Jump to content

guideza

Special
  • Content Count

    780
  • Joined

  • Last visited

Everything posted by guideza

  1. แคชได้หน้าเล่นอะ เป็นกำลังใจให้อีกคน
  2. ภาพสวยมากเลย ชมภาพนะไม่ชมคนคอส
  3. ช่ายๆโพสติดต่อกันมากๆมันหน้าเกลียดไป ค่อยๆโพสก็ได้ (เอ~~เราจัดอยู่ในพวกปั้มป่าวหว่า )
  4. คุณคือใคร 5555++
  5. เนี่ยแหละสิ่งที่ตามหามานาน (ต้นแบบในการจะเขียน)
  6. ใช่ๆใครมันจะไปซื้อละนั่น
  7. ผมว่ามันยังสั้นอยู่เลยนะเพราะมันยังแค่1/4ของตอนเอง
  8. ผมแค่เข้าเฟสซักพักต่อด้วยดูรูปแล้วกลับมาดูเป็นระยะๆเท่านั้นเอง
  9. ETZ (Elves the ziyt) บทนำ (เขาเรียกว่าบทนำสินะส่วนนี้ ไม่แน่ใจว่าเขียนแบบนี้รึปล่าวเขียนแบบมั่วๆเอา) เมื่อครั้งอดีตกาลโลกได้ล่มสลายลงและได้ก่อเกิดโลกใหม่โลกใหม่นั้นมีชื่อเรียกว่า Ziyt (ไซ้ย) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของโลกทุกคนที่เกิดมาในยุคของโลกใหม่นั้นสามารถใช้พลังงานที่มีชื่อว่า Energy ziyt ได้ทุกคนแต่จะมีบางตระกูลที่จะมี Energy ziyt maxซึ่งมีพลังมากว่า Energy ziyt ทั่วไปตระกูลที่มี Energy ziyt max นั้นเคยเป็นผู้ถูกเลือกจากพระเจ้าในยุคแรกเริ่มของยุคใหม่จึงทำให้เกิดสงครามกันระหว่างตระกูลผู้ถูกเลือกกับตระกูลผู้ถูกเลือกด้วยกันเองเพื่อแย่งชิงอำนาจความเป็นใหญ่เหนือใคร แต่เมื่อมีการสู้รบกันมากขึ้นจึงทำให้มีพลังงานใหม่ถือกำเนิดขึ้นซึ่งมีคนเรียกว่า ire ziyt ไซ้ยแห่งความแค้น ผู้นำแห่งกองทัพรัตติกาลได้นำ ire ziyt ไปใช้ในการบุกยึดเมืองต่างๆเพื่อจะให้เมืองๆนั้นมาเป็นทาสของตนพระเจ้าได้เห็นถึงความชั่วร้ายของผู้ที่ใช้ ire ziyt จึงได้ลงมาบนพื้นโลกและได้ส่งผู้ส่งสารให้นำ Energy ziyt max ไปให้ผู้ที่คู่ควรแก่มัน และแล้วยุคใหม่ของเหล่าผู้กล้าก็ได้ถือกำเนิดขึ้น (ภาคนี้เป็นภาคของพี่ชายซึ่งเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์) บทที่ 1 ผมวิ่งอยู่ท่ามกลางความมืดพร้อมกับจูงมือน้องชายวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างที่กำลังตามหลังมา ผมเริ่มเพิ่มความเร็วในการวิ่งเพื่อให้หนีพ้นจากเจ้าตัวนั้นแต่พอวิ่งไปเลื่อยๆจนเริ่มจะถึงทางออกผมก็ได้เจอกับฝูงหมาป่าอยู่ข้างหน้าเต็มไปหมดผมไม่มีทางสู่พวกมันได้แถมเปอร์เซ็นการรอดน้อยกว่าหันหลังไปสู้กับเจ้าตัวประหลาดที่ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวอะไรแต่คงจะมีโอกาสรอดมากกว่าแน่ถ้าดวงดีอะนะผมจึงหันหลังกลับไปสู้กับเจ้าตัวนั้นผมและน้องดึงดาบออกมาและเตรียมตัวโจมตีใส่เจ้าตัวประหลาดนั่นที่อยู่ในความมืดนั้นผมเริ่มโจมตีด้วยท่าฟันเป็นคนแรกก่อนน้องแต่ทว่าสิ่งที่ผมฟันใส่นั้นดันเป็น Golem ที่เป็นหินทั่วทั้งตัวทำให้ไม่สามารถฟันมันเข้าได้ยกเว้นจะใช้พลังของ Ziyt ทำลายมันแต่ผมยังใช้มันไม่ได้เลยมันก็คงเป็นแค่ข้ออ่างว่าไม่เป็นหนะแหละผมจึงจะบอกให้น้องผมหนีไปก่อนแต่ทว่าน้องของผมดันกระโดดฟันเข้าใส่ Golem