Jump to content

sanee17

Members
  • Content Count

    11
  • Joined

  • Last visited

About sanee17

  • Rank
    Member

Profile Information

  • Gender
    Not Telling
  1. จัดอันดับรถรุ่นยอดนิยมที่หายโดยวิทยุ FM 91 *ประเภทรถยนต์นั่ง* อันดับ 1 ได้แก่......... Toyota Vios ครับ เป็นสุดยอดรถหายแห่งปี เพราะเป็นที่นิยมของประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยรูปทรงที่กะทัดรัด คล่องแคล่ว อะไหล่หาง่าย และสีหายยอดนิยมก็คือ สีบรอนซ์เงิน สีบรอนซ์เทา สีดา ครับ อันดับ 2 ได้แก่ ....... Honda Jazz ครับ เนื่องจากเป็นรถยอดนิยม และผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็เป็นสตรี ดังนั้น การระแวดระวัง จะน้อยกว่า ดังนั้น จึงหายจนเป็นเรื่องปรกติของรถรุ่นนี้ครับ สียอดนิยมที่มักจะหาย คือ สีขาว อันดับ 3 ได้แก่........ Toyota Yaris ที่ตกหล่นมาจากอันดับ 2 เพราะยอดจาหน่ายยังสู้อันดับ 2 ไม่ได้ แต่ที่ยังหายเยอะ เนื่องจาก Toyota ได้ขยับลดราคาของรถรุ่นนี้ โดยออกเป็นรุ่น E ออกมา ทาให้ตลาดคนใช้เยอะเหมือนๆกัน แล้วสีที่หายยอดนิยมได้แก่ สีแดง ครับ อันดับ 4 ได้แก่ ......... Honda Civic เนื่องจากรถ Honda ถือว่าเป็นรถมีระดับในประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น Civic เก่า หรือใหม่ ก็สามารถส่งขายได้หมด เหมือนกัน ครับ สี่ที่หายยอดนิยมก็คือ สีดา สีขาว สีบรอนซ์เทา *ส่วนประเภทรถตู้ที่หายยอดนิยม* ก็ ได้แก่ Toyota New Hiace Ventury ก็ไม่รู้ว่ารถตู้รุ่นใหม่ๆ นี่คันบะเริ่ม มันขโมยไปได้อย่างไรเหมือนกันครับ และสีที่หายยอดนิยม กลับเป็นสีขาว เสียด้วย ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ไม่ค่อยจะปรากฎว่าหายสักเท่าไหร่น่ะครับ *ส่วนรถกะบะบรรทุกยอดนิยม ได้แก่ อันดับ 1 Toyota Vigo ครับ หายได้ทุกรุ่น ทุกสี โดยเฉพาะ รุ่นแค็ป ขับสองธรรมดา จะหายทุกๆวัน วันละหลายๆคัน อันดับ 2 Isuzu Dmax ครับ หายได้ทุกรุ่นเหมือนกัน แต่รุ่นที่หายยอดนิยมกลับเป็น Hi-Lander ยกสูง นัยว่า เข้าตาประเทศเพื่อนบ้านครับ มัน " มะ " ที่ได้ใช้ว่างั้นเถอะ เครดิสข้อมูล คุณsamuri แห่งเวป http://www.ilovebrio.com และ สวพ.FM 91 ทราฟฟิค โปร (Traffic Pro) คลื่นเพื่อข่าวสาร ความปลอดภัยและจราจร กองตำรวจสื่อสาร หมายเลข 1644 "โทร.ฟรี" 0-2562-0033-4 และ 0-2941-0847-50 ของทางสถานี เพื่อขอความร่วมมือประกาศ ประชาสัมพันธ์สังเกตยานพาหนะรถยนต์ ถูกกลุ่มคนร้ายโจรกรรมไป
