล์ทิ้งทันที ทำให้พลาดอนิเมะสนุกๆ ที่เดินเรื่องช้าไปหลายเรื่อง ซึ่งอนิเมะประเภทนี้ปรากฏในทุกซีซั่นเป็นเรื่องปกติ ถึงจะไม่ได้ระดับพวก Steins;Gate แต่ก็มีหลายเรื่องที่มีดีกว่าที่เห็นตอนแรกๆ ดังนั้นก่อนจบซีซั่นฤดูหนาว 2013 จึงมีการทำโพลสำรวจว่าอนิเมะที่เพิ่งเริ่มฉายหรือยังฉายอยู่ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ไม่ควรดรอป ปิดผลโหวตไปเมื่อ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ผลโหวตรวม 5,041 คะแนน มีให้เลือก 26 ตัวเลือก โพลนี้นับรวมถึงเรื่องตุลาคมที่ฉายถึงซีซันนี้ มีข้อยกเว้นบางเรื่องอย่าง <a href="http://www.anime-th.com/2013/02/review-kotoura-san.html" style="color: rgb(238, 92, 17); outline: none; font-family: Arial, Helvetica, sans-serif; font-size: 13px;" target="_blank">Kotoura-San กับ Boku wa Tomodachi ga Sukunai NEXT เปิดตัวมาได้สนุกมากตั้งแต่ตอนแรกอยู่แล้ว จึงถูกตัดออกจากผลสำรวจไป สำหรับคนที่สงสัยว่าทำไมบางเรื่องสนุกๆ กลับอยู่อันดับล่าง เพราะบางเรื่องสนุกอยู่แล้วหรือคนดูเยอะจึงไม่น่าโหวต ในทางกลับกันอาจเป็นเรื่องที่หลังตอนแรกๆ ก็ไม่ได้สนุกขึ้นจากเดิมก็ได้ ทำให้รั้งท้ายอันดับไป 1. Ore no Kanojo to Osanajimi ga Shuraba Sugiru 472 คะแนน 2. Zetsuen no Tempest 420 คะแนน 3. Psycho-Pass 357 คะแนน 4. Love Live! 342 คะแนน 5. Sakura-sou no Pet na Kanojo 310 คะแนน 6. Vividred Operation 270 คะแนน 7. Little Busters! 225 คะแนน 7. Tamako Market 225 คะแนน 9. Chiyafuru 2 220 คะแนน 10. Zettai Karen Children – The Unlimited 206 คะแนน 11. Shin Sekai Yori 191 คะแนน 12. Senran Kagura 174 คะแนน 13. Minami-Ke Tadaima 165 คะแนน 14. AMNESIA 154 คะแนน 15. ROBOTICS;NOTES 144 คะแนน 16. GJ-Bu 143 คะแนน 17. D.C.III 124 คะแนน 18. Mondaiji-tachi ga Isekai kara Kuru Sou Desu yo? 122 คะแนน 19. Hakkenden: Touhou Hakken Ibun 116 คะแนน 20. Cuticle Detective Inaba 115 คะแนน 21. Sasami-san@ganbaranai 110 คะแนน 22. JoJo's Bizarre Adventure 104 คะแนน 23. Maoyuu Maao Yuusha 94 คะแนน 24. Ixion Saga DT 93 คะแนน 25. AKB0048 next stage 85 คะแนน 26. Bakumatsu Gijinden Roman 60 คะแนน อธิบายย่อๆ ก็ Ore no Kanojo to Osanajimi ga Shuraba Sugiru เปิดตัวได้จืดตั้งแต่เริ่มจริง ตอนแรกแค่สรุปความได้ว่าพระเอกโดนแบล็คเมล์ให้เป็นแฟน อีกทั้งยังดูด้อยกว่ามังงะหรือไลท์โนเวล หลังจากตอนแรกไปถึงเริ่มดูดีขึ้น, Zetsuen no Tempest เริ่มมาอาจเหมือนแอ็คชั่นธรรมดา แต่เรื่องมีการปนจิตวิทยาและแฝงคำคมค่อนข้างเยอะ, Psycho-Pass เปิดตัวมาเหมือนก็อบหนังเรื่อง Minority Report มาเต็มๆ ช่วงหลังสะท้อนปัญหาสังคมและเสริมเนื้อเรื่องให้ซับซ้อนจนต่างจากหนัง, Love Live! ดูจะเป็นแนวไอดอลขายตัวละครธรรมดา แต่เสริมบทตัวละครให้สนุก มีการพัฒนาตัวละคร ปนบทดราม่า และเสริมคอเมอดี้ จนกลายเป็นมีดีกว่าที่เห็น, Sakura-sou no Pet na Kanojo ถึงจะมาแนวรักหวานๆ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความฝันและความสัมพันธ์ของตัวละคร Read more at http://www.anime-th....iJsCb6YiLoSY.99
×
×
  • Create New...