ซะก่อนจึงทำให้ดาบนั้นหักและกระเด็นมาปักกางหลังผม ผมทรุดตัวลงหลังจากโดนปลายดาบของดาบที่หักปักกางหลังพอผมเงยหน้าขึ้นมาก็โดนมืออันใหญ่โตของ Golem หวดเข้าจังๆหลังจากนั้นผมก็หมดสติไป พอผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็ได้พบกับชายแปลกหน้าที่มีหูยาวผมตกใจแทบหัวใจว่ายรองเสียงลั่นเลยหละ “อะจ๊าก~~~~!!” ผมร้องออกมาตาแทบหลุดออกจากเบ้าตาเลยส่วนชายคนนั้นก็ตกเก้าอี้ไปเลยหละ อ๊ะ!! ผมลืมแนะนำตัวไปสินะผมชื่อว่า โอนิค มาร์ค เป็นแค่เด็กผู้ชายธรรมดาสูง 165 ส่วนอื่นก็ไม่ได้เด่นอะไรนักผมนั้นบังเอิญโดนอะไรไปก็ไม่รู้จึงจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ทันใดนั้นชายแปลกหน้าคนนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่โมโหแบบสุดๆ “อะไรนักหนาฟร๊ะ!! ตื่นขึ้นมาก็โหวกเหวกโวยวายเลย ท่า อลิช ไม่ขอให้ช่วยมาหละก็ชั้นคงปล่อยให้นายตายข้างทางก็ยังได้ตื่นมาก็หัดขอบคุณกันก่อนสิฟระไม่ใช่มาว๊ากใส่ชั้นก่อน” อะไรฟระตรูพึ่งตื่นได้ไม่นานก็โดนคนที่ไม่รู้จักหน้าคร่าตามาก่อนมาสวดใส่เลยเรอะเนี่ยผมชักยั้วแล้วสิทันได้นั้นก็มีเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า “นี่ ซอร์ด เข้าพึ่งตื่นก็ตะคอกใส่เข้าเลยเหรอยะ หัดพูดดีๆกับคนอื่นเขาให้ดีๆหน่อยสิ” โอ้โหทำหน้าหน้ากลัวมาเลยแหะดูท่าจะเป็นคนนี้สินะที่ชื่อ อลิช ช่างสวยงามจริงๆคงสูงประมาณ 160 ผมสีฟ้าดวงตาก็สีฟ้าเหมือนสีของน้ำหูยาวและก็ไว้ผมยาวนี่มันนางฟ้าชัดๆ “นี่!! นายก็เหมือนกันหัดขอบคุณคนที่แบกเธอมาซะสิ” ลามมาถึงเราแล้วสินะดูจากท่าทางของชายที่ชื่อว่า ซอร์ด นั้นคงสูงประมาณ 165 อย่างอื่นก็ไม่ได้แตกต่างจากผมแค่มีหูยาวเหมือนกับเธอคนนั้นที่ชื่อว่า อลิช แต่ดูท่าคนที่ชื่อว่า ซอร์ด ที่ดูท่าหน้าจะเก่งยังสั่นซะขนาดนั้นท่าไม่ทำตามที่พระนางผู้นั้นบอกมีหวังได้ตายแน่เลยเรา “ขะ....ขอบคุณนะทั้งสองคนที่ช่วยชั้นไว้” “ไม่เป็นไรหรอกเรื่องเล็กน้อยน่านะ” เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยเรอะเนี่ยเพิ่งเคยเห็นคนที่มีบุคลิกสองบุคลิกอย่างนี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยแล้วนี่เราอยู่ที่ไหนเนี่ยทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในบ้านหลังนี้ดูไม่เหมือนสิ่งที่เราเคยเห็นเลยแฮะ ผมจึงตัดสินใจถามทั้งสองคนว่า “ที่นี่คือที่ๆไหนหรอ?” ทั้งสองคนตอบพร้อมกันเหมือนเตี้ยมกันมาก่อนเลยว่า(ตามจริงอยากเติมว่าตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายแทนนะเนี่ย) “ที่นี่คือเมือง elements city” “หนอย เธอพูดตามชั้นทำไม อลิช” “ชั้นไม่ได้พูดตามนายซะหน่อยเขาถามชั้นชั้นก็ตอบเขาสิ เอ๊! ลืมถามไปเลยว่าเธอชื่ออะไรหรอจ๊ะ” (อลิช เหมือนจ้องอยากกิน โอนิค เลยแฮะ) เธอถามพร้อมกับลอยยิ้มอันแสนหวานแสนน่ารักดูยังไงก็คือนางฟ้าๆๆๆๆความหน้ากลัวของเธอตอนนั้นคงเป็นความฝันแน่ๆ ผมว่าทั้งสองคนนี้หน้าจะเป็นคนรักกันนะทะเราะกันเหมือนกับคู่สามีภรรยาเลย “อ๊ะ!! ผมชื่อ โอนิค มาร์ค ดูท่าผมจะหลงมาอยู่ที่เมืองแห่งนี้สินะ?” “คงจะใช่นะโอนิคคุง อ๊ะ!! เมื่อกี้เธอคิดว่าชั้นเป็นภรรยาของอีตานี่สินะ?” เฮือก!! รังสีแห่งความหน้ากลัวออกมาทั่วไปหมดจนทั้งห้องมีแต่บรรยากาศหน้าขนลุกแว้ว~~~!! แล้วนางฟ้าก็จะกลายเป็นซาตานแว้ว~~~!! เอ๊!! ไหงเธอถึงรู้ความคิดของผมได้ผมจึงลองถามดู “นะ...