  2. ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช. ) ในวันนี้ ( 9 พ.ย.2554) ได้มีมติในเรื่องสำคัญสุด คือแนวทางในการบริหารสถานีวิทยุ 1 ป.ณ. เป็นกรรมสิทธิ์เดิมของกรมไปรษณีย์ ตอนนี้ได้โอนย้ายมาเป็นของ กสทช. แล้ว แต่ยังให้เอกชนเช่า อาทิ คลื่น 106.5 และ 98.5 ซึ่งถ้ายังให้เช่าต่ออาจสร้างความขัดแย้งกับบทบาทของกสทช. เพราะอยู่ภายใต้การบริหารของกสทช. เอง จึงสั่งให้ระงับไม่่ให้มีการต่อสัญญาเช่าตั้งแต่วันที่ 1 มค. 2555 เป็นต้นไป โดยสัญญาทั้งหมดจะสิ้นสุดภายในสิ้นปีนี้ทันที 9 สถานี ใน 6 พื้นที่ แบ่งเป็นFM 5 คลื่น และAM 4 คลื่น ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คลื่นวิทยุ 106.5 ปัจจุบันบริษัทในเครือแกรมมี่เช่าอยู่ ภายใต้ชื่อรายการวิทยุ"กรีนเวฟ" เสียค่าเช่า เดือนละ 2.7 ล้านบาทต่อเดือน โดยคลื่นกรีนเวฟเริ่มออกอากาศมาตั้งแต่ 1 ต.ค.2533 ส่วนคลื่น 98.5 ปัจจุบันเช่าโดยกู๊ดเอฟเอ็ม สำหรับรายได้จากค่าเช่าทั้ง 9 สถานี อยู่ที่เดือนละ 6 ล้านบาท (โอนมาจากปณ.มายังกทช.ตั้งแต่ปี 2547 ) โดยน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าถ้ายังให้เช่าต่อจะขัดแย้งกับบทบาทกสทช. ที่เป็นผู้กำกับดูแล จึงมีมติระงับการต่อสัญญาเช่าตั้งแต่ 1 มค. 2555 เป็นต้นไป เนื่องจากสัญญาเช่าที่เอกชนทำไว้จะสิ้นสุดสิ้นปี หลังจากนี้ คลื่นจะถูกดึงมาเพื่อจัดสรรใหม่เมื่อทำแผนแม่บทเสร็จ "การใช้คลื่น 1 ป.ณ. หลังหมดสัญญาเช่า บอร์ดเล็กคงต้องคุยกันว่าระหว่างที่จะยังไม่จัดสรรใหม่จะนำคลื่นนี้มาทำประโยชน์สาธารณะได้อย่างไร อาทิ การเป็นช่องทางรับรู้ข้อมูลข่าวสารเรื่องภัยพิบัติให้เร็วขึ้น จนกว่าแผนแม่บทจะนับหนึ่งได้ เพื่อไม่ให้คลื่นเสียไปเฉยๆ จะไปให้คนอื่นเช่าก็เหมือน กสทช. จะทำผิดเอง กสทช. ต้องการจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างว่าจะจัดสรรและบริหารคลื่นใหม่อย่างไรตาม พ.ร.บ. เราคงให้เอกชนเช่าคลื่นชั่วคราวไม่ได้ " เครดิสข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ
  3. 1 ใน 3 ของชีวิตคนเราต้องนอน และท่านอนนี้เองที่เป็นสาเหตุการปวดในคนหมู่มาก หากแก้ไขที่ต้นเหตุได้อาการปวดก็จะลดลง ไม่ได้หมายความว่า ให้อดหลับอดนอน เพราะสาเหตุที่ว่านี้ก็คือ อุปกรณ์เครื่องนอนอันได้แก่ หมอนและที่นอน ถือเป็นโจทย์หมายเลขหนึ่งของอาการปวดเมื่อย หลังการตื่นนอนในเช้าที่ควรจะสดชื่น หลังจากนอนหลับเต็มอิ่มตลอดคืน จนต้องถามหายาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ แถมซ้ำร้ายบางวันไม่สามารถหันคอหรือเอียงคอ ต้องพึ่งมือหมอนวดบีบๆ จับๆ ให้วุ่นวาย "คนไข้ของผมกว่า 70% มาด้วยอาการปวด สาเหตุเกิดจากการเรียงตัวไม่ได้รูปของกระดูกสัน ซึ่งประกอบด้วย กระดูกเอว 5 ชิ้น กระดูกคอ 7 ชิ้น หน้าอก 12 ชิ้น กระดูกกระเบนเหน็บ 1 ชิ้น ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนโช้คอัพให้กับร่างกายในการเคลื่อนไหวนั่นเอง" นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง ระบบประสาทและกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลปิยะเวท กล่าว อาการปวดที่เกิดจากการนอนมีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น หมอน ตัวที่นอน และท่านอน หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่สอดรับกับสรีระของร่างกายรับรองทั้งชาติก็ไม่มีวันหายปวด แต่หากปวดแล้วมีร่วมด้วยอย่างแขนขาอ่อนแรง ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน อาการชา หรือรู้สึกเหมือนไฟช็อต ควรรีบพบแพทย์ทันที อย่ารอให้หายเอง เพราะอาจไม่ใช่แค่ปวดธรรมดา แต่อาจพบว่ามีโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นตามมา อย่างไรก็ตาม อาการปวดเมื่อยเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะหลัง คอ ศีรษะ แขน ขา ส่วนมากเมื่อเป็นแล้วจะรักษาด้วยยาแก้ปวด หรือยาทาบริเวณที่ปวด เมื่อยาหมดฤทธิ์ อาการปวดแบบเดิมๆ ก็กลับมาเป็นซ้ำๆ อีก เพราะต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคไม่ได้รับการรักษาโดยตรง คุณหมอบอกว่า คนไข้กว่า 70% มีสาเหตุของอาการปวดจากการนอนผิดท่า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการนอนหมอนสูง ทำให้กระดูกบริเวณคอไม่เรียงตัวแบบที่ควรจะเป็น เมื่อตื่นมาจึงปวดคอเรื้อรัง ไม่ว่าจะกินยาหรือนวดเท่าไรก็ไม่หาย ฉะนั้น หากปรับที่หมอนและท่านอน ก็สามารถหายขาดได้ "หมอนที่ใช้หนุนศีรษะไม่ได้สำคัญที่ราคา แต่ที่ดีควรรองรับกับคอ ไม่สูง ไม่ต่ำ หรือแข็งเกินไป เพราะจะเกิดแรงกดที่คอและมีอาการปวดคอตามมาได้อีก รวมถึงเมื่อหนุนแล้วโครงหน้าของผู้นอนไม่ควรสูงหรือต่ำกว่าลำตัว แต่ให้นอนแล้วใบหน้าตะแคงเป็นระนาบเดียวกับลำตัวจึงจะถือว่าถูกสุขลักษณะ นอนแล้วไม่เมื่อย" เช่นเดียวกับที่นอน ซึ่งมีหลายแบบให้เลือก ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับสรีระของแต่ละคน เช่น ที่นอนสปริงซึ่งคืนตัวได้ดี แต่อายุของสปริงใช้ไปนานๆ อาจสูญเสียการคืนตัว ที่นอนแบบใช้นุ่นจะมีปัญหาเรื่องการคืนรูป นอนแล้วรูปไหนรูปนั้น ที่นอนแบบกาบมะพร้าวจะมีเนื้อแข็งเกินไปนอนแล้วเกิดแรงกดทับ หรือแบบฟองน้ำปิกนิกจะเหมาะกับการนอนชั่วคราว