นี่เธอสามารถอ่านความคิดของชั้นได้ด้วยเหรอเนี่ย?” “ปล่าวซักหน่อยมันได้ยินหนะพวกชั้นเป็นชนเพาะเอลฟ์หนะเลยได้ยินเสียงที่คนปกติไม่สามารถได้ยินได้” หยั่งงี้ก็ได้ยินที่เราคิดหมดกันพอดีอะเดะแปลว่าเราจะไม่สามารถคิดไอไรแผลงๆได้เลยหนะสิหมดกันความคิดอันเป็นอิสระของชั้น “มีวิธีนึงนะที่จะทำให้พวกเราไม่สามารถได้ยินความคิดของนาย” “แล้วทำไงอะ? ถึงจะทำให้พวกนายไม่ได้ยินความคิดของชั้น” หลังจากผมพูดจบเธอก็บอกว่าให้เอามือข้างขวาปิดหูไว้แล้วเอามืออีกข้างนึงแหย่เข้าไปในรูจมูกแล้วก็ยิ้มกว้างๆ ผมก็ทำตามที่เธอบอกโดยไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเป็นการหลอกกัน พอผมทำตามให้ดูทั้งสองก็หัวเราะกันจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาเลยหละ แต่ทั้งสองก็ยังมีมารยาทอยู่ปิดปากเวลาหัวเราะผมด้วยนี่ผมเป็นตัวตลกใช่ไม้เนี่ยแต่คนที่กลั้นหัวเราะไม่อยู่ก็เป็นซอร์ดเป็นเสียงหัวเราะที่สุดๆจริงๆ “ฮึๆๆๆๆๆก๊ากๆๆฮะ...ฮาจนปวดท้องหมดแล้ว ฮะๆไม่หน้าเชื่อจริงๆว่านายจะทำตามจริงๆก๊ากๆๆๆ” ผมก็โมโหเป็นนะไม่ใช่ปล่อยให้คนอื่นแกล้งแล้วหัวเราะจนหน้าบานแล้วจะไม่โมโหใครไม่โมโหก็บ้าไปแล้วผมเลยกำมือแน่นๆไว้เพื่อระบายความโกรธพร้อมกับท่องในใจว่า จงจำไว้ว่าทั้งสงคนช่วยเราไว้ผมท่องไปได้ซักสิบรอบได้ทั้งสองคนก็พูดว่า “วิธีทำให้คนอื่นไม่ได้ยินความในใจก็แค่เอาไอนี่ไปใส่ไว้ที่ข้อมือเท่านั้นแหละ” ซอร์ดยื่นกำไลข้อมือที่มีลายอัขละเต็มไปหมดมาให้ผม พอผมได้ปุ๊บผมก็ใส่โดยไม่รอช้าและไม่คิดว่ามันอาจจะเป็นกับดักอีกรอบก็เป็นได้ “ไม่ต้องระแวงขนาดนั้นหรอก ชั้นไม่แกล้งนายอีกหรอกหน้ากังวลไปได้” ที่รู้นี่คงไม่ใช่ยังได้ยินอยู่ใช่มะหรือว่าสีหน้าผมมันบ่งบอกแต่ว่าสีหน้าผมมันคงไม่บ่งบอกจนเขารู้ขนาดนั้นหรอกแน่ๆเลยผมคิดมากไปมาอยู่สักพักพอเริ่มคุมสติให้สงบได้ก็มีเสียงของบางสิ่งบางอย่างกำลังเดินมาทางนี้เสียงมันคล้ายกับเสียงที่ผมเคยได้ยินมาก่อนแต่ผมก็คิดไม่ออกว่าผมเคยได้ยินมันมาจากที่ไหนดูท่าผมจะเสียความทรงจำก่อนหน้านี้ไปทั้งหมดเลยสินะพวกผมทั้งสามจึงวิ่งออกไปดูว่าเจ้าของเสียงนั้นมันคือตัวอะไรพอผมได้เห็นเจ้าตัวนั้น........................(เดียวค่อยเขียนต้องมาติชมผมก่อนว่าต้องแก้ตรงไหนอีกไม่ติเดียวเขียนต่อมันจะเน่าหนักกว่าเก่า) ครั้งนี้หน้าจะไม่ค่อยมีส่วนที่ผิดมากเหมือนครั้งที่แล้ว (มั้งนะ)
  10. หมดความสัทธาในโงกุนเลย ตูจะเชียเบจิต้าแทนสู้โงกุนให้ได้นะเบจิต้า
  11. อยากได้มาเล่นซักเครื่องแฮะ
  12. คนรู้จักของท่านเมพจริงๆ
  13. พอเปิดเทอมแล้วเวลาว่างมันช่างน้อยจริงๆ

×
×
  • Create New...