หากใช้นอนต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะเกิดอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวตามมาในภายหลัง และยังมีที่นอนยางพารา ซึ่งอากาศถ่ายเทดี แต่ข้อเสียอยู่ที่น้ำหนักมากและราคาแพง "ไม่ว่าใครจะเลือกแบบไหน ต้องเน้นว่าไม่ควรแข็ง หรือนุ่มยวบ เพราะเวลานอนแล้วสรีระจมลงในที่นอนก็ไม่ได้ช่วยให้คลายปวด การเลือกควรดูร่างกายของผู้นอนเป็นหลัก อย่างเช่น คนไหล่กว้างหรือสะโพกใหญ่ อาจเลือกที่นอนนิ่มเพื่อให้รองรับกับสรีระ ระดับความสูงของเตียงควรเลือกที่ขณะหย่อนขาลงมาแล้วตั้งฉากกับพื้น 90 องศา เพื่อลดแรงกดที่ข้อเข่าขณะลุกจากเตียงอีกทางหนึ่ง" สำหรับท่านอนที่หลับสบาย ตื่นมาแล้วไม่ปวดทั่วตัว ควรเป็นท่าตะแคงและก่ายหมอนข้าง จะทำให้กระดูกที่กล่าวมาข้างต้นเรียงตัวในแบบธรรมชาติ ไม่เกิดการกดทับ จนทำให้เกิดอาการปวดหลังตื่นนอน ส่วนผู้ที่ชอบท่านอนหงาย แม้เป็นท่านอนที่ไม่ดีเท่าไรนัก แต่ก็สามารถปรับให้ถูกสุขลักษณะ ได้ด้วยการนำหมอนไม่นิ่มหรือแข็งเกินไปมารองที่บริเวณใต้หัวเข่าหรือบริเวณน่อง เพื่อให้กล้ามเนื้อและกระดูกได้งอ ไม่เกร็งจนเมื่อยหรือเกิดอาการชา และไม่ควรนอนอ่านหนังสือเพราะจะทำให้กระดูกคอทำงานผิดท่าเป็นเวลานาน จนเกิดอาการปวดเมื่อยตามมา ท่าลุกจากเตียงก็สำคัญ หลายคนอาจลุกโดยยกศีรษะขึ้นจากเตียง หรือใช้ตัวดันร่างขึ้นจากเตียง เป็นวิธีที่ผิดและทำร้ายกระดูกอย่างมาก วิธีที่ถูกต้องควร ยื่นขาออกมาข้างเตียงและใช้แขนดันตัวให้ลูกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งห้อยขา ท่านี้จะเซฟกระดูกและข้อบริเวณสำคัญๆ ได้มาก นอกจากท่านอน ท่านั่งกับเก้าอี้ก็สามารถนำมาซึ่งอาการปวดและเมื่อยได้เช่นกัน ท่านั่งที่ดีผู้นั่งควรยกเข่าขึ้นสูงกว่าระดับต้นขา หรือมีที่รองเท้าเพื่อยกขา ไม่ให้แนบกับตัวเก้าอี้ เพราะท่านั่งที่ขาแนบกับเก้าอี้เป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย รวมถึงไม่ว่าจะนั่ง ยืนหรือเดิน ควรอยู่ในท่าหลังตรง ไม่ก้มมาข้างหน้าหรืองอไปข้างหลังจนเสียสมดุล จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยจากท่าทางได้ ครั้งหน้าหากเกิดอาการปวด ลองพยายามหาสาเหตุให้เจอ แล้วค่อยๆ แก้ไขให้ได้ โดยไม่พึ่งพายาแก้ปวด ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว เครดิสข้อมูลจาก กานต์ดา บุญเถื่อน และ http://www.bangkokbiznews.com และ นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล ครับ
  4. เวลานี้มีผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศ รถยนต์ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและสำคัญสุดเสียหายเรือนหมื่นคัน รถคันที่มีประกันภัยก็ค่อยเบากระเป๋า แต่ถ้าไม่มีประกันถือว่าสาหัสนัก เปิดโลกยนตกรรม สัปดาห์นี้ รวบรวม ความรู้เบื้องต้น เรื่องรถน้ำท่วมเพื่อให้ท่านผู้อ่านรู้ทันความเสียหายจากน้ำ 1.น้ำท่วมแล้วรถเสียหายเลยหรือไม่ กรณีการท่วมทั้งคัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาแช่น้ำนานเพียงใด ถ้าแช่น้ำไม่นานเกินไป หรือกู้ได้ในทันทียังไม่เสียหายมาก แต่หากว่า แช่น้ำหลายวัน โอกาสรถต้องซ่อมใหญ่มีอยู่สูงมากกรณีขับรถไปแล้วเครื่องยนต์ดับกลางน้ำ น้ำเข้าภายในเครื่องยนต์ได้ ความเสียหายจะเกิดขึ้นทันที กรณีนี้ต้องมีวิธีจัดการอย่างถูกต้องเพื่อลดความเสียหาย การเคลื่อนย้ายอย่างถูกต้องจะช่วยลดค่าซ่อมลงได้มาก นอกจากนี้อายุของรถก็มีส่วนเกี่ยวข้อง รถเก่าแล้วจะซ่อมให้คืนสภาพเดิมยากกว่ารถใหม่ 2.อะไรคือชิ้นส่วนเสียหายร้ายแรงกรณีน้ำท่วมทั้งคัน ความเสียหายจากน้ำเกิดจากแรงดันของน้ำ และความชื้น ทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหายแทบทุกชิ้น อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับระยะการแช่น้ำด้วย น้ำและแรงดันน้ำ จะทำให้อุปกรณ์เสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ ถ้าแช่นานไม่เว้นแม้แต่ผ้าเบรก ก็จะเปื่อยยุ่ยอุปกรณ์ภายในเบาะพรมคอนโซลรถเสียหายแล้วกลับคืนได้แต่ชิ้นส่วนที่อ่อนไหว เช่น ระบบไฟฟ้าทั้งหมดเช่น ชิ้นส่วนมอเตอร์ขับเคลื่อน และกล่องอีซียู ถือว่ามีความอ่อนไหวมากสุดเพราะว่าความชื้นจากน้ำทำให้ระบบไม่ทำงาน 3.อีซียู คืออะไร อีซูยู หรือ Electronic Control Unit ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด อีซูยู เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือทำหน้าที่เหมือนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก คอยควบคุมบริหารจัดการระบบเครื่องยนต์ เช่นระบบไฟฟ้า ระบบการจ่ายน้ำมัน และระบบเชื่อมโยงอื่นๆ ของรถช่างมักเรียกอีซูยูว่า สมองกล ซึ่งภายในมีชิพคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ทำหน้าที่ประมวลผล อีซียู มักติดตั้งอยู่ในส่วนบนสุดของห้องเครื่องยนต์หรือในห้องโดยสารและได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็นกล่องโลหะเล็กๆ แข็งแรง กันความชื้นและความร้อน มีปลั๊กไฟเชื่อมต่อ แม้ได้รับการออกแบบและปกป้องอย่างดี จากน้ำและความร้อน แต่ระบบก็ไม่ได้ ออกแบบรองรับ กรณีที่น้ำท่วมรถจมมิดไปทั้งรถ และแช่น้ำเป็นเวลานาน อีซูยูซึ่งมีราคาแพงจึงมีโอกาสเสียหายมาก 4.อาการเสียของอีซียูเป็นอย่างไร หากเกิดการช็อกภายในของกล่องอีซูยู อาจจะทำให้ไอซีต่างๆ ภายในเสียหายรถจึงไม่สามารถสตาร์ทติด หรือหากเครื่องติดได้กรณีอีซูยูทำงาน ไม่สมบูรณ์ระบบของเครื่องยนต์ ระบบไฟ ก็จะรวน 5.น้ำท่วมลึกแค่ไหนรถพัง รถยนต์ได้รับการออกแบบมาป้องกันน้ำเข้าไปทำความเสียหายได้ระดับหนึ่งเห็นได้จากการที่เราสามารถล้างด้วยน้ำได้ ปกติการขับรถลุยน้ำ สามารถทำได้ระดับหนึ่ง แต่จุดที่แสดงให้เห็นสัญญาณอันตรายขณะลุยน้ำ น้ำลึก คือ กรณีท่วมเกินเครื่องยนต์ ซึ่งหมายถึงกรองอากาศจะถูกท่วมไปด้วย 6.ช่องทางน้ำเข้าเครื่อง น้ำเข้าไปทำความเสียหายให้รถได้หลายช่อง กรณีจมทั้งคันน้ำจะเริ่มอัดเข้าไปทางห้องโดยสารและเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ ผ่านกรองอากาศ เข้าท่อร่วมไอดี ในขณะที่ถ้ารถจมน้ำน้ำจะเข้าทางอื่นๆ ด้วยเช่น ก้านวัดน้ำมันเครื่องยนต์ ส่วนเกียร์และเฟืองท้าย การขับลุยน้ำอาจจะไม่มีผลมากนัก แต่หากว่าน้ำสูง ทั้งเกียร์และเฟืองท้ายต้องการท่ออากาศสำหรับหายใจ ดังนั้นถ้ารถหยุดหายใจหรืออยู่กลางน้ำ มันก็เป็นทางที่ทำให้น้ำเข้าด้วยเหมือนกัน ในรถที่ใช้ภารกิจพิเศษ จะมีการต่อท่อหายใจของเฟืองและเกียร์ให้พ้นน้ำเพื่อลดความเสี่ยง 7.น้ำเข้าท่อไอเสียได้หรือไม่ น้ำเข้าท่อไอเสียได้แต่โอกาสผ่านไปยังเครื่องยนต์และทำให้เกิดความเสียหายยาก เพราะว่า ต้องผ่านแคททาไลติก คอนเวอร์เตอร์หรือตัวกรองไอเสีย รถที่ลุยน้ำลึกต้องต่อท่อไอเสียเพื่อให้รถหายใจสะดวก มากกว่ากันน้ำเข้าไปทำความเสียหาย 8.รถเบนซินกับรถดีเซล อย่างไรเสียหายมากกว่ากัน รถยนต์ที่ใช้ระบบเครื่องยนต์เบนซินเสียหายมากกว่าเมื่อจมน้ำ เพราะว่ามีกลไกของไฟฟ้าเยอะกว่า ในขณะที่ดีเซลใช้ระบบอัดอากาศแล้วจุดระเบิดภายในด้วยแรงดัน เครื่องยนต์ดีเซลจึงรับมือกับน้ำได้ดีกว่าอย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ดีเซลสมัยใหม่ใช้เทอร์โบช่วย อัดอากาศ ขณะขับขี่ 9.เครื่องเสียหายได้อย่างไร กรณีรถจมทั้งคัน น้ำจะเข้าไปยังกรองอากาศและผ่านท่อไอดี เข้าไปยังท่อวัดน้ำมันเครื่อง ขณะที่เครื่องหมุน ลูกเลื่อนลงจะดูดไอดีที่มีแต่น้ำเข้าไปในกระบอกสูบ เมื่อลูกสูบเลื่อนสู่ศูนย์ตายบน ในจังหวะอัด วาล์วไอดีและไอเสียปิดจะทำให้น้ำกลายเป็นมวลหนาแน่น เกิดแรงดันมหาศาลในกระบอกสูบ ทำให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เช่น ลูกสูบ ก้านสูบ ชาฟท์ เพลาข้อเหวี่ยง เสียหาย นอกจากนี้หากแช่ขังนานๆ สนิมขึ้นภายในชิ้นส่วนเครื่องยนต์ สูบติด แหวนตาย ระบบหล่อเย็นเสียหาย สุดท้ายเครื่องยนต์ไม่สามารถหมุนได้ 10.จมน้ำท่วม ต้องยกห้ามลาก ความพยายามติดเครื่องหรือการทำให้ลูกสูบหมุน จะทำความเสียหายใหญ่หลวงให้แก่รถที่จมน้ำ เพราะว่าเครื่องยนต์หมุนเท่ากับการอัดน้ำในกระบอกสูบ ดังนั้นต้องแน่ใจว่าน้ำไม่ค้างในท่อไอดีและกระบอกสูบแล้วจึงสามารถเคลื่อนรถได้ การทดลองหมุนเครื่อง เพื่อไล่น้ำทำได้โดยการถอดหัวเทียนออกให้หมดทุกสูบแล้วเท่านั้น การกู้รถ ต้องเข้าใจระบบสำคัญ กรณีจมน้ำนาน ห้ามเข็นหรือลาก ต้องยกเท่านั้น การลากทำให้ล้อหมุน ไม่แตกต่างไปจากการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อหลีกเลี่ยงการหมุนของเครื่องยนต์ หากต้องการเคลื่อนรถต้องยกอย่างเดียว หรือหากทำไม่ได้ให้ ถอดหัวเทียนทั้ง 4 หัวออกเพื่อเปิดทางให้น้ำถูกไล่ออกจากกระบอกสูบก่อน นอกจากนี้หากนำรถเข้าอู่ ต้องบอกสภาพน้ำท่วมแก่ช่างให้ละเอียด มิฉะนั้นช่างจะวินิจฉัยไม่ถูก เครดิสข้อมูลจากเปิดโลกยนตกรรม : 10เรื่องรถน่ารู้ 'สู้ภัยน้ำท่วม' โดย...ยุทธพงษ์ ภาษี และ คม ชัด ลึก online ครับ
  5. เกร็ดความรู้ สูตรยาแก้“น้ำกัดเท้า”เวอร์ชั่นง่าย จำต้องลุยน้ำออกเดินทาง แนะใช้ “วัตถุดิบก้นครัว” และ “สมุนไพรใกล้ตัว” ทำสูตรยา “แก้น้ำกัดเท้า” อย่างง่าย น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ทำหลายคนกลายเป็นผู้ประสบภัย ใครที่ยังทำงาน หรือเดินทางเป็นประจำทุกวัน ต้องจำใจลุยออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และส่วนใหญ่มักพบปัญหา “น้ำกัดเท้า” ตามมา อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่หยูกยาก็ค่อนข้างหาลำบาก วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” มี “วัตถุดิบก้นครัว” พร้อม “สมุนไพรใกล้ตัว” มาแนะนำ ประยุกต์ใช้เป็นยา “แก้น้ำกัดเท้า” ได้ในช่วงวิกฤติ โดยหลังฝ่าน้ำสกปรกกลับบ้าน ควรรีบล้างเท้าให้สะอาด ใช้ “น้ำส้มสายชู” ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาด 2 ลิตร แช่เท้า ก่อนล้างเท้าอีกรอบให้สะอาด เน้นซอกเล็บ-ง่ามนิ้ว แล้วเช็ดเท้าให้แห้ง วิธีนี้สามารถป้องกันน้ำกัดเท้าได้ แต่หากใครโดนเล่นงานเข้าให้แล้ว เพียงเก็บ “ใบพลู” มาล้างให้สะอาด ตำ แล้วพอกแผลน้ำกัดเท้า ก็จะบรรเทาอาการได้ เนื่องจาก “ใบพลู” มีน้ำมันหอมระเหย เรียกว่า Betel oil ช่วยบรรเทาอาการคัน และฆ่าเชื้อโรคบางชนิด. ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
  6. แจก mp3 สำหรับสาวก x-japan ชุด Ballad Collection ครับ http://www.4shared.com/file/BpGto5ys/X_Japan_Ballad_Collection.htm
×
×
  • Create New...